หนึ่งเดือนผ่านไป
ผับแห่งหนึ่ง
"อีแซน ในที่สุดก็ว่างออกมากับพวกกูแล้วนะมึงอะ" ยัยรินตะโกนเสียงดังท่ามกลางเสียงเพลงที่มันส์และดังสุดๆ ที่มันพูดแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอกนะ คือหลังจากวันที่ฉันหนีออกมาจากคอนโดผู้ชายคนนั้น พ่อฉันก็ดโทรเรียกฉันกลับบ้านด่วนเพราะปู่ป่วยนอนโรงพยาบาลหน่ึงเดือนเต็ม แถมพ่อแม่พี่ป้าน้าอาก็ดันไม่ว่าง มีแวะมาบ้างแต่ก็ได้แค่วันสองวัน ฉันที่ทำงานเป็นนางแบบฟรีแลนซ์ ก็คือว่างที่สุดในบ้าน ก็เลยต้องรัหน้าที่ดูแลปู่ที่โรงพยาบาลแบบเต็มกำลัง แต่ที่พูดไม่ใช่ว่าฉันไม่ห่วงปู่หรอกนะ อันที่จริงก็เป็นฉันที่อยากอยู่เฝ้าแกเองด้วยนั่นแหละ จะจ้างพยาบาลก็กลัวเขาทำได้ไม่ดีเท่าตัวเอง สุดท้ายหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็คือฉันอยู่โรงพยาบาลที่ต่างจังหวัดตลอดเลยจ้ะ พอบินมาถึงกรุงเทพปุ๊บ ยัยพวกนี้ก็ลากออกมาเมาทันทีทันใดเลย
"วันนี้เบาๆ ไม่เมานะมึง" ฉันบอกยัยพวกนั้น เอาจริงๆนะ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ระวังตัวจากคนแปลกหน้าตลอด ไม่กล้ารับแก้วหรือดื่มเหล้าจากคนอื่นอีกเลย กลัวตัวเองโดนยาแล้วไปหาปล้ำคนอื่นอีก เอาจริงๆ ตอนนั้นฉันโชคดีตรงที่คนที่ฉันข่มขืนเขาไม่ทำอะไรหรือปล่อยฉันทิ้งกลางป่าอะ คือฉันยังคิดมาถึงทุกวันนี้เลยนนะว่า ฉันยังมีความโชคดีในความโชคร้ายอยู่บ้างอะ แล้วแถมเป็นถึงหมอ หล่อด้วย อรั้ยยย แล้วจะคิดหน้าเขาขึ้นมาให้ตัวเองอายทำไมวะเนี้ย
"เอา หยุดคิดเรื่องอื่นแล้วดื่มจ้าเพื่อนสาว" ยัยนาวที่เห็นฉันเหม่อก็จับแก้วที่มีเหล้าเพียวๆอยู่ครึ่งแก้วยัดใส่มือฉัน พร้อมหน้าตาท้าทายจากทั้งสามคน เออ ให้มันได้อย่างงี้ กูบอกเบาๆ อีพวกนี้ก็กะเอาเบาหวิวลย "ดื่มเลย ดื่มเลย ดื่มเลย" อะ คะยั้นคะยอเก่งกันเหลือเกิน ฉันชี้แก้วใส่พวกมันสามคนอย่างคาดโทษ ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากจนหมดแก้ว
"น้ำๆ" ฉันรีบดื่มโค้กตามอย่างไว อื้อหือออออ หวานเชียววว
"ตามึงค่าาาาา" ฉันเทเหล้าสีน้ำตาลใสใส่แก้วเดิม ปริมาณก็มากกว่าฉันหน่อยนึงอะนะ ยื่นให้ยัยนาวคนที่เอาเหล้านั่นให้ฉัน พร้อมยักคิ้วท้าทายหล่อน
"กะเอากูตายว่างั้นมึงอะ" ฉันยักไหล่ ถึงมันจะบ่น แต่มันก็รับไปดื่มจนหมดเหมือนเดิมนั่นแหละ แถมไม่ต้องน้ำตามด้วยนะบอกเลย ตัวมัมสุด
"เอาๆ วนจ้าาาาา" และแก้วเพียวนั้นก็วนกันไปเรื่อยๆ จนหมดขวดใหญ่และฉันที่เริ่มตาจะเบลอแล้ว
"เมาแล้ว พอเหอะ" ฉันตะโกนบอกเพื่อน แต่ยัยเพื่อนตัวดีก็หันไปพูดกับเด็กเสิร์ฟ ซึ่งถ้าพูดกับเด็กเสิร์ฟนะ ไม่ต้องบอกก็รู้ เติมเหล้าแน่ๆ
"นาว กูเมาแล้วอิดอก" ฉันตะโกนด่านาวแต่มันก็ไม่ค่อยสนหรอกนะ หันไปเต้นต่อแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนอื่นก็เหมือนกัน เออ ให้มันได้อย่างงี้ กูงดเหล้ามาตั้งเดือนนึง เจอกันทีกะเอากูตายเลย ยังไม่หลาบไม่จำที่กูไปข่มขนผู้ชายอีกนะ
"สนุกน่ามึง ตั้งเดือนนึงที่มึงไม่อยู่เลยน้า อย่าไปคิดเรื่องนั้นเลย วันนี้พวกกูอยู่โต๊ะครบ ไม่มีทางเกิดเรื่องเดิมซ้ำแน่นอน" ยัยพิชที่รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ก็พูดปลอบเพื่อให้ฉันสบายใจขึ้น เอาวะ วันนี้ฉันไม่ได้รับเหล้ามาจากใคร แถมระวังตัวมากๆด้วย มันคงไม่เกิดเหตุการณ์นั้นหรอก..มั้ง
"มึง พาไปเข้าห้องน้ำหน่อย รู้สึกมึนๆ" ฉันสะกิดยัยพิช ปกติฉันไม่ใช่คนคออ่อนนะ นี่ก็พึ่งผ่านไปแค่ 2 กรมเอง แถมฉันยังกินน้อยกว่าปกติอีกต่างหาก
"เค" ฉันเกาะแขนยัยพิชแน่น ระหว่างทางมาห้องน้ำ มันมึนๆ อยากจะอ้วก อยากจะนอน ฉันไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลยนะ ปกติถ้าฉันเมาคือหลับ แต่ไม่อ้วก และไม่มึนแบบนี้ นี่ไม่ได้กินเหล้าแค่เดือนเดียวทำให้คอฉันอ่อนลงนาดนี้เลยหรอเนี้ย
"กูรอหน้าห้องน้ำนะ มึงเข้าไปเองไหวมะ" ยัยพิชบอก เพราะข้างในคนเยอะมาก
"อือเค" ฉันพยักหน้าให้มันเล็กน้อย ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำที่เหลือว่างเพียงห้องสุดท้าย "อ้วกกกกกกกก" หมด หมดไส้หมดพุง ข้าวผัดที่กินมาเมื่อเช้าก็คือหมดเลย ยังไม่ย่อยด้วยซ้ำ "อ้วกกกกกกกกกกกกก"
ไม่ไหว ฉันเป็นอะไรไปเนี้ย มึนหัวไปหมด ปกติถ้าคนเมาอ้วกมันจะหายเมาหายมึนไม่ใช่หรอ ทำไมฉันยิ่งมึนหนักกว่าเดินอะ
"พิช" ฉันเดินโซซัดโซเซออกมาหายัยพิชที่หน้าห้องน้ำ
"เฮ้ยแซน ไหวไหมเนี้ย" ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ ยัยพิชก็จับแขนฉันไว้แน่น "ไปๆมึง ค่อยๆเดินนะ"
พลั่ก
"ขอโทษครับ" ฉันโบกมือให้ชายที่มาชนเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เพราะในนี้ทั้งมืด แถมคนเข้าห้องน้ำก็เยอะ ก้ไม่แปลกที่จะชนกัน
"เฮ้ยตินน์" ชายคนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าฉันไปพร้อมเรียกชื่อเพื่อน ตินน์...ชื่อเพราะดีนะเนี้ย
"เฮ้ยแซน พวกมึง ช่วยกูด้วยย" และนั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากยัยพิช ก่อนที่ทุกอย่างจะดับไป