จะมีแฟนตอนเรียนจบ

1510 คำ
วันนี้บัวบงกชดีใจที่จะได้กลับบ้านเพราะนอกจากจะได้กลับไปเล่าเรื่องการใช้ชีวิตในหอพักให้กับธัญวดีและเธียรธวัชฟังแล้ว ชายหนุ่มยังบอกกับเธอว่าเขาจะพาเธอไปทำบุญให้กับยายพิกุล “สวัสดีค่ะคุณเธียร” บัวบงกชดีใจมากที่คนมารับเธอวันนี้เป็นเธียรธวัช “อือ เอาของมาครบแล้วใช่ไหม” “ใช่ค่ะ แล้วพี่ธัญญ่าล่ะคะคุณเธียร” บัวบงกชถามเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วเพราะวันที่มาส่งธัญวดีบอกกับเธอว่าจะเป็นคนมารับเธอที่นี่ “ถ้ารอให้ธัญญ่ามารับเธอฉันว่าเธอคงอยู่หอเป็นคนสุดท้ายแน่ๆ เย็นวันศุกร์แบบนี้รถค่อนข้างจะติดมาก กว่าธัญญ่าจะออกมาจากมหาวิทยาลัยขับรถมารับเธอที่นี่ก็คงมืดค่ำกันพอดี อดใจอีกนิดเดี๋ยวก็ได้เจอกันที่บ้านแล้ว” “ค่ะคุณเธียร” “ฉันซื้อขนมมาให้ด้วยนะ อยู่เบาะหลังเธอกินรองท้องไปก่อนกว่าจะถึงบ้านก็คงเกือบจะหนึ่งทุ่มนั่น แหละปกติแล้วเธออยู่ที่หอกินข้าวเร็วไม่ใช่เหรอ” “ปกติบัวจะกินข้าวประมาณห้าโมงครึ่งเพราะต้องรีบเข้าหอก่อนหกโมงเย็นค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวหยิบถุงขนมที่วางอยู่บนเบาะหลังมาเปิดดูแล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าด้านในเป็นขนมปังร้านที่เธอเคยบอกว่าอร่อย “คุณเธียรกินด้วยกันไหมคะ” “ไม่ล่ะฉันยังไม่หิว” “แต่คุณเธียรบอกว่าอีกนานกว่าจะถึงบ้านนะคะ” “ปกติแล้วฉันกินข้าวดึกน่ะ เธอกินไปเถอะ แล้วเป็นยังไงบ้างอยู่หอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ตั้งแต่มาอยู่หอบัวบงกชก็โทรศัพท์ไปหาเขาแค่ครั้งเดียวตอนที่ขออนุญาตออกไปเที่ยว “ช่วงแรกๆ ก็มีนอนไม่หลับบ้างค่ะ แต่ผ่านไปหลายๆ วันก็เริ่มชิน” “เพื่อนๆ ล่ะเขาดีกับเธอไหม” “ดีค่ะ ตอนนี้บัวมีเพื่อนสนิทอยู่สามคนเวลาเราไปไหนเราก็จะไปด้วยกันเป็นกลุ่มสี่คนค่ะ” “นอกจากไปเที่ยวห้างวันเสาร์ที่แล้วเธอได้ออกไปไหนอีกหรือเปล่า” “ไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะเพราะวันอาทิตย์เพื่อนๆ อยากจะนอนพักและทำการบ้านให้เสร็จค่ะ แต่เสาร์หน้าคุณครูบอกว่าจะพาพวกเราไปทำบุญค่ะ” “นอกจากเพื่อนสี่คนในกลุ่มแล้วเธอได้รู้จักเพื่อนคนอื่นอีกบ้างไหมล่ะ” “ก็มีเพื่อนที่เรียนในห้องเรียนด้วยกันค่ะ แต่ก็ยังไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่เพราะพวกเขาก็มีเพื่อนสนิทกันอยู่บ้างแล้ว” “ในห้องเธอมีกันกี่คนนะ” “ในห้องเรียนมีการทั้งหมดสามสิบคนค่ะมีผู้หญิงยี่สิบอีกสิบ คนเป็นผู้ชายค่ะ” “แล้วมีเพื่อนผู้ชายเข้ามาคุยด้วยบ้างหรือเปล่า เธออย่าหาว่าฉันเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเธอเลยนะ แต่ที่ฉันต้องถามเพราะฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ” “ก็มีคุยกันบ้างค่ะแต่ก็เป็นแค่เพื่อนกันคุณเธียรไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ บัวเคยสัญญากับยายไว้ว่าจะไม่มีแฟนจนกว่าจะเรียนจบค่ะ” “ที่บอกจะเรียนจบให้เรียนจบชั้นไหนเหรอมัธยมหรือมหาวิทยาลัย” “ก็ต้องมหาวิทยาลัยสิคะ เรียนจบชั้นมัธยมบัวก็เพิ่งอายุสิบเก้าเองใครจะมีแฟนตอนอายุแค่นั้นกันล่ะ” “ขอให้จำคำพูดตัวเองไว้นะว่าเรียนจบแล้วค่อยมีแฟนเธอมาจากต่างจังหวัดฉันก็กลัวว่าจะถูกพวกผู้ชายในเมืองหลอกเอา” “คุณเธียรคิดมากไปแล้วค่ะ ที่เรียนอยู่ในห้องด้วยกันก็มีแต่เด็กๆ ด้วยกันทั้งนั้น” “มันก็ไม่แน่หรอกนะเด็กสมัยนี้แก่แดดจะตาย” เธียรธวัชเตือนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะเขารับปากกับคุณยายพิกุลไว้แล้วว่าจะดูแลบัวบงกชอย่างดีจนกว่าเธอจะเรียนจบระดับปริญญาตรีหรือถ้าหากเธออยากต่อปริญญาโทหรือไปเรียนต่างประเทศเขาก็ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพราะบุญคุณที่ยายพิกุลเลี้ยงเขามานั้นมันเทียบไม่ได้กับเงินทองเลยสักนิด “คุณเธียรคะพรุ่งนี้คุณเธียรจะพาบัวไปทำบุญจริงๆ ใช่ไหมคะ” “อือ ฉันจะพาเธอกลับไปทำบุญให้ยายพิกุลที่นครสวรรค์” “จริงเหรอคะ บัวนึกว่าจะทำบุญวัดใกล้ๆ บ้าน” บัวบงกชไม่คิดว่าคนที่มีงายยุ่งอย่างเขาจะเสียเวลาพาเธอไปทำบุญไกลถึงบ้านเกิด “ฉันว่าเธอคงอยากไปทำบุญให้คุณยายเธอที่นั่นนะ” “ขอบคุณมากค่ะคุณเธียร ยายคงดีใจที่บัวกลับไปทำบุญที่วัดนั้น” “ฉันให้เลขาจัดการประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านแล้วพรุ่งนี้เราจะออกจากกรุงเทพกันตั้งแต่เช้าให้ไปทันเลี้ยงเพลพระที่วัดน่ะ” “บัวจะรีบตื่นแต่เช้าเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างรอยยิ้มของเธอมันทำให้เธียรธวัชรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย เขาพยายามไม่หันไปมองและตั้งใจขับรถแต่เสียงเจื้อยแจ้วที่ดังมาไม่ขาดสายก็ทำให้เขาอดใจไม่ได้ต้องไปหันต้องหันไปคุยกับเธอตลอดทาง รถติดในเย็นวันศุกร์ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปถ้าหากเขามีใครสักคนคอยนั่งคุยอยู่ข้างๆ แต่เธียรธวัชก็ต้องดึงสติของตัวเองกลับมาเพราะเด็กที่นั่งอยู่ข้างเขานั้นเป็นเด็กในปกครองอีกทั้งเธอยังอายุเพียงแค่สิบหกปีเท่านั้น มันคงไม่ดีแน่ถ้าเขาจะคิดอะไรเกินเลยกับเด็กอายุแค่นี้และถ้ายายพิกุลมองลงมาจากบนฟ้าคงผิดหวังในตัวเขามากๆ ชายหนุ่มเลยเลิกสนใจเด็กสาวและหันมาตั้งใจขับรถอีกครั้ง “คุณเธียรคะคนกรุงเทพฯเขางานยุ่งกันมากๆ เลยเหรอคะ” “ก็ประมาณหนึ่ง เธอถามทำไม” “ก็พ่อแม่ของเพื่อนบางคนเขาไม่มารับเพื่อนกลับจากหอเลยค่ะ เขาทำเรื่องให้เพื่อนของบัวอยู่หอจนปิดเทอม” “บางคนเขาอาจมีเรื่องจำเป็นจริงๆ ก็ได้ แต่ก็ยังดีที่เขาให้ลูกไปเรียนโรงเรียนประจำเพราะถ้าเกิดว่าปล่อยให้อยู่บ้านหรือไปอยู่หอที่มีอิสระเด็กก็คงจะไร้ระเบียบวินัยและอาจจะเตลิดจนเรียนไม่จบก็ได้ แล้วมีหลายคนไหมที่พ่อแม่ไม่มารับกลับบ้าน” “น่าจะหลายคนอยู่ค่ะ ใยไหมเพื่อนในกลุ่มของบัวก็พ่อแม่เขามารับตอนปิดเทอมทีเดียว ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อโอปอพ่อกับแม่ก็มารับเดือนละครั้ง โอปอบอกว่าพ่อแม่ของต้องบินไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ ถ้ากลับไปอยู่ที่บ้านก็ไม่มีคนดูแล” “เพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกันเหรอ” “ใช่ค่ะ แต่ก็มีผักบุ้งอีกคนหนึ่งที่ได้กลับบ้านตามกำหนดเหมือนกับบัวค่ะ” “ที่ถามฉันแบบนี้เพราะกลัวเพื่อนจะเหงาใช่ไหมล่ะ” “ใช่ค่ะ เพื่อนคงเหงามาก” “เธอลืมคิดอะไรไปหรือเปล่าบัว เพื่อนเขาไม่ได้อยู่ที่หอคนเดียวนะ การได้อยู่กับเพื่อนบางทีมันก็ไม่เหงาเท่ากับการกลับมาอยู่ที่บ้านแต่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้หรอก ฉันเคยสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นมาก่อนมันหดหู่มากๆ เวลาที่เราต้องการจะคุยหรือปรึกษากับใครสักคนแต่หันมาแล้วไม่เจอใคร แต่ก็นับว่าฉันยังโชคดีมากที่มียายของเธอคอยเลี้ยงฉันอบรมสั่งสอนฉัน” “คุณเธียรพูดถึงยายแบบนี้ทำให้บัวคิดถึงยายมากๆ” เสียงของหญิงสาวสั่นเครือและมันทำให้เธียรธวัชรู้สึกผิดมากที่ไปสะกิดแผลในใจของหญิงสาวขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เธอเสียใจ” “ที่บัวร้องไห้บัวไม่ได้เสียใจหรอกค่ะ แต่บัวภูมิใจต่างหากที่ยายของบัวเป็นคนดี บัวยังคิดถึงยายตลอดแต่บัวรู้ว่ายายจะคอยดูความสำเร็จของบัวค่ะ บัวจะต้องเข้มแข็งและเรียนจบทำงานดีๆ เลี้ยงตัวเองให้ได้” “ฉันเชื่อนะว่าเด็กดีอย่างเธอจะทำได้อย่างที่พูด” เขาหันมายิ้มอย่างให้กำลังใจและบัวบงกชก็รู้สึกว่ารอยยิ้มของเขามันทำให้หัวใจเธอเต้นแรงถ้ามีเธียรธวัชอยู่ข้างๆ เธอก็ไม่ต้องกลัวอะไร เด็กสาวเห็นเขาเป็นตัวแทนของยายและเป็นทุกอย่างของเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม