“เดี๋ยวก่อน!” คาร์เตอร์สั่งให้ลูกน้องอย่าเพิ่งออกรถเมื่อเขาเห็นสองพ่อลูกเดินออกมาจากบ้าน
ชายหนุ่มตามดูพาฝันตั้งแต่ที่มหาวิทยาลัย ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานพิเศษ และก็เลยมาที่บ้านของเธอ การได้เฝ้ามองเธอทำให้คาร์เตอร์ค่อนข้างทึ่งกับการใช้ชีวิตของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
“ให้ตามไปไหมครับ” ชายชุดดำที่นั่งเบาะข้างคนขับถามเจ้านายหนุ่ม
“ตามไปห่างๆ”
คาร์เตอร์พูดขึ้นเมื่อชายที่คาดว่าจะเป็นบิดาของพาฝันจูงมือเธอเดินผ่านรถของเขา เด็กสาวน้ำตาไหลอาบแก้ม สภาพดูอิดโรยไม่น้อย ชุดนักศึกษายับยู่ยี่ พ่อของเธอถือเป้ใบใหญ่ในมือ ขณะที่เธอก็ถือกระเป๋าเรียนที่น่าจะหนักเอาการ
เธอเป็นอะไร? …
มีปัญหาอะไรเหรอ? …
ชายหนุ่มครุ่นคิดขณะนั่งอยู่ในรถ พวกเขาตามพวกเธอมาจนถึงหน้าตึกแถวสามชั้นที่น่าจะเป็นร้านอะไรสักอย่าง พ่อของเธอเปิดประตูเหล็กม้วนขึ้นแล้วทั้งสองก็เข้าไปในนั้น
ดูไปแล้วเธอก็น่าสงสาร
ช่วงเย็นตอนที่เธออยู่ในร้านสะดวกซื้อเขายังเห็นเธอยิ้มอยู่เลย เขานึกว่าเธอจะเป็นคนสดใสร่าเริง ทว่าเธอกลับขี้แย
ตอนเธอร้องไห้ก็ดูเศร้าจนทำให้เขาปวดใจ
เมื่อคาร์เตอร์แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครออกมาจากตึกแถวนั่นเขาก็สั่งให้ลูกน้องขับรถกลับไปที่เพนท์เฮ้าส์ของตน
เมื่อโรลส์รอยซ์มาจอดที่หน้าคอนโดหรู คนขับรถก็รีบลงมาเปิดประตูรถให้เขา บอดี้การ์ดเดินนำหน้าเข้าไปกดลิฟต์รอแล้ว คาร์เตอร์เดินเข้าไปในลิฟต์ ลิฟต์ส่วนตัวที่ใครก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ร่วมนอกจากเขาและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น
…เขาไม่ชอบกลิ่นคนอื่น ยิ่งกลิ่นเหงื่อเหม็นๆ เขายิ่งเกลียด…
เมื่อถึงชั้นเพนท์เฮาส์ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก คาร์เตอร์เดินเข้าไปก็มีแม่บ้านสองคนรอต้อนรับอยู่
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณหนู”
“คุณหนูจะทานอะไรไหมคะ”
“ไม่”
แม่บ้านที่ดูอ่อนกว่าก้มลงช่วยเขาถอดรองเท้า แล้วนำรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านแบรนด์หรูราคาเหยียบแสนมาวางให้เขาใส่ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตน
ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว…
คาร์เตอร์เดินเข้าไปในห้องน้ำสุดหรูหรา ผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดมีกลิ่นหอมอ่อนๆ วางเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อย มือแกร่งค่อยๆ ปลดเสื้อนักศึกษาและถอดมันออก จากนั้นก็ตามด้วยกางเกง และชิ้นอื่นๆ จนร่างกายเขาเปลือยเปล่า
เขาเดินไปที่อ่างจากุซซี่ที่ตีฟองรอไว้แล้วก่อนจะเอาตัวลงไปแช่ในอ่างอย่างผ่อนคลาย แล้วก็ยกแก้วชาคาโมมายด์ที่วางไว้ข้างๆ อ่างขึ้นมาจิบ
ระหว่างแช่น้ำเขาก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูรายงานจากลูกน้อง …เพราะเธอไม่เล่นโซเชี่ยล ทำให้เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย นอกจากรูปถ่ายที่ถูกแอบถ่ายมา…
ตั้งแต่เขานั่งดูเธอมา เขาเห็นเธอยิ้มนับครั้งได้
ชีวิตของเธอนั้นมีแต่ความเร่งรีบ เธอรีบวิ่งออกมาจากมหาวิทยาลัยไปขึ้นรถเมล์ รีบลงจากรถเมล์ไปที่ร้านสะดวกซื้อ พอกลับบ้านยังไม่ทันจะได้พักผ่อนก็เดินร้องไห้ออกมา
…นี่มันเป็นเรื่องปกติของคนจนหรือเปล่า ทำไมคนพวกนี้ชอบใช้ชีวิตแปลกๆ …
คาร์เตอร์หลับตาลง เขาพยายามไล่ภาพยัยเด็กนั่นออกไปจากหัว…แต่เขาก็ชอบรอยยิ้มของเธอนะ แค่อยากเห็นเธอยิ้มบ่อยๆ เขาไม่ชอบเลยตอนที่เธอร้องไห้อะไรแบบนั้น มันทำให้เขาหดหู่…
คาร์เตอร์ลืมตาขึ้น
นี่เขาเป็นบ้าอะไรเนี่ย!!!!!…
คาร์เตอร์ถอนหายใจออกมาก่อนจะกลั้นหายใจแล้วมุดตัวลงไปใต้น้ำ….
.
.
.
“อิ่มแล้วเหรอคะคาร์เตอร์”
วิโอลินถามขึ้นเมื่อเห็นคาร์เตอร์เช็ดปาก
“อือ”
“ทานน้อยจัง”
“เจ้าเตอร์ทานน้อยแบบนี้แหละหนูลิน” ชายมีอายุท่าทางน่าเกรงขามที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหารหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลีราคาเกือบแปดหลักพูดขึ้น
“ก็จริงครับ เวลาอยู่กับพวกผมแทบไม่ได้กินข้าวเลยครับ กินแต่ผลไม้…องุ่น” มาร์ตินพูดยิ้มๆ
“ลูกก็เพลาๆ ลงบ้างนะมาร์ติน” พ่อของมาร์ตินปรามลูกชาย
หนุ่มๆ อมยิ้มออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น
ค่ำคืนนี้เป็นดินเนอร์รวมเหล่ามหาเศรษฐีสามตระกูลที่จัดขึ้นในทุกหกเดือน ครอบครัวของคาร์เตอร์ มาเฟียแห่งวงการธุรกิจห้างสรรพสินค้า โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ไทเลอร์ มาเฟียแห่งวงการสื่อและมาร์ติน มาเฟียแห่งวงการการเมือง ทั้งสามตระกูลนั้นเป็นมิตรกันอย่างแน่นแฟ้น
ในช่วงที่ผ่านมามีตระกูลเศรษฐีมากมายมาขอทำความรู้จัก หลังจากที่เฝ้ารอมานานครั้งนี้ได้เป็นคราวของครอบครัววิโอลินเสียที บิดาของเธอนั้นเป็นเจ้าของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่กำลังมีแผนจะขยายสาขาไปทั่วประเทศ พวกเขากำลังต้องการการสนับสนุนจากผู้ลงทุน สามตระกูลก็กำลังสนใจธุรกิจนี้เช่นกัน
“ตอนนี้ธุรกิจลูกๆ เป็นยังไงบ้างล่ะ” พ่อของวิโอลินถามชายหนุ่มทั้งสามที่ชอบทดลองทำธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งบางอย่างนั้นไปได้ดีทีเดียว
“ก็ไปได้เรื่อยๆ ครับ ตอนนี้ก็กำลังมีโปรเจกต์ใหม่” ไทเลอร์ตอบอย่างสุภาพ
“ดีมากเลยนะ ทดลองทำหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง ได้ยินมาว่าพวกเราทำกันเองหมด ไม่เคยขอเงินทางบ้านหรือให้ที่บ้านช่วยเหลือเลย”
“ไม่จริงหรอกครับ แค่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของใครก็ทำอะไรง่ายไปแล้วครึ่งหนึ่ง” คาร์เตอร์โพล่งขึ้นเนือยๆ ในขณะที่บิดาของวิโอลินมองไปที่เด็กหนุ่มอย่างชื่นชม
“วิโอลินน่ะชมเราไม่ขาดปากเลยนะ คาร์เตอร์เก่งอย่างนั้น คาร์เตอร์เก่งอย่างนี้” พ่อของวิโอลินพูดพร้อมหันไปทางลูกสาว
“คุณพ่อก็”
“เด็กๆ เขาชอบทดลองทำนู่นทำนี่ตั้งแต่เด็กแล้ว พ่อยังจำได้ตอนที่พาไปเที่ยวญี่ปุ่น เจ้าคาร์เตอร์ขอร้องให้พ่อช่วยดิวกับร้านของเล่นให้เพราะจะเอาของมาขายให้เพื่อนในโรงเรียน แล้วก็ให้เจ้าสองคนนี้ช่วยทำการตลาด หัวธุรกิจกันตั้งแต่เด็ก” พ่อของคาร์เตอร์ชื่นชมเหล่าลูกชาย
เด็กหนุ่มทั้งสามหัวเราะเจื่อนๆ กับคำชม
พวกผู้ใหญ่ดูมีความสุขกับมื้ออาหาร ทว่าสำหรับทั้งสามนั้นมันช่างน่าเบื่อ พวกเขาตั้งหน้าตั้งตาให้ดินเนอร์ครั้งนี้จบลงเร็วๆ ผิดกับวิโอลินที่ดูมีความสุขมากที่ได้นั่งตรงหน้าคาร์เตอร์
กรุปไลน์ KTM
Martin ได้ส่งรูปภาพเข้ามาในกลุ่ม
รูปของภัทรกำลังนั่งอยู่ที่บาร์เครื่องดื่มในคลับหรูของพวกเขา ข้างๆ เขานั้นมีผู้หญิงในชุดนักศึกษานั่งอยู่ด้วย
Martin: ตลก ไอ้นี่ มันพามาจริงด้วย
Martin: เอาไง ให้ไล่กลับเลยไหม
Tyler: อือ อย่าไปยุ่งกับไอ้ชั่วนี่เลย เสียเวลา ยกหนี้ให้มันเถอะ
Tyler: กูไม่ชอบปล่อยกู้ เงินทั้งหมดกูยกให้
Carter: ไม่ได้ คนพวกนี้ต้องถูกสั่งสอน ถ้ามีคนยกหนี้ให้ง่ายๆ พวกมันจะได้ใจ ยืมก็คือยืม
“มีอะไรกันเหรอคะ ดูเคร่งเครียดเชียว” วิโอลินถามขึ้นเมื่อเห็นสามหนุ่มกดบางอย่างในโทรศัพท์
“มีธุระ” คาร์เตอร์พูดขึ้น “ผมขอตัวก่อนนะครับ ต้องไปสะสางปัญหา” ว่าแล้วคาร์เตอร์ก็ลุกออกมาจากโต๊ะ เขาโค้งน้อยๆ ให้พวกผู้ใหญ่ แล้วก็เดินจากไปทันที
เพื่อนทั้งสองอมยิ้มออกมาที่เห็นเขาทำตัวขบถ บิดาของคาร์เตอร์พยายามจับคู่เขากับวิโอลิน ทว่าคาร์เตอร์นั้นไม่มีท่าทีพิศวาสเธอเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเธอทำตัวสนิทสนมเขายิ่งเกลียด ชายหนุ่มนั้นไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าของหรือไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิต แม้กระทั่งบิดา…ซี่งบิดาก็รู้ดี
…บิดารู้ดีว่าไม่มีทางบังคับคนแบบคาร์เตอร์ได้ จึงต้องใช้แผนให้วิโอลินได้ใกล้ชิดลูกชายเผื่อเขาจะตกหลุมรักเธอ
ทว่าเพื่อนทั้งสองรู้ดีว่าเสียเวลาเปล่า
แม้วิโอลินจะสวย… แต่ชีวิตของพวกเขานั้นผ่านคนสวย คนรวย คนเซ็กซี่ มาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ สวยแค่นี้ไม่สามารถทำให้พวกเขาหยุดหัวใจได้หรอก เธอต้องแตกต่างต้องโดดเด่นมากพอจะดึงให้พวกเขาสนใจ หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่ทำให้พวกเขาอยากเผยด้านดีออกมา