ไหนจะน้องสาวบุญธรรมที่คอยกันท่าผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาพัวพันให้ออกไปจากชีวิตของชายหนุ่มอีก ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้หญิงเหล่านั้นถอดใจ ทำแม้กระทั่งเอาของขวัญวันเกิดของแฟนอชิระตอนที่ชายหนุ่มอยู่มัธยมศึกษาปีที่หกไปทิ้ง เพราะไม่ต้องการให้อชิระรู้ว่าแฟนสาวเอาของขวัญวันเกิดมาให้ แต่ความลับก็ไม่มีในโลกอยู่ดี
"ขนมเอาของขวัญที่น้ำฝากมาไปไหน" เสียงห้วนเอ่ยถามน้องสาวที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่ในห้องรับแขกดังลั่น.
"ของขวัญอะไรคะ ขนมไม่เห็นรู้เรื่อง"
"อย่ามาโกหกนะขนม น้ำเขาโทรมาบอกพี่ ว่าเขาฝากของขวัญมากับขนม เอาไปไว้ไหน เอามา" คนถูกจับได้ยังคงตีหน้าไขสือไม่รู้ไม่ชี้
"ไม่รู้ ไม่ได้ฝาก แฟนพี่อชิมั่วแล้ว"
"ต้องให้พี่เอาหลักฐานมาให้ดูใช่ไหม นี่ไงหลักฐาน ดูนี่" โทรศัพท์มือถือถูกวางลงบนตรงหน้า พร้อมกับเปิดภาพถ่ายตอนที่ขนมหวานกำลังเผาของขวัญที่แฟนสาวฝากมาให้อยู่ในสวนหลังบ้าน
ขนมหวานรีบเงยหน้าตีหน้าเศร้าเพื่อเรียกคะแนนสงสาร
"พี่อชิ ขนมขอโทษ"
"อีกแล้ว ทำผิดทีไรขอดทาทุกที รู้ตัวบ้างไหมว่าเริ่มทำตัวไม่น่ารักมากขึ้นทุกวัน พี่ไม่อยากมีน้องสาวแบบเราเลย น่ารำคาญ" สิ้นเสียงพูดขนมหวานก็ถึงกลับร้องไห้โฮออกมา น้ำตาเม็ดโตกลิ้งลงบนแก้มใสทั้งสองข้าง
"เกิดอะไรขึ้นลูก ขนมน้องไห้ทำไมคะ" นางอารียารีบเข้ามาหาบุตรสาวพร้อมทั้งโอบกอดเอาไว้และลูบหลังเบาๆ พลางมองดูบุตรชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลและก็ได้แต่ส่ายหน้า
"ฝีมือเราอีกแล้วเหรออชิ"
"ก็ลูกสาวคุณแม่ทำตัวไม่น่ารักเอง ก็สมควรแล้วล่ะที่ต้องนั่งร้องไห้แบบนี้ เชิญโอ๋กันให้ตามสบายเลย ผมเบื่อความสำออยของลูกสาวแม่เต็มทน" พูดจบก็เดินออกจากห้องรับแจกไปด้วยความโมโห เมื่อทุกคนในบ้านดูเหมือนจะเข้าข้างและเอาอกเอาใจขนมหวานเกินเหตุ จนไม่สนใจความรู้สึกเขาหรือใส่ใจเขาเหมือนแตาก่อน
"อชิ อชิลูก อย่าเดินหนีแม่แบบนี้นะ อชิ"
"พอเถอะค่ะคุณแม่ หนูทำผิดอย่างที่พี่อชิพูดนั่นแหละค่ะ อย่าด่าพี่เขาเลยนะคะ"
และหลังจากวันนั้นมาความสัมพันธ์ของอชิระและขนมหวานก็ดูจะแย่ลงไปเรื่อยๆ จากพี่น้องที่รักกันก่อนหน้า ดูเหมือนอชิระจะเริ่มเบื่อและไม่อยากเห็นหน้าขนมหวานเสียแล้ว เพราะเจอกันครั้งใดดูเหมือนขนมหวานจะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้ทุกครั้ง และทุกคนก็พร้อมใจกันโอ๋ขนมหวานโดยไม่ถามหาเหตุเขาสักครั้งเช่นกัน
พานให้ความน้อยใจกัดกินหัวใจและทำให้เกิดช่องว่างระหว่างครอบครัว ไม่ได้สนิทสนมกับบิดามารดาดั่งเช่นเคย จนต้องย้ายตัวเองออกมาอยู่คอนโด
แต่ถึงอย่างนั้นขนมกวานก็ยังคอยตามหลอกหลอนไม่ได้ขาดหายไป พาเรื่องปวดหัวมาให้เสมอๆ และชายหนุ่มก็ถูกบิดามารดาต่อว่าเสมอเช่นกัน ที่เอาแต่ขับไล่น้อง ไม่สนใจน้อง ไม่ดูแลน้อง จนเกิดปากเสียงกันบ่อยครัง
จนวันที่อชิระเรียนปีสี่ส่วนขนมหวานก็เริ่มเข้าเรียนปีที่มหาวิยาลัยเดียวกัน ด้วยความที่อชิระเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มและเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี จึงมีสาวสวยเข้ามาพัวพันเป็นจำนวนมาก แม้ชายหนุ่มจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ตาม ก็ยังมีสาวสวยแวะเวียนมาขายขนมจีบกันไม่ขาดสาย
และด้วยความที่ขนมหวานหวงพี่ชายมากจนเกินไป ทำให้หญิงสาวนำเรื่องที่มีผู้หญิงเข้าหาอชิระไปฟ้องแฟนของพี่ชาย จนพี่ชายและแฟนสาวเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันใหญ่โต
"ฝีมือเราใช่ไหมขนม เราใช่ไหมที่เป็นคนไปปั่นหัวเดือนเขา ว่าพี่มีกิ๊ก" อชิระตวาดใส่น้องสาวที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในห้องครัวกับบิดามารดา ด้วยความโมโหหลังจากที่ทะเลาะกันกับแฟนมาสดๆ ร้อน จึงไม่ได้สนใจว่ามีบิดามารดานั่งอยู่ด้วย
"อะไรกันเนี่ยอชิ ทำไมถึงเสียงดังใส่น้องแบบนี้ด้วยลูก" นางอารียาเอ่ยปรามบุตรชายขึ้น
"ก็ลูกสาวคุณแม่กับคุณพ่อไงครับ ไปสร้างเรื่องไว้ หาแต่เรื่องมาให้ผม ไปปั่นประสาทแฟนผมมว่าผมพาผู้หญิงขึ้นคอนโดไม่ซ้ำหน้า ว่ามีผมมีคนอื่น จนเดือนเขาระแวงและเข้าใจผิดไปใหญ่ ทำให้ผมกับเดือนทะเลาะกันจนเดือนขอเลิกกับผม"
"ก็แฟนแกมันไม่หนักแน่นเอง ถูกปั่นแค่นี้ก็ไขว้เขวซะแล้ว เลิกกันไปตอนนี้ก็ดีแล้ว ดีกว่าคบกันไปนานๆ ปัญหาจะตามมาทีหลัง" อชิระฟังที่บิดาเอ่ยออกมาก็ยิ่งอารมณ์เสียและโมโห คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่ายังไงก็ไม่มีใครเข้าข้างเขา พากันเข้าข้างแต่ขนมหวานกันหมด
"พ่อกับแม่ก็เป็นแบบนี้ เข้าข้างแต่ขนมจนเสียคนหมดแล้ว เอาแต่ใจก็ที่หนึ่ง พูดอะไรก็ไม่เคยฟัง เลี้ยงจนเสียคน ไม่เคยสนใจผมด้วยซ้ำ เอาแต่สนใจขนมที่เป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่ละ..."
"อชิ! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ รู้ไหมว่าตัวเองกำลังจะพูดอะไรออกมา ออกไปเลยนะ จะไปไหนก็ไปเลย" นางอารียาขึ้นเสียงใส่บุตรชายอย่างลืมตัว เมื่อบุตรชายกำลังจะหลุดสิ่งที่ถูกเก็บเป็นความลับออกมา ความลับที่ว่าขนมหวานไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตน
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของความแตกหักที่เกิดขึ้น