ตอนที่1 ถูกบังคับ
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงโทรศัพท์ดังในเวลาที่ลินดาเพิ่งได้นอนไปเพียงสองชั่วโมง เธอขยับตัวอย่างเมื่อยขบ เอื้อมมือไปหยิบวัตถุที่นอกจากดังแล้ว ยังสั่นราวกับผีเข้า
น่าเบื่อ!!!
"ค่ะแม่"
(พรุ่งนี้อย่าลืมนัดนะลิน อย่าให้ฉันต้องเสียหน้าอีก ครั้งที่แล้วแกทำแม่เสียผู้ใหญ่)
"ลินบอกแม่แล้ว ว่าไม่อยากไป ทำไมแม่ยังนัดอีกคะ ลินหาเองได้ค่ะ แค่แฟนเอง"
(หาเหรอ ถ้าหาได้จะรอมาจนป่านนี้เหรอ แม่แนะนำคนดี ๆ ให้ จะได้ไม่ต้องเจอกับผู้ชายนิสัยไม่ดีเหมือน พะ...)
"เหมือนพ่อ...แม่ยังไม่เลิกด่าพ่ออีกเหรอคะ แม่ฝังใจชีวิตของแม่ แต่อย่าเอาลินเข้าไปเกี่ยวได้ไหมคะ แค่นี้นะคะลินจะนอน"
(ยัยลิน!!! แกห้ามวางนะ ถ้าพรุ่งนี้แกไม่ไปตามนัด อย่ามาเรียกฉันว่าแม่อีก)
มือเรียวปาโทรศัพท์อย่างแรงบนที่นอน เมื่อไหร่เรื่องบ้า ๆ พวกนี้จะหมดไปจากชีวิตเธอสักที ผู้ชายดี ๆ ไม่ได้หายากแบบแม่ว่าเสียหน่อย แค่เธอยังหาไม่เจอแค่นั้นเอง
ดูอย่างเพื่อนสองคนเธอสิ ยังเปลี่ยนผู้ชายไม่ดีให้เป็นคนดีได้เลย แถมยังคลั่งรักกันสุด ๆ คิดแล้วก็อิจฉาเพื่อนเหมือนกัน แต่เป็นเธอเองที่ไม่ยอมเปิดใจให้ผู้ชายคนไหน จะโทษใครก็ไม่ได้
เห้อออ...สุดท้ายก็ไม่ได้นอน
ร่างบางผุดลุกขึ้นจากที่นอน เวลาอื่นมีตั้งเยอะไม่โทรมา ต้องโทรมาเวลาเธอนอนทุกที เธอกับแม่นี่เหมือนดวงจะไม่ถูกกัน ตั้งแต่พ่อมีเมียใหม่ไป ตอนนั้นเธอยังเรียนอยู่มัธยม จำเรื่องราวได้ทุกอย่าง ในความรู้สึกเธอพ่อไม่ผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะถูกที่มีเมียน้อย แต่แม่เธอเป็นคนที่ด่าพ่อได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ดูเหมือนพ่อจะผิดไปหมด บางครั้งความอดทนของเราก็มีขีดจำกัด พ่อเลยเลือกเดินออกจากชีวิตเธอและแม่ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
ลินดาไม่เคยเห็นน้ำตาแม่สักหยด มีแต่ยังด่าพ่ออยู่ทุกวันจนถึงตอนนี้ และเธอคือแพะรับบาปที่ต้องถูกแม่หาผู้ชายให้เพราะไม่อยากให้ได้ผู้ชายอย่างพ่อ นัดดูตัวพรุ่งนี้คือครั้งที่สามของเดือนนี้ แต่จะเรียกว่านัดดูตัวคงไม่ได้ เพราะเป็นคนที่แม่รู้จักทั้งนั้น แต่ในสามครั้งเธอไปแค่สองครั้ง ครั้งล่าสุดเธอไม่ไป จนทำให้แม่โมโหและนัดให้ใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้
มือบางหยิบโทรศัพท์ที่โยนทิ้งไว้ขึ้นมากดโทรออกหาปิ่นมุกเพื่อนสนิท รอไม่นานปลายสายก็รับด้วยความงัวเงีย
(ฮัลโหล)
เสียงปลายสายอู้อี้ฟังแทบไม่รู้เรื่อง
"อีปิ่น ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนกูหน่อย"
(เหี้ย!!! สมควรที่มึงจะโทรมาเวลานี้เหรอว่ะ)
"กูเบื่อ อีกครึ่งชั่วโมงกูไปรับ"
(กูต้องบอกพี่เพลิงก่อน เดี๋ยวโมโหอีก)
"เออ เรื่องของมึง แค่นี้แหละ"
ลินดาไม่พูดต่ออีก กดวางสายไปทันที ก่อนพาร่างอันอ่อนเพลีย เดินเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายจนหมด ยืนมองร่างกายตัวเองอย่างหลงไหล
ทุกส่วนบนร่างกายของเธอ ยังไม่เคยมีใครเคยได้เห็นหรือสัมผัส เธอรักษาความบริสุทธิ์ตัวเองมาได้จนเรียนปีสามแล้ว หากคนภายนอกมอง คงเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงแรง ๆ ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ ไม่น่าจะเหลือรอดอยู่ได้จนถึงตอนนี้ แต่นั่นเป็นเพียงลุคภายนอกเท่านั้น ที่จริงแล้วแม้กระทั่งช่วยตัวเองเธอยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ
ห้างสรรพสินค้า
"มึงเครียดเรื่องไรว่ะ เรื่องแม่มึงเหรอ?"หลังจากเดินช็อปปิ้งจนพอใจ ต้องใช้คำว่าสาแก่ใจมากกว่า ลินดากับปิ่นมุกก็มานั่งร้านคาเฟ่ในห้าง เพื่อหาเครื่องดื่ม นั่งเล่นชิว ๆ ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยเพื่อนสาวบอกว่าเพลิงแฟนหนุ่มจะมารับ
"อืม...พรุ่งนี้กูต้องไปนัดดูตัวอีก กูเบื่อว่ะ แต่ละคนที่แม่นัดมึงก็รู้กูไม่ชอบ"
"กูไม่เข้าใจ ถ้ามึงไม่ชอบที่แม่มึงนัดให้ ทำไมไม่หาใครสักคนเป็นแฟนได้แล้วว่ะ"
"โผล่มาจีบกูแต่ละคนมึงก็เห็น เอาทำพันธุ์ได้ที่ไหน ไม่เจ้าชู้ ก็สำส่อน ถ้าดีหน่อยก็จืดชืดไร้รสนิยม กูอยากหาคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา"
"ตื่นเต้นของมึงนี่แบบไหนว่ะ เรื่องบนเตียงเหรอ"เห็นเพื่อนพูดแบบนี้มานานแล้ว ว่าอยากหาคนที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ท้าทาย แต่ปิ่นมุกก็ไม่เคยถามว่าที่ลินดาพูดคือหมายถึงอะไร
"อืม...กูอยากได้แบบนั้นแหละ"
"เชี่ยยย!!! แล้วมึงจะรู้ได้ไง เรื่องแบบนั้นต้องลึกซึ้งกันก่อนป่ะว่ะ ไม่ใช่จะแสดงออกให้เห็นภายนอกซะหน่อย"
"กูมีวิธีดูก็แล้วกัน มึงเคยได้ยินไหม ถ้าเราอยู่ใกล้ใครแล้วรู้สึกหลงไหลเขาไม่รู้ตัว จนอยากจะลึกซึ้งกับเขา ความรู้สึกมันจะบอกเราเองว่าต้องเป็นคนนี้แหละ"ปิ่นมุกขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะส่ายหัวให้เพื่อนอย่างไม่เข้าใจที่เพื่อนพูดเท่าไหร่
"ถึงว่านะ มึงถึงยังบริสุทธิ์อยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่เจอความตื่นเต้นของมึงนี่เอง"
"แต่มึงเจอแล้วนะปิ่น ผัวมึงไง กูเห็นหลงเขาอย่างกับอะไรดี นั่นแหละความตื่นเต้นของมึง"อันนี้ปิ่นมุกไม่เถียงเพราะเธอหลงแฟนหนักมากจริง ๆ
"คืนนี้กูจะไปผับ มึงไปด้วยไหม กูจะเมาจนลุกไม่ไหวแล้วยกเลิกนัดแม่ไปเลย"ลินดาหมายมาด ในเมื่อไม่กล้าปฏิเสธแม่ เธอก็จะกินเหล้าให้เมาจนลุกไม่ไหว หากแม่จะมาตามก็ต้องมาเห็นสภาพเธอที่นอนเมาลุกขึ้นไม่ได้
"กูไปไม่ได้ ถ้าจะไปพี่เพลิงคงไปด้วย ขอบายได้ไหมว่ะ"
"เห้อออ...ตั้งแต่พวกมึงมีผัว กูต้องไปนั่งกินเหล้าคนเดียวตลอด ดูอีขวัญดิ ติดพี่คิณยิ่งกว่าอะไร อย่าว่าแต่ไปผับเลย มาเดินห้างยังมาไม่ได้เลย อีกหน่อยคงทิ้งให้กูมาเดินห้างคนเดียวด้วยกูว่า"
"ก็บอกให้หาผัวสักคน มึงไม่เชื่อ มันไม่เหงานะเว้ย!!! เวลากลับบ้านไปได้คลอเคลียใครสักคน มีความสุขจะตาย"
excited ผับ
"เฮียครับ คุณนายมาหา รออยู่ห้องรับแขกครับ"พายุเงยหน้าจากกองแฟ้มเอกสาร มองหน้าราชันย์ลูกน้องคนสนิท อย่างไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน
"แม่กูมาเหรอ?"
"ครับ บอกให้เฮียไปหาด่วน"
เจ้าของความสูง 187ซม. ลุกขึ้นจากเก้าอี้ในห้องทำงาน ไปยังห้องรับแขกที่อยู่อีกห้องหนึ่ง ที่มีผู้บังเกิดเกล้าของเขานั่งรออยู่ ด้วยใบหน้าเรียบเฉยที่คนเป็นลูกน้องเดาไม่ออก
"กลับบ้านบ้างสิ"ทันทีที่เห็นหน้าลูกชายคุณนายจันจิราที่ยังคงความสวยและใบหน้าอ่อนกว่าวัยมาก ก็ทักขึ้นทันที
"งานเยอะ แม่ก็เห็น"
"งานเยอะหรือกำลังหนีอะไรอยู่"จันจิราหรี่ตาอย่างจับผิดลูกชายคนเดียวของเธอ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ปีนี้จะ31แล้วด้วยซ้ำยังไม่คิดจะแต่งงาน จนกลัวว่าจะไม่มีทายาทมาสืบสกุลต่อ เดือดร้อนคนเป็นพ่อต้องหาเมียให้
"เลิกบังคับผมได้ไหมครับ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยคิด"
"พ่อเป็นคนตัดสินใจจ่ะ"
"แต่แม่ก็เห็นด้วยนี่ครับ พ่อกลัวแม่จะตายช่วยผมหน่อยได้ไหม ผมยังไม่พร้อม"
การแต่งงานเป็นเรื่องที่ไกลตัวพายุอย่างมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อน ตอนนี้เขาอยากมีอิสระในชีวิตอีก เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่งงานไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาอยากแต่งงานตามเพื่อนไปสักนิด
จนเมื่อเดือนก่อน พ่อแนะนำให้รู้จักกับลูกสาวของเพื่อนท่าน ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเหมือนกัน ใครจะคิดว่านั่นคือคนที่พ่อบอกว่าคือคู่หมั้นของเขา
"ยังไม่มีวันแต่งเสียหน่อย ลองคบกันดูได้ไหมลูก น้องอันก็ดูน่าคบหาด้วยไม่ใช่เหรอ อีกอย่างน้องเขาก็ดูจะชอบพายุนะลูก"
ผู้หญิงน่ารัก ผมยาว ผิวขาว ภายนอกดูเป็นคนเรียบร้อย แต่พายุรู้ดีว่านั่นแค่ตัวตนภายนอกของเธอที่แสดงให้ผู้ใหญ่รู้ เพราะเขาเคยไปส่งเธอกลับบ้านหลังมื้ออาหาร อยู่กับเขาสองคนเธอเป็นอีกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"พรุ่งนี้ ไปรับน้องไปทานข้าวหน่อยนะลูก เอาใจพ่อเขาหน่อย ถึงสุดท้ายจะไปกันไม่ได้ ก็ให้พ่อเขาเห็นว่าลูกพยายาม เท่านี้แหละที่แม่ช่วยได้"
พายุถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะรับปากคนเป็นแม่ และคิดในใจว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องพูดกับอันนาให้รู้เรื่อง ว่าความสัมพันธ์ของเขากับเธอมันเป็นไปไม่ได้