-7-
หาเรื่อง
@ผับพีเค
ปั้นหยาเดินเข้าผับมาพร้อมกับพยัคฆ์ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของสาว ๆ นักท่องราตรีที่ผับแห่งนี้ เพราะเขาเป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลายคน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปทำความรู้จักด้วย เพราะติรษามักจะออกตัวแรงจนพวกเธอคิดว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน แต่จู่ ๆ วันนี้พยัคฆ์กลับเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กสาวหน้าตาแปลกใหม่จึงทำให้เป็นที่สนใจมากกว่าเดิม
"เฮียเสือน่าจะฮอตน่าดูเลยนะคะ สาว ๆ มองกันเพียบเลย" ปั้นหยาพูดขณะพยายามหลบสายตาของสาว ๆ ที่มองมาที่เธออย่างพินิจพิจารณาจนเธอรู้สึกอึดอัด
"ไม่รู้สิเฮียไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่" พยัคฆ์ตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจนัก
มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูห้องทำงานของขุนพลเข้าไปโดยไม่ได้เคาะให้สัญญาณ หรือขออนุญาตเจ้าของเลย
"มึงลืมมารยาทไว้ที่บ้านเหรอ" ขุนพลเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าขึ้นมาต่อว่าพยัคฆ์ที่ถือวิสาสะเข้ามาอย่างขอไปที
"ไม่ได้ลืม แต่เก็บเอาไว้เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้กับมึง" พยัคฆ์เองก็ตอบด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาหนังราคาแพงราวกับเป็นห้องทำงานของตัวเองก็ไม่ปาน
"เฮียขุนพลสวัสดีค่ะ"
"สวัสดีครับ ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะ" ขุนพลพยักหน้าเป็นการรับไหว้ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"กูชวนน้องมันมาเอง เห็นไอ้ติณจะพาปอไหมมาเลยชวนปั้นหยามาเป็นเพื่อนปอไหม"
ขุนพลหรี่ตามองพยัคฆ์ด้วยสายตาจับผิด แต่พยัคฆ์ก็ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจกับท่าทางจับผิดของขุนพลที่มองมาเลย
ปั้นหยาที่ยืนมองดูเหตุการณ์ด้วยความงุนงงก็เดินเลี่ยงไปหย่อนสะโพกมนนั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวคนเดียว
"เฮียจะบอกอะไรให้นะว่าเสือยังไงมันก็คือเสือ อย่าไปไว้ใจเสือในคราบแมวละ มันก็แค่ฉากบังหน้าที่เอาไว้ใช้ล่อเหยื่อเท่านั้นแหละ" ขุนพลพูดขึ้นในจังหวะที่ปั้นหยานั่งลงพอดี ทำให้เธอเผลอมองไปที่พยัคฆ์โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะก้มหน้าหยิบโทรศัพท์มือถือมาเล่นฆ่าเวลารอคนอื่น ๆ ตามมาสมทบ
"เหมือนมึงพูดถึงตัวเองนะ" พยัคฆ์กระแนะกระแหนขุนพลอย่างขอไปที ก่อนจะเทเครื่องดื่มราคาแพงที่ถูกเตรียมไว้ขึ้นมาจิบ "ไม่สั่งเครื่องดื่มอะไรเหรอเรา เดี๋ยวพวกนั้นก็มาถึงแล้ว" พยัคฆ์หันกลับไปถามปั้นหยาที่นั่งเยื้องอยู่ตรงโซฟาเดี่ยวข้าง ๆ
"อืม งั้นเดี๋ยวหนูลงไปสั่งเครื่องดื่มข้างล่างเองดีกว่าค่ะ"
"เดี๋ยวเฮียเรียกเด็กขึ้นมารับออเดอร์ให้ก็ได้" ขุนพลบอก
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็เดินเล่นด้วย"
"ตามใจเราแล้วกัน บอกพนักงานเก็บเงินที่ไอ้พยัคฆ์นะ" ขุนพลบอกติดตลก ทำให้ปั้นหยาหลุดขำออกมา
"งั้นคงต้องสั่งเครื่องดื่มที่แพงที่สุดในร้านแล้วละค่ะ"
"อย่าเอาจนเฮียล่มจมแล้วกัน" พยัคฆ์ตอบกลับด้วยความเอ็นดู
ปั้นหยายิ้มให้ทั้งสองคน ก่อนจะลุกเดินออกไป ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคุยกันตามลำพัง
"เอาบลูฮาวายแก้วหนึ่งค่ะ" ปั้นหยาเดินมานั่งลงตรงเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์
"นี่ครับ"
แก้วค็อกเทลสีฟ้าถูกวางไว้ตรงหน้า มือเรียวยกแก้วขึ้นมาจิบเพียงนิดก่อนจะวางมันเอาไว้ที่เดิม ปั้นหยาส่งข้อความไปหาปอไหมเพื่อถามว่าถึงไหนแล้ว ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่าใกล้จะถึงแล้ว เพราะก่อนเธอจะมากับพยัคฆ์ได้โทรไปคุยกับปอไหมไว้แล้วว่าจะมาที่นี่ด้วย
"เป็นอะไรกับเฮียหมอเหรอ"
"คะ? " ประโยคจากผู้หญิงหุ่นอวบอิ่มที่เดินมานั่งลงตรงที่ว่างข้าง ๆ เธอ พร้อมกับเพื่อนอีกสองคน ทำให้ปั้นหยาต้องละความสนใจจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือหันไปคุยกับพวกเธอ
"เฮียหมอ ผู้ชายที่เธอมาด้วยวันนี้ไง" หญิงสาวทวนคำถามอีกครั้ง
"ไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ" ปั้นหยาตอบแบบขอไปที เพราะผู้หญิงพวกนี้คงแค่อยากรู้อยากเห็นซึ่งเธอไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องมานั่งตอบคำถามไร้สาระกับพวกเธอ
"ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วจะมากับเฮียหมอได้ไง"
"ฉันขอตัวนะคะ" ปั้นหยาเลือกที่จะลุกเดินหนี แต่ก็ถูกเพื่อนของผู้หญิงคนนี้อีกสองคนมาดักเอาไว้ ทำให้เธอต้องจำใจนั่งลงหันกลับไปมองหน้าผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ด้วยความไม่พอใจ
"ก็แค่ตอบมาเป็นอะไรกับเฮียหมอมันยากนักรึไง"
"ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน และฉันก็ไม่ว่างมานั่งตอบอะไรไร้สาระแบบนี้ด้วย"
"แกว่าฉันเหรอ! " หญิงสาวขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ
"ตรงไหนที่ว่าฉันว่าเธอ แอร์ก็ออกจะเย็นทำไมถึงร้อนตัวไปได้" ปั้นหยาตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว
"อยากโดนตบมากใช่ไหมฮะ! " หญิงสาวลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด
"ถ้าคิดว่าจะไม่โดนตบกลับก็ลองดูสิ หรือจะให้ฉันเป็นคนเปิด ฉันไม่ถือนะ" ปั้นหยาลุกขึ้นยืนประจันหน้าอย่างท้าทาย
"แก! " หญิงสาวยกมือขึ้นหมายจะฟาดลงบนเรือนแก้มใส ๆ ของปั้นหยา ทว่ากลับไม่ถูกฟาดลงมาเพราะถูกมือหนารองรับเอาไว้เสียก่อน
"เฮียหมอ! " หญิงสาวคนนั้นร้องอุทานขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนสีหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวด เมื่อพยัคฆ์ออกแรงบีบจนข้อมือเรียวเล็กของเธอแดงช้ำ
"ฉันจำได้ว่าฉันเป็นลูกคนเดียวนะ" พยัคฆ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นจนเพื่อนของเธออีกสองคนรีบหนีไปยืนหลบอยู่ข้างหลังเธอ
"แคทแค่จะทักทายน้องเขาเฉย ๆ ค่ะ"
"เมื่อกี้เธอจะตบฉันไม่ใช่เหรอ" ปั้นหยาที่ยืนอยู่ข้างพยัคฆ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนือกว่า
"ไม่จริงนะคะ แคท..."
"ทำตัวน่ารำคาญเป็นเห็บหมัดแบบนี้ไง ฉันถึงไม่ชอบให้ผู้หญิงแบบพวกเธอเข้าใกล้" พยัคฆ์พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
คำพูดที่ออกมาจากปากของพยัคฆ์ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนแถว ๆ นั้น นิ่งอึ้งไป แม้แต่ปั้นหยาเองก็ยังตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของพยัคฆ์ไม่ต่างกัน
พยัคฆ์ปล่อยข้อมือเรียวของแคทออกอย่างแรงจนเซไปข้างหลัง ก่อนจะหันมาคว้าข้อมือเรียวของปั้นหยาที่ยังคงยืนนิ่งอยู่เดินออกไปแทน โดยไม่ได้สนใจกับปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้างที่มองดูสถานการณ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลย