3
[DEMI]
แนะนำให้รู้จัก
ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่กลายเป็นคนผิด และที่สำคัญฉันไม่อยากทะเลาะกับป้าเจ้าของร้านเค้ก ถ้าไม่มีป้าฉันจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงTT
"คุณเดมี่อยากให้ผมสืบไหมครับ อาจจะเป็นการทะเลาะวิวาททั่วไปตามประสาผู้ชาย ไม่เกี่ยวกับเราหรอกครับ"
"ผู้ชายคนนั้นเหมือนอันธพาลเหรอคะ แต่เอาเถอะในเมื่อพี่ๆบอกไม่ได้ทำ ก็ช่วยหาให้ด้วยแล้วกันว่าใครเป็นคนทำ เดมี่จะได้เอาความจริงไปง้อคุณป้า"
"ครับ!"
ทุกคนรับคำแล้วก้มคำนับฉัน แต่ฉันหันไปมองร้านเค้กตาละห้อย ไว้คุณป้าเจ้าของร้านอารมณ์ดีเมื่อไหร่ค่อยว่ากันนะ ฉันจะง้อให้ได้ ไม่ปล่อยให้คุณป้าหลุดมือไปแน่นอน เดมี่จะกอบกู้ร้านเค้กสุดที่รักกลับมาให้ได้
เมื่อร้านปิดและหมดหวังสำหรับวันนี้ ฉันก็ให้บอดี้การ์ดไปส่งอ้อแอ้ที่หอพักของเธอ ก่อนจะกลับตึกไลออนเพื่อเตรียมตัวไปงานแต่งพี่สาวที่จันทบุรีแต่เช้า
จันทบุรีเป็นบ้านเกิดคุณแม่ของฉันเอง บ้านของท่านทำธุรกิจสวนทุเรียนและสวนผลไม้ มีทั้งแปรรูปส่งออก อีกทั้งธุรกิจอื่นๆเช่นรีสอร์ตหรูในหุบเขา ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายเราจะพักที่นั่นกัน
สงบ ผ่อนคลาย ปลีกวิเวก ฉันชอบนะ... แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีเค้ก
•••
วันต่อมา...
-สวนเลิศดนุ , จังหวัดจันทบุรี-
"เดมี่ของยายยยยย"
"คุณยายยยยย เดมี่คิดถึงมากๆเลยค่ะ" ฉันโผไปกอดคุณยายแล้วหอมแก้มท่านสองฟอดใหญ่ๆ
"โตเป็นสาวแล้วนะเรา"
"สวัสดีค่ะคุณตา" พอเห็นคุณตาออกมารับด้วยฉันก็หันไปยกมือไหว้ท่านอีกคน ซึ่งคุณตาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกมือลูบหัวฉันเบาๆอย่างเอ็นดู
"ที่นี่มีเค้กกินไหมคะ"
"เดมี่" คุณแม่เอ็ดทันที
"เมื่อวานเดมี่งดแล้วนะคะคุณแม่"
"งดอีกวัน เราจะพุงออกวันแต่งงานพี่สาวไม่ได้นะ วันนี้มีแขกผู้ใหญ่และเพื่อนๆพี่เขยเรามาด้วย"
พี่เขยฉันชื่อคิระ อย่างที่บอกว่าเป็นยากูซ่าจากญี่ปุ่น ฉะนั้นแขกของพี่เขยก็คงเป็นพวกมีอิทธิพลและเป็นต่างชาติ ชีวิตของสาวน้อยเดมี่ก็วนเวียนอยู่แค่นี้แหละ มาเฟีย ยากูซ่า เรื่องแต่งงานกับคนธรรมดาไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ
แต่ดูเหมือนว่าออกงานครั้งนี้คุณแม่จะคุมความประพฤติฉันเป็นพิเศษ ห้ามไม่หยุด และตีฉันด้วย หยิบจับอะไรเข้าปากฉันโดนเอ็ดตลอดเลย ท่านบอกว่าฉันกินไม่ห่วงสวย แถมยังให้ช่างแต่งหน้าทำผมเนรมิตฉันจนออกมาสวยเช้ง ผิดกับงานเรียบๆที่เจเจ้ตั้งใจจัด
"เอ่อ คุณแม่คะ... เจเจ้จัดงานในสวนง่ายๆ เดมี่ไม่จัดเต็มไปเหรอคะ"
ฉันมองตัวเองในกระจก เครื่องเพชรประดับประดาเต็มตัว ผมถูกลอนคลายๆเกล้าขึ้นปล่อยปอยผมด้านข้างกับหน้าม้าไว้ ส่วนชุดเป็นเดรสสีแดงสั้นเกาะอกกระโปรงฟูๆ
จริงๆวันนี้ฉันตั้งใจจะปล่อยผม แต่คุณแม่กำชับว่าทรงผมต้องเกล้าขึ้นจะได้มีออร่าและโดดเด่น เอิ่ม ฉันไม่ใช่เจ้าสาวของงานนี้นะ ไม่ต้องสวยมากมายก็ได้
"วันนี้ลูกต้องเจอคนเยอะ"
"ไม่ใช่งานดูตัวใช่ไหมคะคุณแม่" คุณแม่ส่ายหน้าเบาๆแล้วหันไปมองคุณพ่อที่ยืนกอดอกอยู่ มาคุมการแต่งตัวฉันทั้งคู่คิดดูว่าจริงจังเบอร์ไหน เห็นเดมี่เป็นเด็กสามขวบรึไงคะ
"วันนี้ว่าที่เจ้าบ่าวของลูกจะมางานด้วย"
อะไรนะ...
'ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ'
ฉันยกมือทาบอกตัวเองเพราะอยู่ๆหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ และที่สำคัญนั่งมองหน้าตัวเองในกระจกแก้มฉันมีเลือดฝาดอย่างเห็นได้ชัด
ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดถึงผู้ชายคนนั้น... วันนี้เป็นวันแรก แถมคุณพ่อเป็นคนพูดถึงเอง ฮือ~ ฉันจะได้เจอเขางั้นเหรอ ทำตัวไม่ถูกแน่ๆ
"วะ วันนี้ต้องเจอจริงๆเหรอคะ เขาอายุเท่าไหร่ หน้าตาแบบไหน และเป็นมาเฟียเหมือนเราใช่ไหมคะ"
คุณพ่อเดินมายืนข้างหลัง สอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงมองหน้าฉันผ่านกระจก
"พ่อจะไม่บอกอะไรมากกว่านี้ แต่วันนี้ลูกต้องวางตัวให้ดี นอกจากการแต่งงานของเดนิส งานแต่งงานของลูกในอนาคตก็จะทำให้ไลออนของเรายิ่งใหญ่ขึ้นหลายเท่า"
มือของฉันจับกันเองอัตโนมัติ แต่พยักหน้าตอบคุณพ่อผ่านกระจก เพราะสายตาของท่านที่มองมาไม่ได้ทีเล่นทีจริงเหมือนคุณแม่ นี่คือคำสั่งสินะ
ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
"ค่ะ แต่เดมี่ขอกินเค้กได้ไหมคะ"
คุณแม่ยกมือนวดหว่างคิ้วทันที ส่วนคุณพ่อเบือนหน้าไปทางอื่นและถอนหายใจออกมา อะไรกัน... ฉันแค่ขอกินเค้กเองไม่ได้ปฏิเสธการแต่งงานสักหน่อย-3-
"คุณพ่อจริงจังเดมี่ก็จริงจังนะคะ แต่ที่งานขอเดมี่กินเค้กนะ ได้ยินแว่วๆว่ามีบาร์เค้กด้วยTT"
ฉันทำหน้าอ้อน มองคุณพ่อตาปริบๆ
"โอเคแล้วแต่ลูกแล้วกัน ไปกันได้แล้ว"
"เย้!"
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปใส่รองเท้าส้นสูงด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะควงแขนคุณพ่อออกจากห้องแต่งตัวขึ้นรถไปงานแต่งที่จัดอยู่เนินหญ้าทางทิศตะวันตก ที่ต้องขึ้นรถเพราะสวนของเราใหญ่มาก บอดี้การ์ดจึงนำรถมารับมาส่งและคอยบริการทุกอย่าง
ซึ่งมาถึงงานสวยมาก คุมโทนไปด้วยสีแดงกับดำ มีบาร์เค้กให้หยิบ มีอาหารญี่ปุ่นให้คีบ มีบาร์น้ำที่มีทั้งแอลกอฮอล์ น้ำหวาน และม็อกเทล ฉันรีบลงจากรถก่อนคุณพ่อเดินถือกระเป๋าคลัทช์เข้างาน ไม่หันมองบอดี้การ์ดที่ยืนก้มคำนับต้อนรับอยู่ด้วยซ้ำ
จนตอนนี้มาหยุดที่หน้าบาร์เค้ก...
ฉันรีบส่งกระเป๋าคลัทช์ให้บอดี้การ์ดถือ และคว้าจานกับที่คีบมาทันที มีเค้กสตรอว์เบอร์รีด้วยแหะ... อันนี้น่ากิน อันนั้นด้วย ฉันจึงคีบเค้กมาสองชิ้น ก่อนจะหันไปเห็นพี่สาวคนสวยกับเจ้าบ่าวยืนอยู่แล้วตัดสินใจถือจานเดินไปทักทาย
ชุดที่เจเจ้ใส่สวยเรียบดูดีจัง
"ว้าววว เจเจ้สวยมาก เดี๋ยวเดมี่แต่งงานยืมชุดคุณแม่บ้างดีกว่า" เจเจ้กอดอกมองหน้าฉัน
"อย่างเธอต้องชุดคุณย่า เคยเห็นชุดคุณย่ารึยัง?" ฉันส่ายหน้ารัว และตักเค้กที่ถือในมือเข้าปากคำใหญ่
"ไม่เคยค่ะ เชยรึเปล่า"
"เปล่า แบ๊วสะบัด" จริงสิคุณย่าชอบอะไรเหมือนๆฉันรวมถึงพวกของหวานคุณย่าก็ทำ ไว้จะแต่งงานเมื่อไหร่ฉันไปเกาะแกะขอยืมชุดดีกว่า
ฉันไม่ได้มองหน้าพี่สาว เพราะกำลังตั้งใจตักเค้กอีกคำกินต่อ ก่อนที่จะมีร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งมาหยุดยืนข้างๆ ด้วยสัญชาตญาณ ฉันขยับออกห่างหนึ่งก้าวอัตโนมัติเพื่อหลีกทางให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวรับแขก
จากนั้นตักเค้กกินอีกคำใหญ่
เค้กที่งานก็ไม่แย่ แป้งนุ่มครีมไม่หวาน แต่สตรอว์เบอร์รีเปรี้ยวไปนิดนะ ไม่เป็นไรถือว่าแก้ขัดไปก่อน
"เดมี่-_-^"
"คะ เจเจ้กินด้วยเหรอ"
"ไม่ สวัสดีคุณเฉินสิ"
ฉันยกมือไหว้พร้อมกับเค้กที่ถือในมือ
"สวัสดีค่ะ"
ไม่มีเสียงตอบกลับมาและฉันไม่ยืนอยู่ต่อ ถอยออกไปห่างๆเพื่อให้พี่สาวกับพี่เขยคุยกับแขก
อันดับแรกเดินไปสั่งชาเขียวเย็นที่บาร์กิน และเดินไปคีบเค้กอีกสองชิ้นใส่จาน
แต่พอมองกลับไปอีกครั้ง ฉันกลับสะดุดตากับแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้น เขาสูง... สูงมาก แผ่นหลังกว้าง ใส่สูทสีดำ ด้านหลังมีลูกน้องยืนคุ้มกันอยู่หลายคน
เขากำลังคุยกับเจเจ้และคุณคิระ แต่คุยอะไรกัน...ทำไมพี่สาวฉันมองมาทางนี้ด้วย