บทที่3

1112 คำ
หนิงห่าวจึงเล่าเรื่องที่จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่เมืองหลวง เขาให้จ้าวเหยียนรีบเก็บข้าวของเพื่อพาบุตรสาวและบุตรในท้องหลบหนีไปก่อน "เจ้ารอให้พี่ไปรับอย่างสบายใจเถิด" หนิงห่าวกอดลาจ้าวเหยียนแล้วส่งนางขึ้นรถม้าอย่างอาลัยอาวรณ์ เขาหันไปกำชับองครักษ์และทหารให้ดูแลนางให้ดี หนึ่งในนั้นมีจางเหล่ยทหารข้างกายของเขาอีกคน "เจ้าคอยอารักขาพระชายาและบุตรีของเปิ่นหวางให้ดี รอที่จุดนัดหมาย เมื่อจบเรื่องข้าจะไปรับนางด้วยตนเอง" หนิงห่าวตบไปที่บ่าของจางเหล่ยที่ยืนฟังคำสั่งของเขาอยู่ "เหยียนเหยียน ข้าจะรีบไปรับเจ้า" หนิงห่าวเปิดผ้าม่านรถม้าขึ้น แล้วบรรจงจูบหน้าผากของนางและบุตรสาวก่อนจะเร่งให้ทั้งหมดออกเดินทาง ระหว่างทางที่เดินทางออกจากเมืองหลวง จ้าวเหยียนที่นั่งอยู่ภายในรถม้านางไม่รู้ว่าออกเดินทางไปทิศใด และมาไกลถึงเพียงไหนแล้ว นางนั่งกอดบุตรสาวไว้กับอกแน่น สาวใช้ที่พามาด้วยก็เพียงแค่สองคนเท่านั้น "คุ้มครองพระชายา" เสียงรถม้าหยุดลงและเสียงโวยวายด้านนอกก็ทำให้ทั้งหมดที่นั่งในรถม้าพากันอกสั่นขวัญแขวน "เกิดอันใดขึ้น" จ้าวเหยียนตะโกนถามออกไปด้านนอก แต่กลับเป็นจางเหล่ยที่เปิดผ้าม่านเข้ามาแล้วพานางกับจือลู่ลงจากรถม้าเพื่อหนีไปอีกทาง สาวใช้ทั้งสองรีบติดตามมาโดยเร็วแต่ก็ไม่ทัน เพราะมือสังหารที่ติดตามมาด้วยได้ลงมือฆ่านางไปเสียแล้ว จางเหล่ยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็หยิบห่อผ้าที่มีเสื้อผ้าและของมีค่าของจ้าวเหยียนมาผูกที่ตัวและอุ้มจือลู่ขึ้น แล้วพาจ้าวเหยียนออกวิ่ง "พระชายาอดทนหน่อยพ่ะย่ะค่ะ" จางเหล่ยที่หันไปบอกจ้าวเหยียนที่สีหน้าซีดขาวก็เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่ก็มิอาจจะหยุดพักได้ เพราะยังหนีออกมาไม่ไกล องครักษ์ที่เหลือก็ขัดขวางไม่ให้มือสังหารติดตามทั้งคู่มาทัน "พระชายา ท่านข้าไปแอบด้านในก่อนพ่ะย่ะค่ะ" เมื่อวิ่งมาได้ไกล จางเหล่ยที่เห็นถ้ำก็พาจ้าวเหยียนเข้าไปแอบอยู่ด้านใน จางเหล่ยก็เฝ้าอยู่ที่ปากถ้ำ จ้าวเหยียนกดบุตรสาวที่เริ่มเสียขวัญไว้แน่นและเอ่ยปลอบประโลมนางมิให้นางร้องออกมา จนฟ้าสาง จางเหล่ยที่ไม่เห็นมือสังหารและองครักษ์ก็พาจ้าวเหยียนเดินเข้าไปในป่า เพื่อหาทางออกหากเจอหมู่บ้านจะได้ขอความช่วยเหลือ "พระชายา กระหม่อมคงพาท่านไปที่จุดนัดพบมิได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" จางเหล่ยจึงได้บอกเรื่องที่มีเกลือเป็นหนอนกับจ้าวเหยียน และเขาก็ออกความคิดว่าจะพานางไปที่บ้านเดิมของเขาเพื่อหลบซ่อนตัว เพราะไม่มีใครรู้ว่าบ้านเดิมของเขาอยู่ที่ใด ทั้งสามเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเหมือนชาวบ้านทั่วไปและหาซื้อรถม้าเพื่อกลับไปที่เมืองเป่ยหานบ้านเกิดของจางเหล่ย จ้าวเหยียนอ่อนเพลียจนนางแทบลืมตาไม่ขึ้น ก็ได้แต่นอนพักอยู่ในรถม้า จือลู่ก็เป็นเด็กดีนั่งเล่นอยู่ข้างๆมารดา กว่าจะเดินทางถึงหมู่บ้านชุยหงก็ผ่านไปเกือบสองเดือน เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงทั้งสองก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ จางเหล่ยคิดไว้ว่าเมื่อถึงหมู่บ้านเขาจะส่งข่าวบอกหนิงห่าว จางเหล่ยประคองจ้าวเหยียนลงมาจากรถม้าเพื่อเข้าเรือน เสียงร้องตกใจของนางกงซื่อก็ดังขึ้นจนต้าอู๋พี่ชายของจางเหล่ยต้องเดินออกมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นน้องชายของตนกลับมาก็เรียกให้เข้าไปในเรือน "เมียเจ้าหรืออาเหล่ย" นางกงซื่อมองจ้าวเหยียนอย่างพิจารณา "ใช่แล้วเจ้าค่ะ" จางเหล่ยที่กำลังจะปฏิเสธก็ถูกจ้าวเหยียนเอ่ยขึ้นแทนเสียก่อน วันเวลาที่นางใช้ชีวิตที่หมู่บ้านผ่านไปด้วยความข่มขื่นเสียงด่าทอของนางกงซื่อกล่าวหาว่านางเป็นสตรีไร้ยางอาย ไร้หัวนอนปลายเท้ามักจะได้ยินอยู่เสมอ และมักจะต่อว่านางที่ทำอันใดก็มิเป็นต้องให้จางเหล่ยเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่ก็เป็นหลังจากที่จางเหล่ยออกไปข้างนอกเพื่อสืบข่าวเรื่องในเมืองหลวง และนางก็ไม่คิดจะบอกจางเหล่ยเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ จนวันหนึ่งนางเห็นนางกงซื่อผลักจือลู่จนล้มลงกับพื้นความอดทนของนางที่มีทั้งหมดก็จบลง เมื่อจางเหล่ยกลับมาถึงเรือนเห็นสีหน้าของนางที่เคร่งเครียดจึงเอ่ยถามขึ้น วันนั้นจางเหล่ยจึงได้ทำเลาะกับพี่ชายและพี่สะใภ้จนเกือบจะลงมือทุบตีนางกงซื่อเพราะบังอาจมาทำร้ายบุตรของฉีหนิงห่าว หากเรื่องนี้เขาล่วงรู้ตระกูลจางคงได้สิ้นชื่อ จางเหล่ยจึงได้พาจ้าวเหยียนออกจากเรือนของพี่ชายไปอยู่ที่เรือนท้ายหมู่บ้านที่เขาได้ซื้อต่อจากท่านลุงชุยผู้นำหมู่บ้านไว้ ชีวิตของจ้าวเหยียนจึงนับว่าสบายหูขึ้นเยอะ เรื่องภายในเมืองหลวงที่ล่วงผ่านมาจนถึงวันที่นางคลอดหนิงเฉิงออกมาก็ยังมิได้ข่าว ทำให้จ้าวเหยียนเริ่มถอดใจ เพราะไม่รู้ว่าทางหนิงห่าวเป็นเช่นใด จะออกเดินทางกลับเมืองหลวงก็ยังไม่สะดวก เมื่อหนิงเฉิงไปหกเดือน ทั้งคู่ก็เริ่มที่จะออกเดินทางกลับเมืองหลวงแต่ก็ต้องกลับมาที่หมู่บ้าน เพราะมีคนขององค์ชายรองออกตามหาจ้าวเหยียน นางจึงล้มเลิกความคิดและรอหนิงห่าวอย่างมีความหวัง จดหมายที่นางส่งไป ไม่ว่าจะเป็นที่จวนจ้าวหรือตำหนักอ๋องล้วนแล้วแต่มิได้ข่าวกลับมา นางจึงไม่กล้าที่จะส่งไปอีก เพราะกลัวจะเกิดเรื่องขึ้นกับนางและบุตรทั้งสอง และอาการเจ็บป่วยของนางก็ทำให้นางออกเดินทางไกลได้ยากนัก หากจะรักษาตัวยาที่ต้องใช้ก็ราคาแพงจนนางไม่กล้าจะใช้จ่าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม