Chapter 5
22.00 น.
“ลุกขึ้นมาแต่งตัว ลงไปข้างล่างได้แล้ว...” หลังจากพัตเตอร์สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เขาก็หันมามองหญิงสาวที่ยังนอนตะแคงเปลือยกายอยู่บนเตียง
“ค่ะ...” นับดาวรับคำสั่งพร้อมกับมองตามร่างสูงที่เดินออกจากห้องไปด้วยใจสั่นหวิว ความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็มีแค่เซ็กซ์ สถานะของเขาและเธอคือเจ้านายและลูกจ้าง
เมื่อสองเดือนก่อนเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือค่ารักษาอาการป่วยคุณแม่ของเธอที่พึ่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะที่สอง แต่การช่วยเหลือของเขากลับหวังผล เพราะค่ารักษาที่เขาออกให้ต้องแลกกับเงื่อนไขสามข้อที่เขาตั้งขึ้น
หนึ่ง เธอต้องมีเซ็กซ์กับเขา
สอง ห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์ให้ใครรู้
สาม หากเขาเบื่อ เธอต้องออกไปจากชีวิตของเขาทันที
ตอนนั้นเธอกังวลเงื่อนไขข้อแรกมาก แต่เพื่อให้คุณแม่ได้ย้ายตัวมารักษาที่กรุงเทพ นับดาวยอมมอบความบริสุทธิ์ให้เขาแลกกับชีวิตคุณแม่ และได้แต่ภาวนาให้เขาเบื่อเธอเร็วๆ แต่ตอนนี้มันกลับสวนทางที่ดันกลัวเงื่อนไขข้อสาม เพราะไม่อยากให้เขาเบื่อสักนิด ถึงเขาจะเป็นคนดุ ปากแซ่บไปหน่อย ใจร้ายเป็นบางที และถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นคนที่ไม่ควรรัก แต่หัวใจก็แปลกพิกลที่ดันหวั่นไหวแอบรักเขาเข้าอย่างจัง
นับดาวสลัดความคิดวุ่นวายใจที่ไม่มีทางเป็นไปได้ออกจากหัว จากนั้นเธอลุกขึ้นไปล้างตัว
ในเวลาต่อมาเมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ลงลิฟต์ไปชั้นล่าง นับดาวเดินไปทางแคบ ซึ่งเป็นทางผ่านหน้าห้องน้ำทะลุไปห้องแคชเชียร์ได้
“อ้าว...น้องนับดาว เจอตัวพอดีเลย พี่กำลังจะไปหาที่ห้องแคชเชียร์” วาวีทักทายพร้อมยิ้มหวานส่งให้หลานรหัสที่เจอกันหน้าห้องน้ำ
วาวีเรียนอยู่ปีสาม ซึ่งเป็นป้ารหัสของนับดาว โดยที่นับดาวมีพี่รหัสเป็นผู้ชาย ทำให้นับดาวเลือกที่จะปรึกษาเรื่องต่างๆ กับวาวีมากกว่าพี่รหัสของตัวเอง
“มาเที่ยวกับใครคะพี่วาวี” นับดาวเดินเข้าไปสวมกอดวาวีด้วยความออดอ้อนเหมือนที่ชอบทำประจำ พลางคิดในใจว่า ดีนะที่เจอวาวีที่นี่ตอนนี้ ถ้าก่อนหน้านั้นวาวีไปหาเธอที่ห้องทำงานแล้วไม่เจอ คงต้องหาคำพูดแก้ตัวอีกยาวว่าเธอขึ้นไปทำอะไรที่ชั้นสาม
“พี่มานั่งชิลเอาบรรยากาศกับพี่ธาวินและเพื่อนของเขาน่ะ แล้วหนูเป็นยังไงบ้าง ทำงานที่นี่เหนื่อยไหม...”
“เหนื่อยนิดนึงค่ะ...”
“นั่นไง...บอกแล้วให้ทำงานที่ห้างของป๊าพี่...” วาวีบีบปลายจมูกเชิดรั้นอย่างมันเขี้ยว
เมื่อสามเดือนก่อนนับดาวมาปรึกษาเรื่องทำงานพาร์ตไทม์เพราะเห็นที่คลับพัตเตอร์เปิดรับสมัครผู้ช่วยแคชเชียร์ แต่วาวีนั้นไม่เห็นด้วยที่นับดาวจะทำงานที่คลับเพราะมันเลิกดึกเกินไป
แต่นับดาวกลับบอกกับวาวีด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าทำได้ อีกทั้งนับดาวยังพูดว่าการทำงานที่คลับมันไม่เบียดเบียนเวลาเรียน พอวาวีเห็นถึงความตั้งใจของนับดาวก็เลยไปขอร้องพัตเตอร์เพื่อฝากงานให้นับดาว ซึ่งวันนั้นคงเป็นวันดีที่พัตเตอร์ผีออกพอดี เขาตอบรับมาง่ายๆ อีกทั้งยังบอกว่านับดาวพร้อมทำงานวันไหนก็ให้เริ่มงานได้ทันที
“ก็เทอมนี้หนูลงเรียนช่วงเช้าช่วงบ่ายอัดแน่นทุกวันเลย ถ้าทำงานที่ห้าง หนูกลัวว่าจะได้ชั่วโมงการทำงานน้อย”
ตอนนี้นับดาวเรียนอยู่ปีหนึ่งเทอมสองแล้ว บ้านเกิดอยู่ที่สระบุรี แต่ทว่าได้ทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ตอนที่รู้ว่าได้ทุน เธอจะสละทุนนี้ให้คนอื่น เพราะทางบ้านมีอาชีพทำสวนอีกทั้งไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะมาเรียนและใช้ชีวิตในเมืองศิวิไลซ์ แต่ทว่าคุณแม่ของเธอกลับไม่ยอมให้นับดาวทิ้งทุนนี้ นับดาวจึงได้ทำตามความต้องการของแม่มาเรียนต่อที่กรุงเทพ
พอมาเรียนกรุงเทพนับดาวไม่อยากรบกวนเงินทางบ้าน เทอมหนึ่งนับดาวจึงทำงานพาร์ตไทม์ที่คาเฟแห่งหนึ่งกับเพื่อนสนิทชื่อว่าน้ำมนต์ แต่พอเห็นคลับหรูชื่อดังเปิดรับสมัครผู้ช่วยแคชเชียร์หนึ่งอัตรา เงินเดือนสูงมาก อีกทั้งยังรับสมัครเป็นพนักงานพาร์ตไทม์อีกด้วย นับดาวก็เลยมาปรึกษาวาวีว่าอยากทำงานที่คลับแห่งนี้ แต่วาวีกลับอยากให้นับดาวทำงานที่ห้างมากกว่า แต่ทว่านับดาวไม่สะดวกเรื่องเวลา อีกทั้งเงินเดือนที่คลับก็ดีมากกว่าด้วย
“อย่ามาทำเป็นพูดดี เพราะที่นี่เงินดีกว่าใช่ไหมล่ะยัยเด็กน้อยของพี่” วาวีทำเป็นแกล้งงอน แต่ภายในใจไม่ได้ถือสาอะไร กลับเอ็นดูนับดาวเสมือนน้องสาวคนหนึ่ง
“งื้อ...อย่างอนเลยค่ะนางฟ้าของหนู”
“ถ้าไม่อยากให้พี่งอน หนูต้องไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนพี่...” วาวีจับมือนับดาวจะพาเดินเข้าคลับ แต่ทว่านับดาวขืนตัวเอาไว้
“หนูไปนั่งด้วยไม่ได้ค่ะ หนูยังไม่เลิกงานเลย เดี๋ยวคุณพัตเตอร์ดุเอา”
“เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้ เฮียเตอร์ไม่กล้าหือกับพี่หรอก นะๆ ไปนั่งเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ พี่เหงาอะ...” วาวีมาเที่ยวกับพี่ชายและเพื่อนสนิทของเขา แต่แทนที่จะสนุกกลับเหงากว่าเดิม เพราะพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้ที่เธอเข้าไม่ถึง
“จะดีเหรอคะ...” นับดาวแสดงสีหน้าไม่เชื่อว่าวาวีจะเคลียร์ได้จริง พลางคิดว่า คนอย่างพัตเตอร์เนี่ยนะไม่กล้าหือกับวาวี
“ไม่เชื่อพี่เหรอ...” วาวีหลุดขำเสียงดังเมื่อเห็นสีหน้าของนับดาวไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่นี้
“...” นับดาวมองวาวีตาแป๋วไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
“เอาน่า...แค่คืนเดียวเอง เฮียคงไม่ว่าอะไรหรอก...” พูดจบวาวีก็ดึงนับดาวเดินเข้าไปในคลับทันที พอมาถึงโต๊ะ นับดาวก็เจอกับผู้ชายสามคนหน้าตาหล่อเหลาดูดีทุกคนเลย
“พาใครมาครับน้องวาวี...” ซีวิคผู้เป็นเพื่อนสนิทพี่ชายวาวีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแพรวพราว ที่วาวีพาหญิงสาวตัวเล็กผิวขาวมาด้วย ถึงเธอจะสวมใส่เพียงเสื้อยืดสีดำพอดีตัว กางเกงยีนดำรัดรูป รองเท้าผ้าใบสีขาว แต่กลับดูสวยน่ารักสดใสดึงดูดสายตาของเขาจริงๆ
“น้องชื่อนับดาว เป็นหลานรหัสของหนูเองค่ะพี่ซีวิค...” วาวีแนะนำนับดาวให้เพื่อนพี่ชายได้รู้จัก
“สวัสดีค่ะพี่ธาวิน พี่สกาย พี่ซีวิค...” นับดาวยกมือไหว้คนที่อายุมากกว่าด้วยความนอบน้อม จากนั้นเธอก็หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ข้างวาวี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับซีวิค
นับดาวรู้จักธาวินและสกายมาก่อนหน้านี้แล้ว วาวีเคยพานับดาวไปที่บ้านตอนเทอมหนึ่งในช่วงกิจกรรมรับน้อง ซึ่งตอนนั้นธาวินและสกายเข้ามาที่บ้านพอดี วาวีก็เลยแนะนำให้รู้จักกับทั้งสองคน
“หวัดดีน้องนับดาว...” ธาวินยิ้มรับ ส่วนสกายก็พยักหน้าแล้วยิ้มอบอุ่นส่งให้นับดาว
“อ้าว...พวกมึงรู้จักน้องนับดาวได้ยังไง ทำไมกูถึงไม่รู้จัก กูพลาดตรงไหน...” ซีวิคหันไปถามเพื่อนของเขา เพราะเขาเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่เคยรู้จักนับดาวมาก่อน สวยน่ารักแบบนี้หลุดรอดสายตาเขาไปได้ยังไง
“ดีแล้วแหละที่มึงไม่รู้จัก เว้นน้องนับดาวไว้สักคน...” ธาวินพูดตอบกลับซีวิค เพราะรู้จักนิสัยเพื่อนคนนี้ของเขาดีว่ามันเจ้าชู้ขนาดนี้
“น้องนับดาวสวยน่ารักขนาดนี้ กูต้องรู้จักเป็นการส่วนตัวครับ ไม่ใช่ให้กูปล่อยผ่าน...” ซีวิคส่งยิ้มแพรวพราวโปรยเสน่ห์ให้นับดาว
“มารู้จักหนูดีกว่าพี่ซีวิค...” วาวีขยิบตาส่งให้ซีวิคเชิงหยอกล้อ
“มันรู้จักหนูจนเบื่อแล้ว...” สกายพูดแทรกขึ้นทั้งที่นั่งเงียบมานาน
“แล้วพี่สกายเบื่อหนูด้วยหรือเปล่า...”
“อืม...” สกายตอบรับด้วยสีหน้านิ่ง
“มึงจะแรงเพื่อ? เดี๋ยวน้องสาวกูก็ร้องไห้พอดี...” ธาวินเหมือนพูดปรามสกาย แต่เขากลับหลุดหัวเราะออกมาเหมือนสะใจ จนวาวีอยากจะยกมือทุบกลางหลังธาวินที่เหมือนเยาะเย้ยเธอ
“หนูก็เบื่อพี่สกายเหมือนกันค่ะ...” วาวีตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ เบื่อมาเบื่อกลับ ถึงภายในใจจะแอบรักก็ช่างเถอะ ปากต้องเก่งไว้ก่อน แม่สอนไว้
“น้องนับดาวดื่มเข้มไหมครับ...” ซีวิคที่กำลังผสมเหล้าให้นับดาวเอ่ยถามแทรกขึ้นกลางวง
“หนูไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ...” นับดาวส่งยิ้มบางปฏิเสธซีวิค
“งั้น...ลองดื่มแบบอ่อนๆ ดูไหม เดี๋ยวพี่ผสมให้รับรองน้องนับดาวดื่มได้แน่นอน ไม่เมาชัวร์...”
“มานั่งทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่รู้จักไปทำงาน...” เสียงเข้มดังแทรกขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินมาอยู่ข้างหลังนับดาว ทำให้นับดาวสะดุ้งตัวโหยง ขนาดคลับมืดสลัวขนาดนี้ ยังไม่รอดสายตาของเขาอีก
“เอ่อ...” ในขณะที่นับดาวกำลังคิดคำพูดแก้ตัว แต่ทว่าวาวีกลับพูดช่วยชีวิตเธอไว้ก่อน ‘ขอบคุณค่ะพี่วาวี’ นับดาวได้แต่ขอบคุณวาวีในใจ
“คืนนี้หนูขอซื้อตัวน้องนับดาวนะคะเฮียเตอร์...”
“นับดาวไม่ได้ขายตัว จะซื้อตัวเพื่อ?...”