“ไอ้เพลิง!” กวีอยากจะเหนี่ยวคอมันมาชกอีกสักเปรี้ยง มันพูดแค่นั้นก็จริง แต่หน้าตาท่าทางมันกวนอวัยวะเบื้องล่างยิ่งนัก มันต้องการยั่วโมโหเขา เพื่อให้เขาเริ่มก่อน เพื่อให้เขาดูไม่ดีในสายตาเมีย
“พอได้แล้ว! พี่เพลิงคะ เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ” พรรณดารารู้ฤทธิ์ของคนทั้งคู่ดี หญิงสาวไม่อยากปวดหัวไปมากกว่านี้แล้ว ทางที่ดีคือพาพี่ชายออกห่างจากอดีตสามีให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
เมื่อเมียหันหลังเดินหนี กวีจึงขยับตัวจะรีบเดินไปดักหน้า ทว่าคนหวงน้องก็เข้ามาขวางไว้
“ไอ้เพลิง!”
“แน่จริงก็ชกผมอีกสิ หนูพรรณจะได้เกลียดพี่มากกว่านี้ หรือไม่ก็อาจจะไม่ยอมพาลูกกลับมาเหยียบบ้านพี่อีกเลยก็ได้” เพลิงตะวันยิ้มเยาะ
“ไอ้เชี่ยเพลิง!” กวีเงื้อหมัดขึ้น กะว่าจะชกปากหมาๆให้แตกยับอีกสักแผล ทว่าเสียงหวานก็ตวาดแหวขึ้นเสียก่อน
“พี่วี!”
กวียั้งหมัดไว้ได้ทัน เขาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลดหมัดลงแนบลำตัว
เพลิงตะวันยิ้มเยาะอย่างสะใจ
“กลับก่อนนะครับ คุณอดีตน้องเขย” พูดจบร่างสูงเดินตามน้องสาวไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คนเมียไม่รักมองตามด้วยความโมโห
“คิดเหรอว่ากูจะยอมมึงง่ายๆ คอยดูเถอะ กูจะเอาลูกเมียกลับมาอยู่ด้วยให้ได้ ไอ้หมาบ้าเพลิง” กวีใช้หลังมือเช็ดเลือดตรงมุมปาก หงุดหงิดที่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเมียก็มองว่าผิดไปหมด เธอไม่เข้าใจหรือไงว่าที่เขาทำไปก็เพราะรักเพราะห่วงเธอ อยากให้เธอกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
“ลุงเพลิงไปทำยังไงคะถึงได้สะดุดล้มจนเป็นแผลเลือดออกอย่างนั้น” น้องพริ้งซึ่งนั่งอยู่บนคาร์ซีตที่เบาะหลังเคียงคู่กับพี่ชายถามด้วยความสงสัย
“ลุงเดินไม่ระวัง เลยล้มหน้าคะมำโดนก้อนหินครับ” เพลิงตะวันตอบหลานไม่เต็มเสียงนัก เพราะที่เขาบอกหลานไปนั้นคือคำโกหก
“แบบนี้ป้าน้ำฝนต้องเอ็ดลุงเพลิงแน่ๆ เหมือนที่คุณแม่เอ็ดพี่พร้อมตอนที่เดินไม่ระวังแล้วหกล้มหัวเข่าเป็นแผล ใช่ไหมคะพี่พร้อม”
“ใช่ครับ ยิ่งลุงเพลิงโตแล้ว แต่กลับไม่ระวังแบบนี้ ป้าน้ำฝนต้องจัดการแน่นอน”
เพลิงตะวันเสียวสันหลังวาบกับประโยค ป้าน้ำฝนต้องจัดการแน่นอน ที่หลานพูด เขาเคยมีเรื่องชกต่อยกับกวีหลายครั้งแล้ว และก็ต่างคนต่างได้แผลแบบนี้ทุกครั้ง กระทั่งหยาดพิรุณเมียรักทนไม่ไหว จึงยื่นคำขาดว่า หากเขาไปมีเรื่องชกต่อยกับกวีอีก เธอจะไล่เขาออกจากบ้าน ให้ไปนอนบ้านพ่อแม่ที่ปลูกอยู่เคียงกัน ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเป็นกังวล
“หนูพรรณอย่าลืมนะ ห้ามน้ำฝนรู้เรื่องนี้เด็ดขาด”
พี่เพลิงผู้ห้าวหาญในวันวานหันมากำชับน้องสาวเบาๆ
“มันน่าฟ้องน้ำฝนนัก”
“ไม่สงสารพี่ก็สงสารเจ้าน้ำพุลูกชายพี่เถอะ มันเพิ่งแปดเดือนเอง พ่อแม่ทะเลาะกัน ลูกชายพี่จะกลายเป็นเด็กมีปัญหาได้นะ”
“ทีงี้ล่ะเพิ่งคิดได้ ฮึ! หนูไม่บอกน้ำฝนหรอกค่ะ ไม่อยากให้น้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีกลับไปกรุงเทพ กลัวว่าคนแถวนี้จะขาดใจตายเสียก่อน”
“อย่างนี้ค่อยน่ารัก สมเป็นน้องสาวพี่หน่อย”
เพลิงตะวันยื่นมือไปโคลงศีรษะน้องสาวเบาๆ
“ตลอดแหละพี่เพลิงอะ พอก่อเรื่องแล้ว ถึงค่อยมาคิดได้”
พรรณดารามองค้อนพี่ชาย เธอไม่อยากจะบอกว่า น้ำฝนไม่มีทางเชื่อหรอกว่าแผลที่อยู่บนหน้าพี่ชายนั้นเป็นแผลจากการหกล้มหน้าโดนก้อนหิน ใครๆก็ดูออกทั้งนั้นแหละว่าแผลแบบนี้ต้องไปมีเรื่องชกต่อยมาแหงๆ งานนี้พี่เพลิงต้องถูกน้ำฝนสอบสวนหนักแน่ เผลอๆอาจจะถูกลงโทษแบบเชือดนิ่มๆสไตล์น้ำฝนด้วย แค่คิดก็น่าสมน้ำหน้า เอ๊ย! น่าสงสารพี่เพลิงแล้ว
“น้ำฝนจ๋า พี่สะดุดล้มจริงๆนะ” เพลิงตะวันเดินตามเมียต้อยๆ เขาพยายามอธิบายถึงที่มาของแผลบนใบหน้า แต่ดูท่าเมียจะไม่เชื่อลมปากเขาสักเท่าไร
“คืนนี้ เรานอนกันสองคนแม่ลูกเนอะน้ำพุ” หยาดพิรุณอุ้มลูกชายวัยแปดเดือนพาไปนั่งที่โซฟาในห้องโถง พูดคุยและยิ้มให้ลูกโดยไม่สนใจสามี แถมยังทำราวกับว่าเขาเป็นอากาศ ไม่รับรู้ถึงการมีเขาอยู่ในบ้าน
“โธ่! พี่หกล้มจริงๆนะ ถ้าไม่เชื่อ ไปถามหนูพรรณดูก็ได้” เพลิงตะวันรีบเดินตามไปนั่งลงข้างๆ เขายกพยานมาอ้างหวังให้เมียเชื่อถือ ทว่าเมียรักก็ยังคงเมินเฉย ไม่ยอมหันมามองหน้าเขา เธอยังคงหยอกล้อ พูดคุยกับลูกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หรือจะถามพี่พร้อมกับน้องพริ้งก็ได้ หลานก็เห็นว่าพี่หกล้ม”
หยาดพิรุณถอนหายใจเฮือกใหญ่ หญิงสาวกอดลูกแนบอก หันไปมองหน้าสามีด้วยสายตาไม่เชื่อถือ คนโกหกคำโตหน้าเจื่อน หัวใจเต้นตึ้กตั้ก กำลังลุ้นว่าเมียจะเชื่อที่บอกไปไหม
“คืนนี้พี่เพลิงต้องไปนอนสำนึกผิดที่บ้านโน้น ถ้าตื่นเช้ามายังคิดไม่ได้ว่าทำผิดอะไร ก็ไปนอนอยู่บ้านโน้นจนกว่าจะคิดได้นะคะ”
ใบหน้าเรียบเฉย และน้ำเสียงเย็นเยือก ทั้งสายตาดุที่เธอไม่เคยใช้มองเขาบ่อยนัก ทำให้อดีตคนเคยร้ายกับเมียเสียวสันหลังวาบ ใบหน้าหล่อเหลาจืดเจื่อนลงถนัดตา
“น้ำฝนจ๋า...” เพลิงตะวันทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าต่อหน้าเมีย เขาทำหน้าเศร้า หวังเรียกคะแนนสงสาร หวังให้เมียเห็นใจ
“น้ำฝนเตือนพี่เพลิงหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่โดนทำโทษซะบ้าง พี่เพลิงก็จะไม่หลาบจำ” หยาดพิรุณปรายตามองคนทำผิดแล้วยังมีหน้ามาโกหกเมีย ใบหน้าสวยหวานของเธอไร้ความรู้สึกใดๆ
“พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่เถอะนะ อย่าไล่พี่ไปนอนที่อื่นเลย พี่อยากนอนกอดลูกกอดเมีย” เพลิงตะวันขยับเข้าใกล้ โอบกอดทั้งลูกทั้งเมียไว้ในอ้อมแขน
“ถ้าพี่เพลิงไม่ไป น้ำฝนไปเองก็ได้”
“ไปไหน น้ำฝนจะไปไหนครับ” เมื่อเมียพยายามพาตัวเองออกจากอ้อมกอด เพลิงตะวันก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น เขาละล่ำละลักถาม ใจไม่ดีเอาเลย