เรื่องมันยังไงกันแน่

1484 คำ
การมาเที่ยวทะเลครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไอศิกาได้เจอเจตนิพัทธ์หลังจากเหตุการณ์ในคืนวันที่เธอออกไปเที่ยวกับเพื่อน เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมาหญิงสาวพยายามที่จะไม่เจอเขามาตลอด แต่เมื่อเจอหน้ากันแล้วเขาไม่ได้พูดเรื่องคืนนั้นมันเลยทำให้ไอศิการู้สึกสบายใจ เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องระหว่างเขาและเมื่อทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับอาเขยไอศิกาก็รู้สึกใจเต้นแรงกว่าที่เคย ความรู้สึกบางอย่างที่มันก่อตัวขึ้นในใจของหญิงสาวซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ผิดมากๆ เนื่องจากเจตนิพัทธ์คืออาเขยของตนเอง “พรุ่งนี้หลังกินอาหารเช้าเสร็จเราจะไปทำบุญไหว้พระกันนะ หนูไอซ์จะไปกับย่าไหม” คุณอุไรวรรณถามหลานสาวหลังจากนั่งทานอาหารทะเลที่หน้าบ้านและกันจนอิ่มและกลับเขามานั่งในห้องรับแขกกันอย่างพร้อมหน้า “ไปสิคะคุณย่าเราไปกันหมดทุกคนเลยไหมคะ” “นิตขอไม่ไปได้ไหมคะคุณแม่ วันนี้เดินทางมาทั้งวันแล้วก็ตอนเย็นยังเล่นน้ำอีกรู้สึกเพลียค่ะ อีกอย่างนิตก็เคยมาไหว้พระที่นี่บ่อยค่ะแล้ว” “ถ้านิตไม่ไปพี่จะอยู่กับนิตที่บ้านนะ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่พัทธ์พี่ไปกับคุณแม่เถอะค่ะจะได้ช่วยดูแลคุณแม่ด้วย นิตอยู่คนเดียวได้” “อยู่คนเดียวได้แน่นะนิตให้แป้งอยู่ด้วยไหม” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ นิตว่าจะนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านส่วนอาหารกลางวันแม่ก็กินมาจากข้างนอกเลยนะคะเดี๋ยวนิตสั่งโรงแรมใกล้ๆ ให้เขาเอามาส่งก็ได้” “แต่พี่เป็นห่วงนิตนะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนดีกว่าไหม” เจตนิพัทธ์รู้สึกเป็นห่วงเพราะเธอกำลังท้องจึงไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว “นิตไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะพี่พัทธ์ นิตอยู่ได้พี่พาแม่กับไอซ์ไปเที่ยวเถอะค่ะ” “ก็ได้ครับ แต่ถ้านิตเปลี่ยนใจละอยากจะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนก็บอกนะได้นะ” เมื่อตกลงถึงกิจกรรมที่จะทำในวันรุ่งขึ้นแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอน ไอศิกาเดินขึ้นมากับคุณย่าซึ่งตอนนี้ท่านกำลังดูละครอยู่สวนเธอก็นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง “คุณย่าหนูจะลงไปเอาน้ำคุณย่าเอาด้วยมั้ย” “ถือติดขึ้นมาข้างบนสักขวดก็ดีนะ เผื่อกลางคืนจะหิว” “ค่ะคุณย่าเดี๋ยวหนูมานะคะ” ไอศิกาเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาสองขวดขณะที่กำลังจะกลับขึ้นห้องก็เห็นอาศานิตานั่งอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ เธอคิดว่ามันดึกแล้วจึงอยากจะออกไปเรียกคุณอาให้เข้ามาพักผ่อน แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ดังมาเสียก่อน เธอจึงหันหลังจะเดินกลับแต่บทสนทนาที่ได้ยินก็ทำให้หญิงสาวหยุดเดินและเงี่ยหูฟังต่อแม้รู้ว่ามันเสียมารยาทแต่ไอศิกาก็ไม่สนใจ “ถ้าพรุ่งนี้พี่จะเข้ามาหานิตก็เข้ามาสักสิบโมงนะคะเพราะทุกคนเขาจะไปไหว้พระกันค่ะ” “ได้ค่ะจะรอนะคะนิตคิดถึงพี่ชัยนะคะ” “พี่ชัยไม่ต้องซื้ออะไรเข้ามาแล้ว แค่นิตได้เจอพี่นิตก็ดีใจมากๆ แล้วแต่พี่ต้องระวังนะคะเดี๋ยวคนอื่นจะเห็น” “นิตรักพี่ชัยนะคะ นิตจะรอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว แค่นี้ก่อนนะคะ นิตต้องวางสายแล้วเข้านอนดึกเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยค่ะ” ไอศิกาไม่รู้ว่าไปสายพูดว่าอะไรแต่เท่าที่ฟังเสียงของศานิตาก็พอจะเดาออกว่าที่คุณอาของเธอไม่ยอมไปไหว้พระด้วยก็เพราะเธอนัดใครบางคนมาที่นี่ และคงไม่ใช่เพื่อนอย่างแน่นอน หญิงสาวอยากจะถามเหลือเกินว่าคนที่คุณอาโทรคุยด้วยนั้นเป็นใครแต่ก็หยุดความคิดนั้นไว้เพราะเรื่องบางเรื่องมันก็อาจจะเป็นความลับซึ่งดูเหมือนอาของเธอก็อยากจะให้เรื่องนี้มันเป็นความลับถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่นัดเจอกันในวันที่ทุกคนไม่อยู่ โอศิการีบขึ้นไปบนห้องนอนก่อนที่อาศานิตาจะเดินเข้ามาในบ้าน “ไปนานเลยนะลูก” “พอดีเพื่อนโทรมา หนูเลยคุยกับเพื่อนแล้วค่อยขึ้นมาค่ะละครจบแล้วเหรอคะคุณย่า” เธอพูดพร้อมกับส่งขวดน้ำให้กับคุณย่า “ใช่จ้ะ เราปิดไฟนอนกันเลยไหม” “ค่ะคุณย่า” ไอศิกาพยายามข่มตาให้นอนแต่นอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับเพราะยังคิดถึงคุณบทสนทนาที่ได้ยินจากอาศานิตาเมื่อครู่ ฟังแล้วเหมือนเธอคุยกับผู้ชายสักคน การบอกรักและคำพูดเหล่านั้นมันทำให้เธอคิดมาก ตอนนี้ในสมองของไอศิกากำลังสับสนเรื่องทุกอย่างที่เธอรับรู้มันขัดแย้งกับสิ่งที่อาศานิตาและอาเขยของเธอแสดงออกให้ทุกคนได้เห็น ตอนนี้วิญญาณนักสืบเข้าสิงร่างของไอศิกาและเธอจะต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้ เธอพยายามทำความเข้าใจว่าอาเขยของเธอต้องออกไปหาความสุขนอกบ้านเพราะช่วงนี้ภรรยาของตนเองท้องโตแต่สิ่งที่อาของเธอพูดคุยกับคนปลายสายนั้นเธอไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไรกันแน่ทำไมอาศานิตาจะต้องบอกรักกับผู้ชายคนนั้น ทำไมถึงบอกว่ารอคอยจะใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายคนนั้น แล้วครอบครัวที่มีอยู่ตอนนี้ล่ะมันคืออะไรหญิงสาวนอนพลิกไปพลิกมากว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบจะเที่ยงคืน เช้าของวันใหม่ “ทำไมวันนี้หน้าตาไม่สดชื่นเลยล่ะหนูไอซ์” “เมื่อคืนหนูนอนไม่ค่อยหลับค่ะคุณย่า” “ทำไมล่ะหรือว่ายากรนเสียงดังจนไอซ์นอนไม่หลับ” “เปล่าค่ะ คุณย่าไม่ได้กรนเลยเพียงแต่หนูแปลกที่ค่ะมันก็เลยนอนหลับยากนิดหน่อย” “แล้ววันนี้จะไปเที่ยวไหวไหมล่ะ” “ไหวสิคะเดี๋ยวกินกาแฟสักแก้วก็ดีขึ้นเองค่ะ เรารีบลงไปกันเถอะค่ะคุณย่าไม่รู้ว่าเช้านี้ป้าอ้อยจะทำอะไรให้เรากินนะ” “ย่าสั่งให้เขาทำข้าวต้มทะเลน่ะมาถึงทะเลทั้งทีก็ต้องกินอาหารทะเล” “แค่ฟังก็น่ากินแล้วค่ะ รีบไปกันเลยนะคะคุณย่า” หญิงสาวประคองคุณย่าลงมาชั้นล่างกลิ่นข้าวต้มหอมกรุ่นโชยมาแตะจมูกเธอรีบพาคุณย่าไปนั่งบนที่เก้าอี้หัวโต๊ะ พอดีกับเจตนิพัทธ์ก็กำลังพาภรรยาของตนเองเดินตามมานั่ง “น่ากินจังเลยค่ะป้าอ้อย” ไอศิกาหันไปบอกแม่บ้านที่กำลังตักเขาต้มเสิร์ฟ “น่ากินหนูไอซ์ต้องกินเยอะๆ นะคะป้าทำเยอะแยะเลย” “หนูว่ากลับมาบ้านครั้งนี้หนูคงอ้วนขึ้นเยอะเลย” “อ้วนที่ไหนล่ะลูก ย่าว่าหุ่นแบบหนูนี่เขาเรียกว่าหุ่นดีนะ” “ใช่ค่ะ ป้าอ้อยว่าหุ่นแบบหนูผู้ชายเห็นก็ต้องชอบกันทั้งนั้น” จังหวะที่คุณย่าพูดไอศิกาก็เงยหน้าและสบตากับเจตนิพัทธ์พอดี เธอเห็นเขายิ้มที่มุมปากก็รีบก้มหน้าทานข้าวต้มต่อ “หนูไอซ์กินเยอะๆ เลยนะ กลับไปอยู่อังกฤษไม่รู้จะมีอาหารไทยแบบนี้กินหรือเปล่า” “มันก็พอมีนะคะป้าอ้อยแต่มันอร่อยสู้ฝีมือป้าอ้อยไม่ได้เลย” “ฟังแล้วชื่นใจจัง” “ก็ฝีมือป้าอ้อยอร่อยจริงๆ” เมื่อรับประทานอาหารเช้าอิ่มแล้วทุกคนก็มานั่งรวมกันที่ห้องรับแขกระหว่างรอแป้งล้างจานชาม “อานิตไม่เปลี่ยนใจไปกับเราเหรอคะ” “ไม่หรอกจ้ะ อาอยากจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน” “คุณนิตให้ป้าอ้อยอยู่เป็นเพื่อนไหมคะ อยู่คนเดียวถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะลำบากเอานะ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าอ้อย นิตอยู่คนเดียวได้ป้าอ้อยออกไปเที่ยวไปไหว้พระเถอะค่ะนานๆ จะได้มาเที่ยวไม่ต้องห่วงนิตนะคะ” “แล้วตอนกลางวันนี้คุณนิตอยากทานอะไรคะป้าจะได้ทำไว้” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวนิตสั่งจากโรงแรมมาก็ นิตว่าทุกคนรีบไปกันเถอะค่ะ ถ้าสายกว่านี่แดดจะร้อนเอานะคะ” ศานิตาอยากให้ทุกคนรีบออกจากบ้านเพราะเธอกำลังรอใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม