บทที่8

1165 คำ
เมื่อทั้งหมดแยกย้ายกันกลับห้องของตนก็ต้องตกใจเมื่อจือลู่ร้องตะโกนขึ้นมา จ้าวเหยียนและหนิงเฉิงพุ่งตัวไปที่ห้องของจือลู่อย่างรวดเร็วเพื่อดูว่านางเป็นอะไร คนที่ตกใจคือหนิงเฉิงที่เห็นกล่องหน้าตาประหลาดตั้งอยู่ที่กลางห้องเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับมารดา จ้าวเหยียนจึงเดินไปลูบหัวเขาแล้วพาไปนั่งที่เตียงของจือลู่ จือลู่เปิดกระเป๋าออกก็ต้องตกใจที่กระเป๋าเครื่องสำอางของนางติดตามมาด้วย และยังมีของกินที่อยู่ภายในกระเป๋า พวกแฮมเบอร์เกอร์ และคุกกี้ นางมองไปทางมารดาเห็นว่าไม่ได้ตกใจก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก "หากเจ้าอยากเล่าเมื่อใดค่อยเล่าเถิด" จ้าวเหยียนเอ่ยขึ้นเพราะนางไม่อยากจะบังคับจือลู่ที่เพิ่งหลงยุคมาและยังตกใจกับสภาพแวดล้อมต่างๆ อยู่ "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าอยากให้พวกท่านรับรู้" จือลู่จึงเล่าเรื่องที่นางเกิดอุบัติเหตุเพราะต้องรีบเดินทางไปทำงาน แต่เรื่องที่นางมาอยู่ในร่างนี้ได้อย่างไรนางก็ตอบไม่ได้ จ้าวเหยียนมองจือลู่อย่างเห็นใจ นางไม่คิดว่าจือลู่จะเล่าเรื่องที่นางมิใช่จือลู่บุตรสาวของนางตามความจริง เนื้อเรื่องคงได้ต่างไปจากนิยายเป็นแน่ คนที่ดูจะตกใจมากที่สุดคือหนิงเฉิง จ้าวเหยียนจึงกอดเขาเอาไว้ "พี่สาวของเจ้าก็คือพี่สาวของเจ้า จำไว้เฉิงเออร์ นางก็เป็นเช่นแม่ที่ต้องผ่านเคราะห์กรรมอีกภพ เพื่อได้กลับมาอยู่กับเจ้า" จ้าวเหยียนแก้ตัวแทนจือลู่ เมื่อจือลู่ได้ยินเช่นนั้นก็โผล่เข้าหาจ้าวเหยียนพร้อมร่ำไห้ นางไม่คิดว่าจ้าวเหยียนจะเปิดใจรับนางเป็นบุตร แม้ในภพก่อนทั้งคู่จะจบชีวิตลงในวัยใกล้เคียงกัน แต่เพราะภพใหม่ท่ีนางต้องใช้ชีวิตนางเป็นบุตรของจ้าวเหยียนย่อมต้องให้ความเคารพนางเช่นมารดา "นับจากนี้ พวกเราสามคนแม่ลูกจะพบเจอแต่เรื่องที่ดี" จ้าวเหยียนกอดบุตรทั้งสองไว้คนละข้าง ก่อนที่จะแยกย้ายกลับห้อง จือลู่แบ่งขนมในกล่องของนางให้หนิงเฉิงกลับไปกินด้วย แต่จ้าวเหยียนมิได้รับมาเพราะนางเห็นว่าดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าจึงกำชับให้สองพี่น้องรีบเข้านอน ฟ้ายังไม่สางจ้าวเหยียนก็ลุกเตรียมตัวเพื่อไปให้ทันเกวียนที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ทั้งสามแบกตะกร้าที่ด้านในใส่ถังเช่าไว้แล้วนำผักป่าปิดทับไว้ด้านบนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่ช่างสงสัยสอบถาม "โอวโยว ข้าก็นึกว่าใคร น้องสะใภ้ที่น่าสงสารของข้านี่เอง" จ้าวเหยียนมองไปที่นางกงซื่อ นางคิดว่าคงได้เจอจนออกจากหมู่บ้านเสียแล้ว เพราะทั้งสามคนแม่ลูกน้อยครั้งนักที่จะออกมายุ่งกับชาวบ้าน แต่หากบ้านใดขอความช่วยเหลือจ้าวเหยียนก็ไม่เคยจะเพิกเฉยจึงทำให้นางที่เป็นแม่หม้ายไม่โดนชาวบ้านดูแคลนหรือรังแก และทุกครั้งที่ของในเรือนขาดจะเป็นหนิงเฉิงที่ออกไปซื้อที่จากร้านค้าของชาวบ้านเสียมากกว่า จ้าวเหยียนมิได้ตอบนางแต่กลับพาบุตรทั้งสองเดินไปที่ทางเข้าหมู่บ้านแทน "เพ้ย ข้าพูดกับเจ้าอยู่มิได้ยินหรือ" "ได้ยิน แต่ข้าต้องรีบไป" "เหอะผักป่าของเจ้าจะขายได้มากน้อย สู้แต่งงานใหม่เสียยังดีกว่า" จ้าวเหยียนหันไปมองนางกงซื่อเหมือนมองคนโง่ ตามความทรงจำเดิมจางเหล่ยตายได้ไม่กี่เดือน นางกงซื่อก็คิดจะหาพ่อหม้ายมาให้นางแต่งเสียแล้ว เพราะนางไม่ยินยอมจึงได้ทะเลาะกันใหญ่โตจนท่านลุงชุยต้องออกหน้าปกป้องสามคนแม่ลูกต้าอู๋กับนางกงซื่อจึงได้ถอยไป จ้าวเหยียนยังคงไม่สนใจคำพูดของนางกงซื่อ นางพาบุตรทั้งสองขึ้นไปนั่งบนเกวียน แต่ไม่คิดว่านางกงซื่อจะเข้าตัวเมืองด้วยเช่นกัน นับว่ายังโชคดีที่นางกงซื่อเพียงแค่ค่อนแคะนางแต่มิได้รื้อดูสิ่งของภายในตะกร้า จือลู่ที่รำคาญเสียงของนางกงซื่อก็อ้าปากเพื่อจะตอบโต้กลับหลายครั้ง แต่ก็ถูกจ้าวเหยียนส่งสายตาห้ามปรามไว้เสียก่อนจึงไม่ได้ตอบโต้ไป สองชั่วยามกว่าเกวียนจะมาจอดลงที่หน้าประตู ยังดีที่จ้าวเหยียนให้บุตรทั้งสองรวมถึงตัวนางกินยาแก้เมารถมาก่อนแล้ว ตอนแรกนางก็ชั่งใจเพราะไม่รู้ว่าเมารถม้ากับเมารถในยุคของนางจะเหมือนกันหรือไม่ แต่ตอนนี้สามคนแม่ลูกก็ไม่ได้มีอาการเวียนหัวหรือคลื่นไส้ก็นับมาใช้ได้ จ้าวเหยียนพาบุตรมุ่งหน้าไปที่โรงหมอของท่านหมอโยวตามนิยาย นางไม่ได้กลัวเรื่องที่หมอโยวจะจดจำนางได้หรือไม่ แต่เพราะเขาให้ราคาที่ยุติธรรม "มาซื้อยาหรือมาขายสมุนไพรขอรับ" เสี่ยวเอ้อที่หน้าร้านพูดจานอบน้อม จ้าวเหยียนจึงส่งยิ้มน้อยๆ ให้อย่างพึงพอใจ "มาขายสมุนไพรเจ้าค่ะ" หนิงเฉิงหยิบถังเช่าขึ้นมาเล็กน้อยส่งให้เสี่ยวเอ้อดู "ข้ามิแน่ใจว่าใช่สมุนไพรหรือไม่ท่านรอข้าสักประเดี๋ยวขอรับ" หนิงเฉิงใบหน้าหมองคล้ำลงเพราะกลัวว่าที่ตนเหนื่อยลงมือขุดเสียเป็นวันจะไม่ใช่สมุนไพร จือลู่จึงตบบ่าน้องชายแล้วรับรองว่าสิ่งนั้นคือสมุนไพรแน่นอน เพียงไม่นาน หลงจู๊ก็รีบเดินออกมาจากร้านเพื่อพาทั้งสามคนเข้าไปที่ห้องรับรอง เขาให้เสี่ยวเอ้อนำชาและของว่างมาให้จือลู่และหนิงเฉิงได้ดื่มกินอย่างมากมาย "ฮูหยิน ไม่ทราบว่าท่านหาหญ้าหนอนมาจากที่ใดขอรับ" หลงจู๊รินน้ำชาเพื่อเอาใจจ้าวเหยียน จ้าวเหยียนและจือลู่เลิกคิ้วมองหลงจู๊อย่างแคลงใจ เมื่อหลงจู๊เห็นหน้าของสองแม่ลูกจึงได้เปลี่ยนคำพูด "ข้าหมายถึง ท่านมีมากหรือไม่ขอรับ" เขาปาดเหงื่อที่หน้าผากอย่างเกรงๆ "ต้องดูว่าท่านให้ราคาข้าเช่นไรเจ้าคะ" จ้าวเหยียนวางถ้วยน้ำชาลงช้าๆ อย่างไม่เร่งรัดเอาคำตอบ "ดีดีดี ฮูหยินพูดได้ดี" หมอโยวที่เข้ามาทันคำตอบของจ้าวเหยียนก็ลูบเคราอย่างใช้ความคิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม