@ สนามบิน
อากาศภายในสนามบินเย็นเฉียบเพราะเครื่องปรับอากาศ แต่เพลินตากลับรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูก เหมือนลมหายใจร้อน ๆ จากข้างในกำลังถูกแช่แข็งไปทีละส่วน เธอนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ในโซนผู้โดยสารขาออก มองภาพตรงหน้าเหมือนเป็นคนแปลกหน้าในชีวิตของตัวเอง เพลินตานั่งมองชายหนุ่มที่ตอนนี้เขาโอบไหล่ของผู้หญิงอีกคนเอาไว้ ท่าทางของเขาดูมีความสุข ไม่มีความห่วงหา อาวรณ์ให้กับเธอเลยสักนิด แววตาของเขาเปล่งประกายจางๆ เมื่อหญิงสาวคนนั้นเอียงหน้าไปพูดกระซิบข้างหู เขายิ้ม แล้วก้มหน้าลงมองเธออย่างอ่อนโยน ภาพนั้นบาดลึกเข้าไปในหัวใจเพลินตาราวกับคมมีดที่ค่อยๆ กรีดช้าๆ
วันนี้แล้วสินะ วันสุดท้ายที่เธอจะได้เจอหน้าเขา เธอมาส่งเขาที่สนามบินตามคำสั่งที่เขาเคยบอกเอาไว้ ทำได้เพียงอยู่ไกลๆ มองดูเขาอยู่กับคนอื่น ผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาบอกจะยกให้เป็นแม่ของลูก คนที่เขายินยอมยกคำว่าเมียตีทะเบียนให้ เธอสวย ดูดี ฐานะทางบ้านร่ำรวย ช่างเหมาะสมกับเขาเสียจริง หัวใจของเพลินตาเหมือนถูกบีบด้วยมือเปล่า ทั้งแน่น ทั้งหน่วงจนแทบหายใจไม่ออก เธอเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาแดงช้ำ แต่สุดท้ายก็ห้ามมันไหลออกมาไม่ได้
เพลินตามองเขาได้พักใหญ่ ไม่มีวี่แววที่เขาจะเดินมาหาหรือมาร่ำลา เขาไม่แม้แต่จะหันมองมาทางเธอ สายตาของเขามีเพียงผู้หญิงคนนั้น แววตาอบอุ่นที่เคยเป็นของเธอ บัดนี้กลายเป็นของคนอื่นไปแล้วโดยสมบูรณ์ เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาที่เขาต้องไป เธอจึงตัดสินใจส่งข้อความสุดท้ายเพื่อเป็นการบอกลา มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะพิมพ์ ดวงตาเบลอจากม่านน้ำตาที่ไหลซึมไม่หยุด ไม่รู้นานกี่วัน กี่เดือน กี่ปีที่เขาจะกลับมา ในวันนี้เธอตัดสินใจแล้ว ผู้หญิงอย่างเธอมีศักดิ์ศรีพอ หากเขาเลือกที่จะมีคู่ชีวิต ตัวเธอเองก็พร้อมจะเดินออกมา จะไม่มีทางเป็นเมียน้อย ไม่เป็นมือที่สามทำผู้หญิงอีกคนเจ็บช้ำอย่างแน่นอน
"โชคดีนะคะ"
มือของเธอยังกำโทรศัพท์แน่นอยู่ข้างตัว ขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปที่เขา
"รอฉันนะ อีกหกเดือน ฉันจะกลับมาหา"
ข้อความของเขาตอบกลับมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา ไม่มีคำลาหรือความห่วงใย ราวกับเขาพูดเพียงเพื่อให้มันจบลง
"ขอให้คุณโปรดมีความสุขในทุกๆ วันนะคะ"
เพลินตายกมือขึ้นโบกมือลาเขาช้าๆ โดยที่เขาไม่หันมามอง มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ตอบกลับมา จนวินาทีสุดท้ายเขาก็ยังคงใจร้ายกับเธอเสมอ น้ำตาเธอรินไหลลงมาเงียบๆ เปื้อนสองข้างแก้มขาว มือที่เคยแข็งแรงยกขึ้นปาดอย่างลวกๆ พยายามไม่ให้คนรอบข้างสังเกตเห็น
พรางคิดในใจ ต่อไปไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง ใช้ชีวิตของตัวเธอให้ดี รักษาแผลใจให้กลับมาหายดีเร็วๆนะเพลินตา
เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารดังแว่วขึ้นด้านหลังตอกย้ำว่าเขากำลังจะจากไปจริงๆ ราวกับเสียงนาฬิกานับถอยหลังสู่การสิ้นสุดความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อ เธอลุกขึ้นยืน สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนหมุนตัวเดินออกจากจุดเดิม ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แม้หัวใจจะยังอยากวิ่งตามเขาไปก็ตาม
@อีกด้านของโปรดปราณ
บรรยากาศในห้องรับรองวีไอพีของสนามบินดูเงียบสงบเกินจริง ผนังสีครีมนวลสะอาด กับแสงไฟสีเหลืองนวลที่ส่องกระทบผิวหน้าเรียบไร้สีของยาหยี ทำให้เธอดูซีดเซียวและเหนื่อยล้ากว่าปกติ เสียงเครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอย่างราบเรียบ ทว่าในใจกลับวุ่นวายจนแทบจะระเบิด
ยาหยีมองดูเพลินตาที่กำลังนั่งร้องไห้ รับรู้ได้ว่าเธอเองคงจะเสียใจไม่น้อย ใบหน้าของเพลินตานั้นช้ำและเปียกปอนไปด้วยคราบน้ำตา มือของเธอสั่นไหวเล็กน้อยขณะกำเสื้อคลุมแน่นราวกับพยายามยึดบางอย่างไว้ให้มั่น หากจะบอกว่าเพลินตานั้นโง่เขลาที่หลงรักผู้ชายอย่างโปรดปราณก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเอาเข้าจริงเรื่องของความรักหากไม่เกิดขึ้นกับตนเองจะไม่มีวันเข้าใจ ขนาดตัวเธอเองยังไม่สามารถตัดใจจากคนที่เธอรักได้ ดวงตาของยาหยีมีประกายเศร้าไหววูบ เธอตั้งท้องโดยที่พ่อของลูกไม่ยอมรับ ในวันนี้ถึงต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เรื่องราวของตัวเองเป็นขี้ปากของชาวบ้าน ทุกก้าวที่ก้าวออกจากประเทศนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยความที่หัวอกเดียวกัน เธอจึงรู้สึกสงสารเพลินตามากที่ต้องมาพบเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้
เสียงสนทนาระหว่างเธอกับโปรดปราณดังแผ่วในมุมที่คนอื่นไม่ได้ยิน ทั้งคู่ยืนพิงผนังใกล้เคาน์เตอร์เช็คอิน สายตาของโปรดปราณยังคงเฉยชา สีหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไรกับภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังทรุดตัวร้องไห้ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร
"โปรดจะไปพร้อมหยีจริงๆเหรอ"
น้ำเสียงของยาหยีแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความไม่สบายใจ ดวงตาจับจ้องใบหน้าของเขาเพื่ออ่านสีหน้า
"จริงดิ...ทำไมอ่ะ ไปด้วยกันไม่ได้เหรอ"
โปรดปราณยักไหล่เล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ดวงตาเหลือบมองเพลินตาที่ไกลออกไป แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะแสดงความรู้สึกใดออกมา
"แล้วเด็กเพลินตาล่ะ เด็กนั่นจะคิดยังไง"
น้ำเสียงของยาหยีเริ่มจริงจังขึ้น ดวงตาเธอไหวระริก มองเขาด้วยแววตำหนิแฝงความห่วงใย
"ก็อย่างที่โปรดบอก เพลินตาเข้าใจว่าหยีท้องกับโปรด และโปรดจะต้องไปดูแลหยีกับลูกที่อเมริกา"
โปรดพูดเรียบๆ ไม่แม้แต่จะสบตาเธอตรงๆ มือของเขากอดอก สายตาเหม่อลอยมองไปไกล
"ใจร้ายเกินไปไหมโปรด...ทำไมไม่บอกไปตรงๆว่าโปรดทำงาน"
"บอกแบบนั้นเดี๋ยวเพลินตาก็อยากไปด้วยอีก...โปรดขี้เกียจเคลียร์กับพ่อ"
โปรดปราณหัวเราะในลำคอ ราวกับเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงปัญหาเล็กๆ ที่ไม่ต้องให้ความสำคัญ
"ถ้าเด็กนั่นรู้..แน่ใจนะว่าควบคุมอยู่"
"หยีไม่ต้องห่วงหรอก เพลินตาหัวอ่อนจะตาย โปรดพูดไม่กี่ประโยคก็ยอมใจอ่อนแล้ว"
คำพูดของเขาทำเอายาหยีเบือนหน้า ถอนหายใจยาวอย่างไม่พอใจ สีหน้าของเธอเริ่มมีความขัดแย้งปรากฏชัดขึ้นในแววตา
"โปรด...หยีพูดตรงๆนะ หยีไม่ชอบเลยที่โปรดทำแบบนี้"
เสียงของเธอหนักแน่นกว่าทุกครั้งที่เคยพูดกับเขา ดวงตาจับจ้องที่เขาเหมือนกำลังขุดลึกเข้าไปในหัวใจของเพื่อนรัก
"ทำอะไร"
"ก็ที่ทำกับเด็กเพลินตานั่นไง...ให้เขาเป็นเมียน้อย ทั้งที่ความจริงแล้วโปรดไม่ได้มีใคร ทำแบบนั้นทำไม..สนุกเหรอ"
น้ำเสียงของยาหยีขุ่นจัดกว่าครั้งไหน เธอขมวดคิ้ว สายตาเปล่งประกายแข็งกร้าว
"ไม่สนุก แต่โปรดไม่อยากให้ความหวังเพลินตา เพราะสุดท้ายแล้วเพลินตาก็ไม่สามารถเป็นผู้หญิงที่ครอบครัวโปรดต้องการได้ หยีก็รู้ว่าพ่อแม่โปรดท่านต้องการคนที่เพียบพร้อม สมบูรณ์แบบ ซึ่งเพลินตาไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น"
คำพูดเย็นชาของเขายิ่งทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ตึงเครียดขึ้น สายตาของโปรดยังคงเยือกเย็นไม่มีแม้แต่ความละอายใจในสิ่งที่พูด
"ไม่ใช่คนที่พ่อแม่ต้องการ แล้วเพลินตาเป็นคนที่โปรดต้องการไหม"
น้ำเสียงของยาหยีถามกลับด้วยสายตาจริงจัง เสียงแผ่วเบาแต่เฉือนลึก
"ชั่วครั้ง ชั่วคราวน่ะใช่ แต่ถ้าตลอดไปคงไม่ใช่เพลินตาแน่นอน"
"ถ้ามั่นใจขนาดนั้นก็แล้วแต่โปรดล่ะกัน หยีหวังว่าโปรดจะไม่เสียใจทีหลังนะ"
เสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อย สายตาหรี่ลงอย่างอ่อนแรง แต่ยังคงไม่ละจากใบหน้าของเขา
"ไม่หรอก เพราะโปรดไม่ได้รักเขา คงไม่เสียใจเพราะผู้หญิงอย่างเพลินตาหรอก"
คำพูดสุดท้ายเหมือนฟันฉับลงมาบนความรู้สึก ยาหยีถอนหายใจ ส่ายหน้าให้กับความคิดของเพื่อนรัก ในใจรู้ดีว่า หากวันหนึ่งความรู้สึกที่แท้จริงของเขาแทรกซึมขึ้นมาเมื่อสายไป คนที่จะเจ็บที่สุดอาจไม่ใช่เพลินตา...แต่จะเป็นโปรดปราณเองต่างหาก