Chapter 4
“มึงทำแบบนี้กับน้องได้ยังไงไอ้วายุ กูไม่เคยสั่งสอนให้มึงข่มขืนผู้หญิง!” อาทิตย์ตะคอกใส่วายุด้วยน้ำเสียงโมโหอย่างเดือดดาล
“ป๊าพูดอะไรเนี่ย ผมไม่ได้ข่มขืนยาหยี” วายุเอามือลูบหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิดที่โดนคุณพ่อตะคอกใส่เป็นครั้งแรก
“ถ้ามึงไม่ได้ทำอะไรยาหยี งั้นมึงตอบกูมาสิ เสื้อผ้ามึงกับน้องหายไปไหน...”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะป๊า ตื่นมาผมก็อยู่สภาพนี้แล้ว” วายุปฏิเสธท่าเดียว ก่อนที่เขาจะหันไปขอความช่วยเหลือจากยาหยีด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ช่วยบอกป๊าทีสิยาหยี ว่าเฮียไม่ได้ทำอะไรหนู...”
“...” ยาหยีด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สมองของเธอขาวโพลนจนทำอะไรไม่ถูกคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธน้ำตาพรั่งพรูไหลจากดวงตา
“ฮึก...ฮือ หนูไม่รู้...”
“โธ่โว้ย! ร่างกายของเธอโดนเอาหรือไม่โดนเอาจะไม่รู้หรือไงวะ!” วายุตะคอกใส่ยาหยีเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ ที่เธอเอาแต่ร้องไห้เหมือนตกเป็นเหยื่อโดนเขาข่มขืน
“หนูเจ็บตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะยาหยี” จันทร์ฉายเอ่ยถามน้ำเสียงอบอุ่น
“ฮึก ~ เจ็บค่ะ” ยาหยีพยักหน้าตอบรับน้ำตานองหน้า เพราะรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ ที่กลางกาย
“เจ็บอะไรวะ! ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักนิด!” วายุตะคอกใส่ยาหยีด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองอัดแน่นเต็มอก ไม่คิดว่าจะโดนยาหยีใส่ร้ายแบบนี้ ถึงเขาจะเมา แต่เขาก็มั่นใจว่าก่อนเข้ามานอนในห้องของตัวเอง ไม่มียาหยีนอนอยู่บนเตียง อีกทั้งมั่นใจมากว่าเขาไม่ได้ล่วงเกินยาหยีแน่นอน
เพียะ!
อาทิตย์ยกมือฟาดหน้าวายุอย่างแรงจนเลือดไหลซึมที่มุมปาก
“อย่าตะคอกใส่น้องแบบนี้นะไอ้ชั่ว”
“ถึงผมจะชั่ว แต่ผมก็มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรยาหยี”
“หลักฐานคาตาขนาดนี้ มึงยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอว่ามึงไม่ได้ทำอะไรน้อง เมื่อคืนมึงเมาเหมือนหมา อย่ามั่นใจเรื่องบัดซบที่มึงก่อขึ้นให้มาก!...”
“เรื่องบัดซบที่ป๊ากล่าวหาผม ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้ทำ”
“มึงจะยืนยันหรือจะสาบานกูก็ไม่เชื่อ...”
“ป๊าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ป๊าเลย แต่ยังไงผมก็ไม่แต่งงานกับยาหยี ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว” ประโยคท้ายเขาพูดเสียงดังฟังชัด
“กูไม่สน ยังไงมึงก็ต้องแต่งงานกับยาหยี ถ้ามึงไม่ทำตามคำสั่งกูละก็ หุ้นโรงพยาบาลของกูทั้งหมดที่มึงอยากได้นักหนา กูจะโอนใส่ชื่อยาหยีทั้งหมด...”
“ทำไมต้องเอาเรื่องหุ้นมาเกี่ยวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยป๊า!”
“ไม่เป็นเรื่องของมึง แต่เป็นเรื่องใหญ่ของกู ถ้ามึงยังยืนยันจะไม่รับผิดชอบยาหยี มึงก็อย่าหวังว่ามึงจะได้ขึ้นแท่นเป็นกรรมการสูงสุดโรงพยาบาลของตระกูลเตชะอมรทรัพย์”
“โธ่โว้ย!!...” วายุโวยวายเสียงดังอย่างหงุดหงิดที่เหมือนโดนคุณพ่อของเขาตัดแขนตัดขาทางธุรกิจโดยไม่ฟังคำอธิบายของเขาเลยสักนิด วายุโมโหถึงขนาดลุกจากเตียงด้วยสภาพล่อนจ้อนหยิบเสื้อผ้าที่ตกอยู่บนพื้นมาสวมใส่ลวก ๆ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“คุณลุงคุณป้าคะ อย่าบังคับเฮียให้แต่งงานกับหนูเลย เฮียเขามีคนที่เขารักอยู่แล้วนะคะ อีกอย่างเฮียคงไม่ได้ทำอะไรหนูหรอกค่ะ อาจจะเป็นเพราะหนูเมาจนเดินเข้าห้องผิดก็ได้ค่ะ”
“เฮียวายุมันก็พูดไปเรื่อย มันไม่ได้คบใครหรอก ส่วนเรื่องแต่งงาน ลุงจะเป็นคนตัดสินใจเอง หนูรีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วลงมาคุยกับลุงที่ห้องรับแขก...” อาทิตย์เอ่ยบอกยาหยีด้วยน้ำเสียงอบอุ่น จากนั้นชายสูงวัยก็เดินออกไปพร้อมกับภรรยาของเขา
“โอ๊ย...ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เฮียต้องโกรธเรามากแน่ ๆ เลย” ยาหยียกมือนวดขมับพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ แต่ทว่าภาพมันก็ตัดจบตรงโต๊ะบริเวณลานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิด
...และหลังจากวันนั้นวายุก็ไม่เคยพูดดีกับเธออีกเลย แม้กระทั่งในวันที่แต่งงาน เขาก็ย้ำอีกครั้งว่าเขาเกลียดเธอ ต่างจากเธอที่มีแต่คำว่ารักให้เขา