Chapter 13

1324 คำ
Chapter 13 สองเดือนต่อมา สิ่งแรกที่ยาหยีมักมองหาตอนตื่นนอน ก็คือ ‘เขา’ และเมื่อหันไปเจอคนตัวสูงสวมใส่ชุดออกกำลังกายกำลังจะเปิดประตูออกจากห้อง ยาหยีก็รีบเอ่ยถามทันที “เฮียจะไปไหนคะ...” ถามทั้งที่ชุดของเขาบ่งบอกได้หมดแล้ว “ฉันจะไปวิ่งออกกำลังกายซะหน่อย” “หนูขอไปวิ่งด้วยได้ไหมคะ” “จะไปก็รีบลุกจากที่นอนสิ” “โอเคค่าาาา ~” ยาหยีตอบรับเสียงหวาน แล้วดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง วิ่งเข้าห้องแต่งตัวด้วยความเร็วแสง “ถ้าล้มหัวแตก ฉันฟาดซ้ำนะ” “ไม่ล้ม ๆ” ยาหยีตอบกลับน้ำเสียงกลั้วหัวเราะกับคำขู่ไล่หลังของเขา สิบห้านาทีต่อมา... ยาหยีวิ่งออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยเสื้อสปอร์ตบราสีน้ำเงิน กางเกงรัดรูปสีเดียวกัน โดยที่มือของเธอหิ้วรองเท้าผ้าใบสีขาวเอาไว้ เมื่อไม่เห็นวายุอยู่ในห้องนอน ยาหยีก็โยนรองเท้าลงบนพื้นก่อนจะสวมมันลวก ๆ แล้ววิ่งออกจากห้องทันที แต่พอเห็นคนตัวสูงยืนรออยู่หน้าบ้าน หญิงสาวก็เบรกตัวโก่ง ยืนอยู่กับที่แป๊บหนึ่ง ก่อนจะเดินไปยืนข้างคนตัวสูง “ไปกันค่ะเฮีย หนูพร้อมแล้ว” “จะรีบอะไรขนาดนั้น” วายุที่เห็นเชือกรองเท้าของหญิงสาวหลุดลุ่ยออกมา เขาใช้นิ้วชี้เคาะปลายจมูกเชิดรั้นเบา ๆ เหมือนหยอก ก่อนที่จะนั่งยอง ๆ ผูกเชือกรองเท้าให้หญิงสาว ความใส่ใจของเขา ทำเอาใจดวงน้อยฟูฟ่องราวกับจะทะลุออกจากอก จนเธอแอบคิดว่า เขาจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่มันเต้นอย่างบ้าคลั่งหรือเปล่านะ? “อื้อ...เฮีย” ยาหยีสะดุ้งเล็กน้อยที่โดนเขาบีบแก้ม “ง่วงก็กลับไปนอนต่อ...” ก็เพราะเมื่อคืนเขาเห็นเธอนั่งทำการบ้านจนดึกดื่น ก็เลยคิดว่าที่ยาหยียืนทำตาลอยราวกับจะหลับกลางอากาศ เพราะเธออาจจะนอนไม่เต็มอิ่ม “ไม่เลย หนูไม่ได้ง่วง” เมื่อกี้เธอทำหน้าง่วงอย่างงั้นเหรอ? บ้าไปแล้ว ใครง่วงนอนกัน? เธอเกือบตัวลอยเพราะเขาเทกแคร์ต่างหากล่ะ “ถ้าไม่ง่วง ก็ไปกันเถอะ...” พูดจบ เขาก็วิ่งเหยาะ ๆ นำไปก่อน แต่ด้วยความที่เขาขายาว ทำให้แต่ละก้าวของเขาดูเหมือนวิ่งเร็ว “แฮก ๆ” ยาหยีหอบหายใจถี่ ๆ เสียงดัง เหงื่อเม็ดโตแตกพลั่กตามกรอบหน้า ที่เธอดูเหนื่อยง่ายทั้งที่เพิ่งวิ่ง ความจริงแล้วเธอไม่ได้มีนิสัยรักการออกกำลังกายเท่าไรนัก แต่ที่ขอเขามาวิ่งด้วย แค่อยากมาวิ่งตามผู้ชายคนนี้ คนที่เป็นสามีตีทะเบียน คนที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาจากวันแต่งงานจนถึงวันนี้ มันดีขึ้นกว่าเดิม ถึงเขาจะยังนิ่ง ๆ แต่เขาไม่ได้เฉยชาและไม่ได้ใจร้ายกับเธอเหมือนเก่า วายุที่ได้ยินเสียงหอบแฮก ๆ ตามหลัง เขาหยุดวิ่งทันที ก่อนจะจับคนตัวเล็กที่วิ่งเร็วจนขาขวิดให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ “หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้เลย” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหอบหายใจถี่เร็ว มีใบหน้าแดงก่ำเหมือนจะเป็นลม เขาก็จับแขนเรียวชูขึ้นสูงเหนือศีรษะ “สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ” ยาหยีทำตามอย่างว่าง่าย เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วปล่อยลมหายใจออกช้าๆ “ฟู่วววว” แต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์ด้วยความฉ่ำปอด เธอก็ต้องร้องครางอื้อเสียงหลง เมื่อโดนคนตัวสูงฉกจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว และถึงแม้หญิงสาวจะไม่ทันตั้งตัว แต่เธอไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปง่าย ๆ หญิงสาวจึงจูบตอบด้วยการดูดปากหยักเกี่ยวตวัดลิ้นสากมั่ว ๆ แต่กลับได้รับความหวานจากโพรงปากหยักอย่างน่าพึงพอใจ “ดีขึ้นไหม” คนตัวสูงถามด้วยรอยยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มแพรวพราวของเขาเหมือนร่ายมนตร์สะกดให้หญิงสาวร้องขอจูบกับเขาอีกครั้ง “ดีขึ้นมากเลยค่ะ แต่หนูขออีกทีได้ไหม” ยาหยีชูนิ้วชี้ขึ้นพร้อมทำปากจู๋อย่างน่ารัก ทำเอาวายุหลุดยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะขยับใบหน้าไปจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยน เมื่อเขาจูบผิดตำแหน่ง ยาหยีก็เลยเอานิ้วชี้ทาบไปบนปากเล็ก ก่อนพูดอย่างฉอเลาะว่า... “ตรงนี้ค่ะ เฮียจูบผิดที่” “ทำตัวน่าหมั่นไส้จังวะ” น่าหมั่นไส้ของเขาก็เท่ากับน่ารัก ชายหนุ่มก็เลยจับล็อกใบหน้าสวยแล้วเอาปากหยักบดขยี้ปากเล็กอย่างหนักหน่วงให้สมกับที่เธอร้องขอ “อื้อ ๆ” ยาหยีส่งเสียงร้องประท้วง เมื่อโดนเขาจูบ จนเริ่มจะหายใจไม่ทัน “คิดว่าจะแน่” เขาใช้มือสากบีบปากเล็กที่บวมเจ่อเบา ๆ ก่อนจะยกแขนแกร่งโอบกอดลำคอคนตัวเล็กที่สูงระดับอกของเขา พาเดินออกกำลังกายไปพร้อมกัน พอผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ ซึ่งก็เดินไกลจากบ้านพอสมควร ดวงตากลมโตไปสะดุดเข้ากับจักรยานคันสีขาว ทำให้หญิงสาวถึงกับตาลุกวาวราวกับว่าตัวเองกำลังจะได้ปีนขึ้นขอบสวรรค์ก็ไม่ปาน “เฮียบนเกาะมีรถจักรยานด้วยค่ะ...” ยาหยีเอ่ยบอกคนตัวสูงด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “แล้ว?...” เขาเลิกคิ้วขึ้น หันไปมองจักรยานคันสีขาวอย่างไม่ค่อยแปลกใจนัก เพราะมันเป็นจักรยานที่พี่น้องของเขาจัดเตรียมเอาไว้ขี่บนเกาะเวลามาพักผ่อนที่นี่ “เฮียอยากปั่นจักรยานไหมคะ” “ไม่” วายุตอบอย่างไม่เสียเวลาคิด “ไม่ปั่นจริงเหรอคะ ลองคิดดี ๆ หนูให้เฮียคิดอีกที” ยาหยีถามย้ำ เพื่อให้เขาตอบใหม่ เพราะคำตอบของเขามันไม่ถูกใจเธอนัก “แล้วเธอต้องการให้ฉันตอบแบบไหนล่ะ” วายุถามหยั่งเชิง เพราะแค่ฟังเธอถามซ้ำ ๆ ก็ดูออกแล้วว่ายาหยีอยากให้เขาปั่นจักรยานเหลือเกิน “หนูอยากให้เฮียเปลี่ยนจากวิ่งมาปั่นจักรยานดูบ้าง เพราะการปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่ดีเลยทีเดียว หนำซ้ำยังมีเบาะหลังให้อีกคนซ้อนท้ายได้ด้วย” “ที่พูดร่ายยาวอ้อมโลก สรุปสั้น ๆ คือเธออยากใช้แรงงานฉัน โดยให้ฉันปั่นจักรยานให้เธอนั่ง?” “หนูขอค้านนิดหนึ่งนะคะ หนูไม่ได้จะใช้แรงงานเฮีย หนูแค่อยากให้เฮียออกกำลังกายหลาย ๆ ท่า ขาจะได้แข็งแรง” “ขาของฉันแข็งแรงดีและเดินได้ปกติแล้ว” ใช่...ตอนนี้เขากลับมาเดินได้ปกติแล้ว แต่ทว่ายังคงอยู่ที่นี่ต่อเพราะยังจับคนร้ายไม่ได้ “โอเค ๆ หนูยอมรับก็ได้ว่าหนูเมื่อยขา อยากให้เฮียปั่นจักรยานให้หนูซ้อนท้ายได้ไหมคะ?” พอกล่อมเขาไม่สำเร็จ เธอก็ยอมสารภาพความจริงพร้อมทั้งอ้อนเขาไปด้วย เพราะถ้าจะให้เดินต่อ เธอคงได้เดินขาลากกลับบ้านแน่ “เธอเนี่ยมันน่าโดนฟาดก้นสักที...” เขากอดรัดคนตัวเล็กไว้แน่นอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะผละตัวออกเดินไปขึ้นคร่อมจักรยาน “ขึ้นมา” เขาทำเหมือนจะดุ แต่ก็ตามใจเธอ ก็เพราะยาหยีคอยเป็นกำลังใจที่ดีให้เขาตลอดที่อยู่ที่นี่ เขาจะใจอ่อนยวบทำตามเสียงอ้อนก็ไม่แปลก “รับทราบค่าาาา” ยาหยีวิ่งดุ๊กดิ๊กไปนั่งซ้อนท้ายจักรยานพร้อมทั้งเอามือจับที่ชายเสื้อของเขา แต่ทว่าวายุกลับดึงมือเล็กขยับมาสวมกอดที่เอวสอบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม