3. ไม่ได้ช่วยฟรี

1350 คำ
ก็อก ก็อก~ "....." บัวชมพูรีบรั้งผ้านวมขึ้นคลุมร่างกาย ในตอนที่เสียงสัญญาณเคาะประตูเรียกดังขึ้น แม้ว่าตัวจะสวมใส่เดรสตัวเดิมปกปิดแล้ว "มีอะไร?" น้ำเสียงสุขุมเอ่ยถามป้าแม่บ้านวัยหกสิบปี ทันทีที่เปิดประตูออกมาเจอ "มีคนมาขอพบคุณสิงห์ค่ะ แจ้งไว้ว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่ของคุณบัวชมพู และก็มีคู่หมั้นของคุณบัวชมพูมาด้วยนะคะ" "คุณพ่อ..." เสียงหวานเอ่ยยากลำบาก เมื่อรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันกดดันตัวเธอไปทุกอย่าง เลยรีบเดินไปยังโต๊ะทำงานของสิงห์อยู่อีกมุมของห้อง ไปคว้าเอกสารสำคัญที่เธอจำเป็นต้องใช้ แม้จะปวดหน่วงในท้องน้อยแทบลุกขึ้นไม่ไหว "ให้นั่งรอไปก่อนเดี๋ยวฉันตามไป" "ได้ค่ะ" "ออกไปซะสิ เธอเองก็ต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?" เสี้ยวหน้าหล่อเหลาหันมาตั้งถามใส่ "ใช่ค่ะ แต่มันก็เร็วกว่าคิด" "จะเปลี่ยนใจก็ได้นะ ฉันสนุกจนพอใจแล้วเหมือนกัน" คิ้วหนาเลิกขึ้นข้างนึง "มะไม่ค่ะ! งั้นบัวจะออกไปตอนนี้เลย" เธอไม่ลืมจะหันไปทางโต๊ะเครื่องแต่งกายเจ้าของห้อง มีสิ่งของเครื่องใช้ราคาแพงสูงลิ่วทั้งนั้น "อย่าให้ฉันต้องรำคาญกับเรื่องของที่บ้านเธอล่ะ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างต้องจบ" สายตาคู่คมมองเย้ยหยันในสภาพร่างอรชรสะบักสะบอม และถ้าให้เขาเดาเพนตี้ตัวน้อยบนเรือนร่างก็ไม่ได้ใส่ "บัวรักษาคำพูดดีค่ะไม่ต้องห่วง" "แต่ก่อนออกไปก็ช่วยใส่เสื้อคลุมหน่อยล่ะกัน เดี๋ยวคู่หมั้นเธอเห็นสภาพนี้จะคิดว่าฉันลากเธอไปทำอย่างอื่นที่...ไม่ใช่แค่บนเตียง" เขาไม่ได้สนใจในความรู้สึกหรือเรือนร่างของบัวชมพูสักนิด แต่สภาพน่าสมเพชมันก็อดให้ใครมาดูแคลนเขาไม่ได้ ถึงคว้าหยิบเอาเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัวนึงโยนใส่ให้ร่างอรชรรับ "ขอบคุณนะคะที่ยังปราณีบัว แม้มันจะน้อยก็เถอะ" สองเท้าเล็กเดินหนีออกจากห้องรวดเร็ว ในตอนที่ได้ใส่เสื้อคลุมตัวนั้นทับเรือนร่างแล้ว ไม่ลืมว่าในมือจะมีใบทะเบียนสมรสไว้ยืนยันกับบุพการี ตุ๊บ! "นังลูกไม่รักดี! แกต้องกลับบ้านไปพร้อมกับพ่อเดี๋ยวนี้!" เกรียงเดชรีบโยนหนังสือพิมพ์ไปบนโต๊ะกลม เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวเพิ่งเดินออกมาจากห้องของสิงห์ ผู้ชายที่ท่านเคยดูแคลนเขามากๆ ในช่วงหลายปีก่อน "บัวกลับไม่ได้หรอกค่ะ บัวกับคุณสิงห์เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว" เธอโชว์ให้ผู้ใหญ่และว่าที่คู่หมั้นดูแผ่นกระดาษสำคัญ มีลายเซ็นต์ของเธอและสิงห์อย่างรียบร้อยสมบูรณ์ทุกประการ "เป็นได้ก็หย่าได้ พี่รู้ที่บัวทำอย่างนี้เพราะอยากจะหนีพี่ใช่ไหม" ศักดิ์ดาไม่พอใจรีบลุกพรวดมาซักถามต่อ เขาเข้าใจว่าบัวชมพูคงไม่อยากหมั้นด้วยสักเท่าไหร่ เพราะโดนบุพการีบังคับเพื่อผลประโยชน์แก่ครอบครัวของเธอ "บัวไม่ได้หนีค่ะ แต่บัวอยากมาอยู่กับสามีที่นี่" "ไม่ได้หนีอะไรล่ะบัว บ้านป่าเมืองเถื่อนไหนจะอยู่ไกลตัวเมืองอีก เราจะลำบากเอานะบัว" ฝ่ายคนบอกไม่รอช้า รีบพุ่งมาคว้าข้อมือเล็กขอร้อง เขาแอบรักเธอมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ หวังมาตลอดว่าสักวันนึงจะได้เธอเป็นเจ้าสาว จู่จู่บัวชมพูก็หนีมายังบ้านท้ายไร่ห่างไกลความเจริญ "เรื่องแค่นี้เองบัวทนได้ พี่ศักดิ์ดากลับไปเถอะนะคะ ยังไงบัวก็กลับไปด้วยไม่ได้อยู่แล้ว" เธอแงะนิ้วมือของอีกฝ่ายออก "ทำไมจะกลับไปด้วยไม่ได้! เราเป็นลูกพ่อนะบัวชมพู! จะเอาชื่อเสียงที่สร้างสะสมมาเป็นปีๆ โดยทิ้งให้ผู้ชายกระจอกอย่างนั้นเหรอ!" "บัวลูก...บัวทั้งสวยทั้งเก่ง การศึกษาก็เมืองนอกเชียวนะลูก เทียบเสมอกับพี่ศักดิ์ดาก็ดูเหมาะสมกันมากเลยลูก" ปารณีรีบลุกมาสวมกอดลูกสาว "พี่จะไม่โกรธไม่เก็บเอาเรื่องวันนี้ไปคิดจริงๆ นะบัว ขอแค่เรากลับไปพร้อมกับพี่ก็พอ" ปั้ง! เสียงบานประตูห้องถูกปลายเท้าแกร่งยกขึ้นถีบ ทำให้ทุกสายตาหันไปสนใจตามต้นกำเนิดเสียง "คนนี้เหรอคู่หมั้นของเธอน่ะ?" สิงห์เดินมานั่งลงบนโซฟายกขาแกร่งขึ้นไขว้ห้าง "คุณพ่อคุณแม่จำพี่สิงห์ได้ไหมคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม กลบเกลื่อนท่าทางที่สิงห์จงใจแสดงออก ท่ามกลางสายตาบุพการีมองอย่างดูแคลน "พ่อไม่เคยจำผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว แต่ก็นะมาร่ำรวยเร็วผิดปกติคงมาจากเรื่องไม่ดีสินะ อยู่ๆ ไหนเผลอขึ้นมาอาจจะโดนตำรวจตามมาจับก็ได้" เกรียงเดชพูด ทรุดนั่งลงยกแก้วน้ำชาร้อนขึ้นจิบ "ก็คงประมาณนั้น" เสียงเข้มตอบราบเรียบ ยังนั่งไขว้ห้างไม่ได้เคารพผู้ใหญ่คนไหนสักคน "งั้นก็บอกมาเลยต้องทำยังไงถึงจะปล่อยลูกสาวฉัน จะเรียกเงินเท่าไหร่ดีล่ะ ให้มันคุ้มค่ากับที่พวกฉันมาถึงบ้านของคนอย่างนายหน่อย!" "เงินของพวกคุณคงมีค่ามากสินะ ว่าแต่มันจะมากพอให้แลกตัวลูกสาวกลับไหมล่ะ" สิงห์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เอียงเสี้ยวหน้าคมไปทางบัวชมพู เธอยืนกังวลอย่างหนักแล้วยังกอดใบทะเบียนสมรสเหมือนว่ามันจะช่วยได้ "อยากได้เท่าไหร่ก็บอกมาเลย ผมจะหามาให้คุณเอง" ศักดิ์ดาพูด "ว้าว...อยากได้ไปทำเมียมากล่ะสิ" "มันเป็นคนป่าเถื่อนหยาบคายขนาดนี้ ลูกจะยังไปเลือกมันอยู่ได้ยังไงยัยบัว!!!" ปารณีต่อว่าลูกสาวเสียงดัง ไม่อยากจะคิดเลยถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปทางสังคม พวกท่านต้องเสียหน้าเสื่อมเสียชื่อเสียงมากๆ "นั่นน่ะสิเลือกไปได้ไง" สายตาคมเพ่งมองไปที่ร่างอรชร ทำให้เธอรีบเดินตรงมาหาเขา แต่ทว่าท่อนแขนแกร่งตวัดโอบให้บัวชมพูทิ้งกายบนตักใหญ่ "คุณสิงห์!" หน้าสวยรีบหันมองใบหน้าคนใจร้าย "บัวกลับไปกับพี่เถอะ รับรองเลยนะว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ พี่ขอร้องล่ะอย่ามาอยู่ที่กันดารแบบเลยนะ" ศักดิ์ดาบอก จะก้าวมาดึงแขนเล็กของว่าที่คู่หมั้น แต่เธอเลือกจะเบี่ยงตัวซุกใส่ลำตัวกำยำ "เห็นกันชัดแล้วเนอะ ต่อให้ฉันเรียกเป็นสิบล้านยังไงบัวชมพูก็ไม่กลับไป เพราะฉะนั้นไสหัวออกจากที่นี่ได้แล้ว!!!" สิงห์เก็บความเดือดดาลผ่านโครงหน้าคมปูดโปน จนมือหนาข้างนึงดำเอวบางไว้แน่น ทำคนรองรับอารมณ์เจ็บปวด "ได้!!! แล้วเราจะได้เห็นดีกันนังลูกไม่รักดี ฉันจะตัดสมบัติทุกชิ้นในส่วนของแกออกทั้งหมดคอยดู!" เกรียงเดชประกาศกร้าวด้วยความโมโห มีปารณีประคองแขนมองหน้าลูกสาวแสนจะโกรธมากๆ "คุณพ่อ..." ใจนึงเธอก็รู้สึกผิดและเสียใจ "เราเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะบัวเชื่อพี่ พี่จะ..." หมับ! "อื้ออ..." ฝ่ามือหนารั้งท้ายทอยเล็กมาแนบจูบปิดปากทันที ไม่ได้สนใจจะฟังเสียงน่ารำคาญของผู้ชายที่พยามอ้อนขอร้องความรัก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีจริง "คุณสิงห์! ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ" เสียงหวานต่อว่าทันที ในช่วงที่ทุกคนเดินพ้นประตูบ้านออกไปแล้ว เธอรีบผลักคนตัวสูงออก แล้วยกหลังมือบางปาดคราบน้ำลาย "ฉันไม่ได้คิดจะช่วยเธอฟรีๆ หรอกนะ นอกจากจะหาคนใช้งานในไร่เหมือนที่พ่อเธอบอก!" .........
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม