ตอนที่9

1013 คำ
ตลอดช่วงเช้าและบ่ายมุกดายุ่งอยู่กับการทบทวนวิดีโอพรีเซนต์ เอกสาร และเช็กความพร้อมของคอมพิวเตอร์ เธอจะไม่ทำพลาดเหมือนวันนั้นอีกแล้ว สมุดจดบันทึกกับปากกามาร์คเกอร์หลากสีหยิบใส่กระเป๋าเตรียมไว้พร้อมเสร็จสรรพ “มุก ฮาร์ดดิสก์สำรองอยู่ในกระเป๋านะ” แพรไหมบอกคนที่กำลังวุ่นอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังรันโปรแกรมอย่างขะมักเขม้น “ฉันแก้โค้ดให้อ่านง่ายที่สุดแล้วถ้าไม่เข้าใจก็โทรมาถาม” แพรไหมคือมือฉมังที่เก่งเรื่องการเขียนโปรแกรมมากที่สุดในกลุ่ม เจ้าเอยเป็นฝ่ายดาต้าเบสคอยเก็บรวบรวมข้อมูลและทำเรื่องบัญชีส่วนมุกดาไม่ค่อยเก่งเท่าเพื่อนทั้งสองคนเธอเรียนซอฟต์แวร์แต่ดันมีฝีมือด้านกราฟิกดีไซน์และการตัดต่อวิดีโอนอกจากนี้ยังพ่วงตำแหน่งมาร์เก็ตติ้งของบริษัทMOP softอีกด้วย “อื้อ” “มุก โปรเจคร้านอาหารคุณพงษ์เขาจ่ายเงินมาครบแล้วนะ” เจ้าเอยตะโกนมาจากโต๊ะทำงาน เรียกได้สามสาวกำลังวุ่นวายสุดๆต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ กริ๊ง กริ๊ง เสียงกดกริ่งหน้าประตูออฟฟิศดังขึ้น มุกดาผงกหัวขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์มองไปยังกระจกบานใสที่มองเห็นทะลุออกไปข้างนอก คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นธนัชพี่ชายข้างบ้านที่กำลังโบกมือหย่อยๆเมื่อเห็นมุกดามองมา “มาได้ไงคะเนี้ย” มุกดาเดินไปเปิดประตูต้อนรับแขกผู้ใหม่ “พี่มาพบลูกค้าแถวนี้เลยแวะเอาขนมที่มุกชอบมาฝาก มีของแพรกับของเอยด้วยนะ” “ขอบคุณค่าพี่นัท” เจ้าเอยตอบรับพร้อมกับยกน้ำเย็นมาให้รุ่นพี่ของเพื่อน ส่วนแพรไหมทำเพียงยกมือไหว้ แพรไหมมีนิสัยประหลาดอย่างหนึ่งคือเธอค่อนข้างขี้อายไม่พูดไม่สบตากับคนแปลกหน้าเว้นแต่เวลาอยู่ในโลกออนไลน์ถึงจะแสดงตัวตนออกมา เมื่อก่อนมุกดากับเจ้าเอยเคยแซวอยู่บ่อยๆว่าแพรไหมเป็นโรคกลัวมนุษย์ แรกๆอาจจะแปลกแต่พอนานๆไปพวกเธอก็ชิน “ยินดีครับ ว่าแต่งานเยอะเหรอเห็นยุ่งๆกัน” “ก็นิดหน่อยค่ะ” มุกดาเดินนำพี่ชายข้างบ้านให้มานั่งที่โซฟารับแขก ส่วนเธอเดินไปนั่งบนโซฟาอีกตัวที่อยู่ตรงข้ามเขา “ตามสบายนะคะ” เจ้าเอยเอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟ “ขอบคุณครับ” คนตัวเล็กยิ้มบางๆแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองปล่อยให้มุกดาคุยกับพี่ชายข้างบ้านเป็นการส่วนตัว “แล้วเรื่องพรีเซนต์เป็นไง ช่วงนี้พี่ก็ยุ่งๆเหมือนกันไม่มีเวลาติดตามเรื่องนี้เลย” “มุกนัดพรีเซนต์อีกครั้งแล้วค่ะ อีกอย่างพี่นัทไม่ต้องคอยช่วยหรอก บอกตามตรงมุกเกรงใจ เดี๋ยวพี่นัทจะโดนมองไม่ดี” “ใครจะมองแบบนั้นล่ะมุกคิดมากน่า พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อยแค่ติดตามผลเฉยๆ แต่ถ้ามุกไม่สบายใจงั้นพี่ไม่ตามจากทางโน้นแล้วมาถามมุกโดนตรงดีกว่า” ธนัชบอก “ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่นัท” มุกดารู้สึกของคุณเขาจริงๆ ถ้าหากไม่มีธนัชคอยแนะนำเธอก็คงไม่มีโอกาสได้เข้าไปเสนอผลงานกับบริษัทใหญ่ “ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ พี่รู้จักมุกมาตั้งแต่ตัวเล็กๆแค่นี้” เขายกมือขึ้นเหนือเอวนิดเดียว ย้ำว่าเมื่อสมัยเด็กมุกดาเป็นเด็กหญิงตัวเล็กไม่เหมือนตอนนี้ที่โตเป็นสาวเต็มวัย ส่วนสูงก็เพิ่มมากกว่าเมื่อก่อนราวกับหุ่นนางแบบและยังสวยขึ้นมากๆอีกด้วย “โห่ ขอร้องอย่าล้อเรื่องตอนเด็กมุกจำไม่ได้แล้ว” “ครับๆพี่ไม่ล้อกลัวมุกร้องไห้ขี้แยอีก” “พี่นัท! มุกไม่ได้ขี้แยสักหน่อย” พึ่งบอกอยู่หยกๆว่าอย่าล้อ มุกดาเชิดหน้าขึ้นแกล้งงอนพี่ชายข้างบ้านที่เอาแต่หัวเราะชอบใจ “โอเคๆไม่ล้อแล้ว ว่าแต่เย็นนี้มุกว่างไหมพี่มีร้านอาหารเด็ดๆบรรยากาศดีติดริมน้ำอยากพามุกไป” “ขอโทษนะคะพี่นัทเย็นนี้มุกมีนัดแล้ว” หนุ่มหน้าตี๋ดูผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็ส่งยิ้มให้ ซ่อนความรู้สึกไว้ในใจเงียบๆ “อ้าวเหรอ ไม่เป็นไรพี่เห็นว่าบรรยากาศดีเลยอยากแนะนำ” “ขอบคุณค่ะ ไว้ถ้ามุกสะดวกจะโทรไปบอก จะพายัยเอยกับยัยแพรไปด้วยช่วงนี้ทำงานหนักเกิน” “อืมได้สิ ไว้มุกว่างค่อยโทรมาแล้วกัน” มุกดาคุยกับธนัชต่อได้สักห้านาทีพี่ชายข้างบ้านก็ขอตัวกลับเพราะมีสายด่วนจากลูกค้าโทรตาม มุกดาเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูออฟฟิศพอเดินกลับมาก็เจอสายตาล้อเลียนของสองแสบเพื่อนสนิท “อิจฉาจังมีคนชวนไปดินเนอร์ริมน้ำ บรรยากาศงี้สวี๊ทสวีท” เจ้าเอยทำท่ากอดกับแพรไหมด้วยความรัก จนมุกดาเห็นแล้วนึกหมั่นไส้ ตีแขนของเจ้าเอยและแพรไหมไปคนละที “แอบฟังคนอื่นคุยกันนิสัยไม่ดี” “ไม่ได้แอบสักหน่อย มันได้ยินเองเนาะแพร” แพรไหมพยักหน้าเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย “พอเลยทั้งคู่ ฉันไปดีกว่าถ้ากลับแล้วก็อย่าลืมล็อกประตูกันดีๆล่ะปิดไฟปิดแอร์ด้วย” “ปฏิเสธดินเนอร์กับพี่ชายข้างบ้านไปหาแฟนเก่าเขย่าใจ ฮอตไม่ไหว” เสียงแซวยังคงไล่หลังมา มุกดาหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาท่าทางน่าเกลียดใส่เพื่อนตัวแสบที่หัวเราะคิกคักชอบใจ แล้วเดินกลับมาเก็บเอกสารและของสำคัญใส่กระเป๋า เธอมีนัดกับแฟนเก่าตอนเวลาหนึ่งทุ่มต้องรีบออกไปก่อนที่รถจะติด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม