จนเมื่อจือลู่อายุได้สิบสองหนาว จางเหล่ยที่ออกไปหาสมุนไพรและล่าสัตว์ก็เกิดลื่นตกเขาจนเสียชีวิต ความหวังเดียวที่นางมีอยู่พังทลายลง จ้าวเหยียนอธิษฐานต่อสวรรค์ให้เมตตานางกับบุตรให้ได้เจอหนิงห่าวก่อนที่นางจะตาย
เพราะจ้าวเหยียนที่รู้ว่าร่างกายของนางคงทนอยู่ได้อีกไม่นานจึงได้แต่คอยสอนให้บุตรทั้งคู่เคียงข้างกัน วันที่นางกลัวก็มาถึง ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้บุตรทั้งสองไม่ได้ยินเสียงเรียกของนาง
นางอยากจะเล่าเรื่องบิดาของทั้งคู่ให้ฟังก็มิอาจทำได้ มาคิดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว นางโทษโชคชะตาที่ทำให้นางเป็นเช่นนี้ และถ้าหากขอได้ นางขอให้นางได้อยู่ดูแลบุตรทั้งสองอีกครั้ง
จ้าวเหยียนสะดุ้งขึ้นสุดตัวจากที่นอน นางจับหน้าอกที่หัวใจของนางเต้นแรง เมื่อมองไปรอบๆจึงได้รู้ว่านางอยู่ภายในห้องพักสิ่งที่นางพบเจอทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
เหตุใดถึงได้ฝันอีกแล้ว จ้าวเหยียนได้แต่คิดวนไปวนมา หว่านหว่านที่เห็นอาการผิดปกติของเพื่อนก็ปลอบใจนางให้นางนอนพักเพราะยังไม่เช้า
"เหยียนเหยียน วันนี้เธอหยุดพักสักวันเหอะ สีหน้าเธอดูไม่ดีเลย ฉันจะลางานให้เธอเอง" หว่านหว่านผลักให้จ้าวเหยียนนอนลง
"หากเธอเบื่อก็ลองอ่านนิยายเรื่องนี้ดู" หว่านหว่านส่งลิงค์นิยายเรื่อง ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย ให้จ้าวเหยียน พร้อมเล่าเรื่องคราวๆให้เธอฟัง
"เธอว่านางเอกกับน้องชายชื่ออะไรนะ" จ้าวเหยียนหันไปหาเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามอย่างตกใจ
"จือลู่กับหนิงเฉิง"
เมื่อจ้าวเหยียนได้ยินเธอก็ตกตะลึงและนิ่งเงียบไป คงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น จนหว่านหว่านออกจากห้องไปแล้วเธอก็ยังนั่งคิดอย่างเหม่อลอย ด้วยความสงสัยเธอจึงเปิดเข้าไปดูและซื้อนิยายเพื่ออ่าน
จ้าวเหยียนไม่รู้ว่าเธอจะตกใจเรื่องใดก่อนดี ทั้งชื่อตัวนิยาย และเรื่องที่สอดคล้องกับความฝันของเธอ ทำให้เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูก เมื่ออ่านและได้รับรู้ว่าจือลู่จะถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและมีวิญญาณของจือลู่ที่เป็นช่างแต่งหน้าในยุคปัจจุบันเข้าไปแทน
จ้าวเหยียนก็ร้องไห้โฮออกมา นางเพิ่งฝันถึงจือลู่ที่เป็นบุตรสาวของนาง ความรู้สึกที่กอดนางยังคงเหลืออยู่ พอรู้ว่านางต้องตายจ้าวเหยียนก็ร้องไห้เหมือนคนเสียสติ นางเจ็บปวดจนไม่อาจพูดออกมาได้
เมื่อตั้งสติและอ่านจนจบจึงได้รู้ว่า หากนำความฝันของนางมาปะติดปะต่อกันก็จะรู้เหตุผลที่ฉีหนิงห่าวไม่ออกตามหาพวกนางสามคนแม่ลูกและได้รู้ว่าเขารักนางมากเพียงใด
จ้าวเหยียนจมอยู่ในความคิดของนาง หากเรื่องที่เกิดขึ้นตามความฝันของนางเป็นเรื่องของนางในภพก่อนนางจะทำเช่นไร ในเมื่อนางมาอยู่ในภพใหม่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้แล้วคงได้แต่ปล่อยไปตามโชคชะตา
เพียงแต่ความเศร้าใจยังคงอยู่กับนาง เมื่อหว่านหว่านกลับมาจากที่ทำงานได้ถามเรื่องนิยายนางก็ตอบไปว่าอ่านจบแล้ว และนางก็ชื่นชอบเรื่องนี้อย่างมาก
"หากเธอชอบนะ มีนิยายคล้ายๆ กันอีกหลายเรื่องที่นางเอกต้องทะลุมิติไป แต่จะมีเรื่องแบบนี้ได้ยังไง อ่านเอาสนุกก็พอ" หว่านหว่านพูดคุยกับจ้าวเหยียนอย่างออกรสชาติ แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนของเธอกำลังจมอยู่ในความคิด
จ้าวเหยียนเมื่อคิดได้แล้วก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ เธอไม่ได้ฝันเรื่องตามนิยายแล้ว เพียงแต่ในฝันของเธอมีเพียงหนิงห่าวที่เรียกชื่อของเธอซ้ำๆ ไม่รู้จบ
"คุณเหยียน ช่วยไปเบิกยาให้ผมที่ห้องยาด้วยนะครับ" หมอเจิ้งเดินเข้ามาบอกจ้าวเหยียนในห้องทำงาน
"ได้ค่ะ" จ้าวเหยียนจึงลุกขึ้นเพื่อเดินไปที่ห้องเบิกยาและอุปกรณ์ที่อยู่อีกตึกหนึ่ง
ของที่เธอเบิกออกมามีจำนวนมาก ผู้ช่วยที่จัดยาจึงนำยาทั้งหมดใส่ลงไปในกล่องเพื่อให้จ้าวเหยียนยกไปได้ง่าย เพราะจะมีการผ่าตัดใหญ่ของที่ใช้จึงมีมาก จ้าวเหยียนลืมนึกไปเธอจึงไม่ได้ชวนเพื่อนมาด้วย
ระหว่างที่เธอเดินกลับไปที่แผนกของตนเอง ก็มีคนวิ่งมาชนเธอจากด้านหลังทำให้จ้าวเหยียนเสียการทรงตัวและล้มลงไปกับพื้น
เสียงบีบแตรดังขึ้น และตามมาด้วยเสียง โครม!!! เสียงกรีดร้องของคนที่เห็นเหตุการณ์ดังไปทั่ว แต่จ้าวเหยียนมิได้รับรู้อะไรแล้ว
'เจ็บ' ความรู้สึกแรกเมื่อจ้าวเหยียนรู้สึกตัว เธอลองขยับตัวก็รู้สึกว่ารถที่วิ่งมาคงชนเธออย่างแรง เพราะภายในห้องที่มืดสนิทจนเธอไม่อาจรับรู้ได้ว่าตัวเองมีสภาพเช่นไร แต่แขนขาก็ยังขยับได้ตามปกติ และยังสามารถลุกขึ้นมานั่งพิงที่หัวเตียงได้อีกด้วย
จ้าวเหยียนคลำหาของที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ และเครื่องกดที่เรียยกพยาบาล แต่เธอก็พบเพียงความว่างเปล่า ไม่มี ไม่มีอะไรเลย มีเพียงตู้เล็กๆที่เธอคลำไปเจอแต่ก็ไม่ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยเช่นข้าวของในโรงพยาบาล
เสียงฝนที่ตกอย่างหนักอยู่ด้านนอกทำให้เสียงของเธอที่ตะโกนเรียกหาพยาบาลดังออกไปไม่ถึง ครืน ครืน เปรี้ยง!!! เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าที่ผ่าลงมา ทำให้ภายในห้องสว่างวาบขึ้น
จ้าวเหยียนที่เห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึงจนล้มลงไปนั่งกับพื้น สติการรับรู้เสียงรอบๆด้านของเธอหยุดลง แม้แต่ตอนที่มีเด็กสองคนวิ่งเข้ามาประคองเธอลุกขึ้นไปนั่งที่เตียงเธอก็ยังไม่รับรู้
"ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ" จ้าวเหยียนหันไปมองเด็กสาวที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายเธออย่างตกใจ
"ท่านแม่ ท่านอย่าทำให้ข้ากลัวขอรับ" เด็กชายเข้ามาสวมกอดเธออย่างขวัญหนี
ในหัวของจ้าวเหยียนมีแต่คำว่า เกิดอะไรขึ้น เป็นไปไม่ได้ ที่นี่ที่ไหน จือลู่และหนิงเฉิงเมื่อเห็นมารดานิ่งเงียบผิดปกติ ต่างก็แสดงสีหน้ากังวลใจ เมื่อตรวจดูก็พบว่ามารดามิได้เป็นอันใด หรืออาการของนางกำเริบ