บ่ายโมงของวันเดียวกันรถยนต์คันหรูขับตรงไปตามเส้นทาง เพื่อไปยังจังหวัดกาญจนบุรี ตะวันฉายชอบป่าเขาลำเนาไพร ส่วนเมษากลับชอบน้ำทะเลสีสวยมากกว่า ไม่ได้ชอบเดินป่าหรือว่าเล่นน้ำตกเหมือนกับสามีเลยสักนิด แต่คนที่บอกว่าจะพามาเที่ยวเขากลับไม่ได้สนใจว่าคนที่มาด้วยจะชอบหรือไม่ชอบ
"ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยสิ อุตส่าห์พามาเที่ยว ยังชอบทำตัวเป็นคุณหนูเบื่อโลกอยู่นั่นแหละ"
"ก็เมษาไม่ได้อยากมานี่คะ พี่ก็รู้ว่าเมษาไม่ชอบเดินเขา ไม่ชอบเข้าป่า แล้วยังจะพามาที่นี่อีกนะ"
"ฉันจำเป็นต้องสนใจด้วยเหรอว่าเธอจะชอบหรือไม่ชอบ ฉันหาเพื่อนมาเที่ยวในเมื่อมีเมียฉันก็ต้องพาเมียมาด้วยสิ หรือจะให้ฉันพาคนอื่นมา"
"พี่ซัน!! เมื่อไหร่จะพูดดี ๆ กับเมษาสักทีก็ไม่รู้ เมษาเป็นเมียพี่นะ"
"ก็เพราะเป็นเมียไง ถึงได้พามาเที่ยวด้วย ฉันเบื่อจะมีเมียเด็กแบบนี้เต็มทีแล้ว แทนที่จะเอาใจฉัน ชอบแต่จะให้ฉันตามเอาใจ เมื่อไหร่จะโตสักทีนะเมษา"
ไม่มีคำพูดหวานหูให้ได้ยิน มีแต่คำพูดคำจาแบบนี้จนรู้สึกชินชาไปเสียแล้ว เมษาได้แต่นั่งกอดอกอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งรถยนต์เลี้ยวเข้าไปจอดบ้านพักที่อีกคนได้จองเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
"ดูคนเยอะจังเลยนะคะที่นี่ เมษานึกว่าพี่ซันจะชอบไปพักที่เงียบ ๆ ซะอีก"
"ฉันไม่ได้มาเที่ยวซะทีเดียวหรอกนะ มาประชุมด้วย พอดีว่าเขามีสัมมนาที่นี่ ฉันต้องมาเข้าร่วมงานด้วยน่ะ"
"อ๋อ ถ้าไม่มาทำงาน เมษาคงไม่ได้ตามพี่มาด้วยหรอกสินะคะ"
"ที่นี่มีอะไรให้เธอทำอีกตั้งเยอะตั้งแยะ เธออาจจะชอบก็ได้นะเมษา"
"แฟนเก่าพี่ก็มาด้วยหรือเปล่าคะ ไม่กลัวว่าเมษาจะมาเป็นก้างขวางคอหรือยังไง?" เหมือนไม่มีอะไร แต่ก็เป็นการประชดประชันอยู่ในคำพูดแบบนี้ทุกครั้งเสมอ
"ไม่รู้สิ ก็เขาย้ายไปอยู่โรงพยาบาลอื่นนานมากแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยพบเจอเขาเหมือนกัน เธอจะถามถึงทำไมนะ"
"ก็ถ้าต้องเจอกันอีก เมษาจะได้ทำใจไว้ล่วงหน้าไงคะ ใครมันจะไปทนได้ล่ะ ที่ต้องทนเห็นแฟนเก่าของสามีตัวเอง เมษาก็มีหัวใจนะ ถึงพี่ซันไม่เคยรักเมษา แต่พี่ซันก็แต่งงานกับเมษาแล้ว"
สายตาคู่สวยยังจ้องมองหน้าสามีอย่างตัดพ้อ แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้รัก แต่หัวใจดวงน้อยก็ยังอยากจะรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้เสมอ ได้แต่หวังว่าสักวันจะได้หัวใจของคนที่ได้ชื่อว่าสามีกลับคืนมาบ้าง แม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิดก็ตามที
ตะวันฉายจับจ้องมองใบหน้าของเมษา ทั้งที่รู้เต็มอกว่าเขาไม่เคยรัก แต่ก็ยังทำตัวดีด้วยไม่ว่าเขาจะพูดร้าย หรือทำร้ายน้ำใจกันมากแค่ไหนก็ตาม บางทีก็ไม่เข้าใจว่าเมษาหลงใหลได้ปลื้มเขาได้มากขนาดนี้เลยหรือไงกัน อย่างว่าล่ะถ้าไม่รักไม่ชอบมากพอ คงไม่กล้าทำเรื่องที่น่าอายจนทำให้กลายเป็นบ่วงผูกคอได้อย่างทุกวันนี้ ถึงได้ยอมนอนกับเขา ให้เขาได้เป็นคนแรกที่ย่ำยีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้นอย่างหน้าไม่อาย
"รู้แบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะถ้าวันหนึ่งต้องเลิกรากันไป เธอจะไม่ต้องเสียใจมากไปกว่านี้"
ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มถึงกับขบเม้มเข้าหากันแน่น ไม่มีเลยสักครั้งที่ตะวันฉายจะพูดให้มีความหวังในชีวิตกับเขาบ้าง
"เข้าไปเช็กอินกันเถอะ ฉันอยากนอนพักอีกสักงีบ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย นวดให้ฉันด้วยนะวันนี้"
"ไม่รู้ว่าเมษาเป็นเมียหรือคนใช้นะคะ ทำไมพี่ซันชอบใช้จังเลยนะ"
"หรือจะให้ฉันเรียกคนอื่นมาทำหน้าที่แทนล่ะ ก็ได้นะอยากเปลี่ยนรสชาติ เปลี่ยนกลิ่นใหม่อยู่เหมือนกัน เผื่อจะไม่อยากกลับไปกินของเก่าอย่างเธออีก"
"พี่ซันทำไมพูดแบบนี้คะ เมษาเสียใจเป็นนะ"
สีหน้าและทีท่าของคนตัวเล็กที่บึ้งตึงใส่กันอยู่ ทำให้ตะวันฉายรู้สึกดีอยู่มากไม่น้อย การมีเมษาอยู่ในชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายไปซะหมด ชีวิตของเขานอกเหนือเวลางานที่ทำอยู่ก็ยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้างถ้าได้กลับมาอยู่ข้างกายกับเมษาอย่างเช่นตอนนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่รู้สึกรักอีกคนเลยสักนิด แม้จะมีเซ็กซ์ที่เข้าขากันได้ดี แต่ก็ยังไม่รู้สึกถึงคำว่ารักที่อยากจะมอบให้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเมียเลยสักนิด
ใบหน้าหล่อส่ายศีรษะโคลงเคลงไปมาเบา ๆ พร้อมกับเดินนำหน้าเข้าไปยังรีสอร์ตที่พัก โดยไม่สนใจคนตัวเล็กที่ยืนหน้าบึ้งตึงให้กันอยู่ เขาไม่เคยคิดจะงอนง้อแม้จะรู้ว่าอีกคนกำลังเรียกร้องความสนใจอยู่ เพราะสำหรับตะวันฉายแล้วช่างดูไร้สาระและเป็นเด็กไม่รู้จักโต
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"ฉันจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อย จะไปด้วยกันหรือเปล่าล่ะเมษา"
"ไม่ไปค่ะ เมษาขออยู่ที่ห้องเก็บของเข้าตู้ดีกว่า เชิญพี่ซันตามสบายเถอะ"
"ตามใจนะ แต่คงอีกสักสองสามชั่วโมงฉันถึงจะกลับเข้ามา"
เมษาได้แต่พยักหน้าให้ มองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินหายออกไปจากประตูห้องพัก คนตัวเล็กนั่งทำหน้าเศร้าจะมีสักครั้งไหมนะที่สามีจะยอมอ่อนข้อให้กัน ไม่ใช่คิดอยากแต่จะเอาชนะกันอยู่แบบนี้
สุดท้ายเธอจึงหันกลับมาสนใจกระเป๋าเดินทาง หยิบจับข้าวของออกไปใส่ยังตู้เสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตามแบบฉบับความเป็นระเบียบที่ตัวเองชอบทำอยู่เป็นประจำ