บทที่9

1239 คำ
เขาเดินตรงเข้ามาที่หญ้าหนอนที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วหยิบขึ้นมาพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเพื่อจะพูดคุยเรื่องราคากับจ้าวเหยียนก็ต้องตกตะลึงที่เห็นใบหน้าของนาง "พะ พระ" หมอโยวรีบหุบปากทันทีเมื่อเห็นสายตาของจ้าวเหยียนที่มองมาที่เขา เพื่อไม่ให้เขาได้พูดต่อ "ท่านซื้อหรือไม่ท่านหมอ" จ้าวเหยียนถามขึ้น หลงจู๊ต้องสะกิดหมอโยวที่ตะลึงจนนิ่งค้างไป จือลู่และหนิงเฉิงมองหมอโยวและมารดาของตนสลับไปมาอย่างสงสัย เพราะอาการของหมอโยวที่แสดงออกมาเหมือนคนที่รู้จักมารดาของตน "ซื้อ ซื้อ ขอรับ ข้าให้ราคาห้าพันตำลึงทองต่อชั่ง ท่านพอใจหรือไม่ขอรับ" (1ชั่ง=500กรัม) "ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ" จ้าวเหยียนไม่คิดว่านางจะได้ราคาดีกว่าในนิยาย หลงจู๊รีบให้เสี่ยวเอ้อนำถังเช่าไปชั่งดูน้ำหนักทันที หมอโยวก็นั่งมองจ้าวเหยียนเหมือนอยากจะเอ่ยพูดเรื่องอะไร เมื่อเสี่ยวเอ้อเข้ามาแจ้งว่าถังเช่าทั้งหมดหนักถึงสิบสองชั่ง หมอโยวก็ให้หลงจู๊นำเงินมาให้ทันที หนิงเฉิงพอได้ยินพี่สาวกระซิบบอกว่าได้มากถึงหกหมื่นตำลึงทองก็นิ่งงันไปเหมือนวิญญาณของเขาหลุดออกจากร่างไปเสียแล้ว "ลู่เออร์ เฉิงเออร์ พวกเจ้าออกไปรอแม่ที่ด้านนอกเสียก่อน" จ้าวเหยียนส่งตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินให้จือลู่ และบอกให้นางไปซื้อของรอตนก่อน เพราะจ้าวเหยียนมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับท่านหมอ "ท่านว่ามาเถิดเจ้าค่ะ" จ้าวเหยียนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ เมื่อบุตรทั้งสองออกไปจากห้องแล้ว "พระชายา เหตุใดท่านถึงยังมีชีวิตอยู่ ไม่ ไม่ ข้าหมายถึงท่านมาอยู่ที่เป่ยหานได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ" "หากให้เล่าเหตุทีเรื่องจะยาว" จ้าวเหยียนจึงเล่าเพียงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานางอยู่ที่เป่ยหานตั้งแต่แรกเพราะจางเหล่ยพานางหนีกลับมาที่บ้านเดิม และนางมิเคยย่างเท้าออกมาจากหมู่บ้านเลยสักครั้ง เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย "เหตุใดท่านไม่ส่งข่าวถึงท่านอ๋องเลยพ่ะย่ะค่ะ" หมอโยวเอ่ยถามเรื่องที่เขาข้องใจ "ข้าเคยส่งไปแล้วหลายครั้ง แต่มิได้รับการตอบกลับ" หมอโยวนิ่งเงียบไปเห็นทีเรื่องนี้คงมีเบื้องหลังเสียแล้ว "เช่นนั้น กระหม่อมจะส่งข่าวให้ท่านอ๋องเองพ่ะย่ะค่ะ" "มิต้อง นานถึงเพียงนี้แล้ว ท่านอ๋องคงหลงลืมข้ากับบุตรไปสิ้นแล้ว" จ้าวเหยียนกล่าวจบก็เอ่ยขอตัวลา แต่หมอโยวต้องการไปส่งนางที่หมู่บ้านจึงได้อาสาให้รถม้าของโรงหมอไปส่งนาง จ้าวเหยียนก็มิได้ขัดข้อง เมื่อทั้งคู่พูดคุยกันเสร็จ จือลู่และหนิงเฉิงก็ซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว หมอโยวพาทั้งสามขึ้นรถม้าแล้วไปส่งด้วยตนเอง ตลอดทางพวกเขามิได้พูดคุยเรื่องที่คุยภายในโรงหมอเลย ชาวบ้านเมื่อเห็นรถม้าเข้ามาต่างก็ออกมาดูอย่างสนใจ จนรถม้าไปจอดที่เรือนท้านหมู่บ้านก็ยิ่งแปลกใจ เพราะทั้งสามแม่ลูกไม่ค่อยได้ออกจากหมู่บ้าน จะมีคนรู้จักได้อย่างไร แต่พอเห็นคนที่มาด้วยเป็นท่านหมอโยว ชาวบ้านจึงเลิกสงสัยและกลับเรือนของตนไป เพราะจ้าวเหยียนมักจะเจ็บป่วยอยู่เสมอคงไม่แปลกหากจะมีหมอมาที่เรือนของนาง หมอโยวยืนมองบ้านที่ทรุดโทรมแล้วถอนหายใจ เขาอดที่จะสงสารในโชคชะตาของจ้าวเหยียนมิได้ เมื่อก่อนเป็นคุณหนูในตระกูลจ้าวที่ได้รับการทะนุถนอมอย่างดี พอแต่งให้ชินอ๋องก็แทบจะถูกประคองไว้บนฝ่ามือ จือลู่กับหนิงเฉิงที่มีคนขับรถม้าช่วยขนของเขาไปในเรือน หมอโยวเมื่ออยู่กับจ้าวเหยียนตามลำพังจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "พะ ฮูหยิน ข้ามีเรือนในเมืองอยู่หลังมิได้ใช้ หากท่านไม่รังเกียจไปอยู่ที่เรือนหลังนั้นดีหรือไม่ขอรับ" จ้าวเหยียนคิดตาม นางไม่คิดว่าเรือนที่จือลู่ซื้อตามนิยายนางจะได้มาโดยไม่เสียเงินสักบาท และหากไปอยู่ที่ในเมืองคงจะดีต่อตัวบุตรทั้งคู่ด้วย "ขอบคุณท่านหมอที่เมตตาเจ้าค่ะ" "มิได้ มิได้ขอรับ ประเดี๋ยวข้าน้อยจัดการเรือนเรียบร้อยแล้วจะให้คนมาส่งข่าวให้ท่านเก็บของขอรับ" เมื่อเห็นจือลู่และหนิงเฉิงกลับออกมาแล้วทั้งคู่ก็หยุดบทสนทนาลง และส่งท่านหมอโยวกลับไป "อาเหยียนเจ้าล้มป่วยอีกแล้วหรือ" ผู้นำหมู่บ้านกับท่านป้าชุยก็รีบร้อนเดินมาที่เรือนของจ้าวเหยียนเพื่อดูว่านางเป็นเช่นไร "เข้าเรือนก่อนเถิดเจ้าค่ะ" จ้าวเหยียนประคองท่านป้าชุยเข้าเรือน นางคิดจะบอกหัวหน้าหมู่บ้านเรื่องถังเช่า เพื่อตอบแทนที่เขาดูแลนางและบุตรอย่างดีมาตลอด และนางก็ยังอยากให้เนื้อเรื่องบางอย่างเป็นไปตามนิยายด้วย เมื่อทั้งหมดเข้ามานั่งในเรือนแล้ว จ้าวเหยียนจึงเล่าเรื่องที่นางพบหญ้าหนอนแล้วนำไปขายที่ร้านยาของหมอโยว นางบอกให้ท่านลุงชุยไปแจ้งชาวบ้านเพื่อที่นางจะได้นำทางในวันพรุ่งนี้ ท่านลุงชุยและท่านป้าชุยรีบขอบคุณสามแม่ลูกยกใหญ่ก่อนจะขอตัวกลับไปเพื่อแจ้งข่าวเรื่องขึ้นเขาในวันพรุ่งนี้กับชาวบ้าน "ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงบอกเรื่องหญ้าหนอนกับท่านปู่ชุยขอรับ"จ้าวเหยียนบอกเรื่องที่หมอโยวจะให้พวกนางย้ายไปอยู่ที่เรือนในเมือง และเหตุที่บอกท่านลุงชุยเพราะอยากตอบแทนที่เขาดูแลนางตลอดที่ผ่านมา "พวกเจ้าว่าแม่ทำถูกหรือไม่" จือลู่เห็นด้วยกับมารดา เพราะหากเป็นนางก็คงจะทำเช่นนั้น หนิงเฉิงหนิงคิดไปก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อคิดตามคำพูดของมารดา "แม่มีอีกเรื่องที่ต้องบอกพวกเจ้า" จ้าวเหยียนถอนหายใจก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่นางเป็นพระชายาของชินอ๋องและต้องหนีคนขององค์ชายรองที่มาจับตัวนางเพื่อต่อรองให้ชินอ๋องถอนทัพ "เหตุใดชินอ๋องถึงไม่ออกตามหาท่าน" จือลู่เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ หนิงเฉิงที่เห็นด้วยกับพี่สาวก็มองหน้าจ้าวเหยียนอย่างขอคำตอบ นางจึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดที่หมอโยวบอกนางเรื่องที่มือสังหารหาศพไปหลอกชินอ๋อง ด้วยรูปร่างของศพทั้งสองร่าง คนแม่ที่ท้องอายุครรภ์ใกล้เคียงกับนางและบุตรสาวที่คล้ายจือลู่ในยามนั้นทำให้ชินอ๋องปักใจเชื่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม