ช่วงเย็นในคฤหาสน์ ลันโซและโลตัสคอยปลอบโยนน้องสาว จนกระทั่งแน่ใจว่าจัสมินเริ่มใจเย็นลงบ้างแล้ว พวกเขาจึงยอมออกจากห้องและให้เวลาน้องสาวได้อยู่กับความคิดของตัวเอง
แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าเชื้อเพลิงของจัสมินได้ถูกเติมเต็มแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนอนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรต่อ
จัสมินลุกขึ้นจากเตียงหนานุ่ม ใบหน้าของเธอยังคงมีร่องรอยน้ำตาอยู่จาง ๆ แต่ไม่นานมันก็ถูกแทนที่ด้วยประกายแข็งกร้าว เธอเดินไปหยุดตรงหน้ากระจกบานใหญ่และมองตัวเองที่สะท้อนอยู่ในนั้น
“พี่นที... พี่กล้าดียังไงมาไล่จัสมิน” เธอเค้นเสียงกับเงาของตัวเอง มือขาวสว่างยกขึ้นปาดน้ำตาให้พ้นจากใบหน้างดงาม
ความเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธจากผู้ชายคนนั้นหาใช่ความเจ็บปวดอย่างคนอกหัก แต่เป็นความเจ็บปวดที่ถูกเขาเหยียบย่ำ! เธอคือคนสวย สง่า มีพร้อมทุกอย่างและไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าทำให้เธอเสียหน้าขนาดนี้ ดังนั้นมหานทีต้องชดใช้ให้เธอในวันหน้า
จัสมินหยิบโทรศัพท์มือถือราคาแพงออกมาจากกระเป๋าหนังที่ยังคงชื้นฝนก่อนสไลด์เปิดรูปของนทีที่ทำต่อเธอจากเพจซุบซิบขึ้นมาดู
“เอาล่ะ... เกมใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว” จัสมินประกาศกร้าว
สำหรับเธอมันจะไม่ใช่แค่การทำให้รักแล้วหักอกอีกต่อไป แต่จะเป็นการครอบครองและบดขยี้ความภาคภูมิใจของมหานทีให้แหลกคามือ เพื่อเป็นการแก้แค้นที่เขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา
‘ยัยทราย เธอช่วยสืบทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตพี่นทีให้ฉันหน่อยสิ ฉันจ่ายไม่อั้น’
วันต่อมาจัสมินก็ปรากฏตัวที่ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์อีกครั้ง เธอไม่ได้มาแบบเงียบ ๆ เหมือนคราวก่อนแต่ก้าวเดินมาอย่างมั่นใจ ในเมื่อนทีห่วงเรื่องข่าวมากนักเธอก็จะจัดให้แบบอลังการ เธอแย้มยิ้มมาตลอดทางเหมือนเรื่องที่ชายหนุ่มทำเธอเสียน้ำตาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ไอ้นที ไอ้นที สาวมาหาว่ะ”
นทีขมวดคิ้วมุ่นเมื่อถูกรบกวนจากเพื่อนข้าง ๆ เนื่องจากกำลังแบ่งงานกันทำโปรเจกต์จบกับเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างเคร่งเครียด แม้จะเป็นช่วงเริ่มต้นแต่หากทำไม่ทันมีหวังได้เกิดเรื่องแน่
“พี่นทีคะ” จัสมินกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างหงุดหงิด แต่เมื่อเห็นใบหน้าของจัสมินเขาก็นึกอยากไล่ตะเพิดอีกครั้ง ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักเข็ดไม่รู้จักหลาบหรือยังไง เมื่อวานเขาทำรุนแรงขนาดนั้นก็แล้ว
“มีอะไร” ชายหนุ่มถามเสียงห้วนพร้อมกับใบหน้าเบื่อหน่ายจนเพื่อนรอบข้างอึดอัดตาม
“จัสมินเอาชานมมาฝากค่ะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้พี่นทีเรียนหนัก จัสมินเลยอยากเติมพลังให้” หญิงสาววางถุงชานมแบรนด์ดังราคาแพงลงบนโต๊ะข้าง ๆ กระดาษรายงานยับยู่ยี่ของเขา
“ฉันไม่ต้องการ เอากลับไปซะ” นทีปฏิเสธทันควัน เขากวาดตามองรอบข้างก็รู้แล้วว่าอย่างไรเสียครั้งนี้ก็ไม่พ้นเป็นข่าวอีกแน่นอน ดังนั้นเขาเลยไม่คิดหลบเลี่ยงอีกต่อไป
จัสมินทำเป็นไม่ได้ยิน เธอถือวิสาสะนั่งลงตรงที่ว่างก่อนเท้าแขนลงกับโต๊ะแล้วเอียงหน้ายิ้มหวานใส่
“พี่นทีรู้ไหมคะว่าชานมแบรนด์นี้หอมมาก เก็บมาจากใบชาชั้นดี ยิ่งเป็นรสชาติที่จัสมินเอามาให้มันก็ยิ่ง... อร่อย” เธอยั่วยวนอย่างโจ่งแจ้งจนนทีตวัดสายตาดุดันใส่เพราะเกือบระงับโทสะไว้ไม่ไหว
“เธอนี่มันน่าไม่อายจริง ๆ ฉันเคยบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับฉัน! ฟังไม่รู้เรื่องรึไง!" นทีลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที
จัสมินไหวไหล่ราวกับท้าทายเขาเป็นคำพูดว่า ‘แล้วไง’
“ได้ ถ้าเธอไม่ไป ฉันไปเอง” นทีตะคอกใส่หญิงสาวก่อนยกขาข้ามเก้าอี้แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
จัสมินมองตามแผ่นหลังกว้างที่มีเหงื่อชุ่มอยู่ตรงกลาง เธอยกยิ้มอย่างพอใจที่ได้กวนประสาทเขา แม้ว่าตัวเองจะเจ็บลึก ๆ ก็ตาม
และในขณะที่คนสองคนกำลังปะทะกันอย่างตึงเครียดจนมีอีกคนหนีไป ลดาที่อยู่ไม่ไกลนักก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานและสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย
“น้องจัสมินคะ” ลดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ก็ตั้งใจให้เพื่อน ๆ ของนทีที่ยังนั่งอยู่ได้ยิน “พี่เข้าใจว่าน้องชอบนที แต่พี่ว่าน้องควรระวังเรื่องการมาหาผู้ชายที่คณะวิศวะฯ นะคะ เวลามีข่าวลือมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของน้องดูไม่ดีเอา"
จัสมินนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนลุกออกจากเก้าอี้
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ลดาเหรอคะ?” จัสมินถามกลับอย่างไม่พอใจ
“เฮ้อ” ลดาถอนหายใจเบา ๆ คล้ายผู้ใหญ่ใจดีกำลังตักเตือนเด็กเยาว์วัย “ก็ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ พี่แค่เป็นห่วงเพราะน้องเป็นดาวคณะ ถ้ามีข่าวออกมาอีกว่าใกล้ชิดกับนทีก็อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าน้องจัสมินเป็นผู้หญิงประเภท...” ลดาทำท่าราวกับอายที่จะพูดออกมา “ช่างมันเถอะค่ะ”
คำพูดของลดาจริงอยู่ว่ามันนุ่มนวลแต่ก็เต็มไปด้วยการจิกกัดทำให้อารมณ์ของจัสมินพุ่งขึ้นทันที โดยเฉพาะตรงที่ลดาเว้นวรรค ซึ่งใครต่อใครคงต่อเติมเอาว่า ชอบแย่งของของคนอื่น
“ทำไมไม่พูดออกมาล่ะ จัสมินก็อยากจะรู้ว่าพี่จะพูดต่อว่ายังไง ถ้าแค่นี้ยังไม่กล้าก็หุบปากไปเถอะ มันเหม็น” จัสมินตอกกลับ โดยไม่สนใจว่าลดาจะเป็นใคร รุ่นพี่รุ่นน้องอะไรนั่นไม่อยู่ในหัว
“อ้อ แล้วก็อย่างที่รู้ พี่นทีเขายังไม่ได้เป็นแฟนใคร เพราะงั้นจัสมินจะจีบพี่นทีหรือเป็นข่าวมากแค่ไหนมันก็เรื่องของจัสมิน ป้าข้างบ้านไม่เกี่ยว” จัสมินมองลดาอย่างเหยียดหยาม “โตมาขนาดนี้แล้วก็น่าจะรู้ว่าความหวังดีที่คนอื่นไม่ต้องการ เขาเรียกว่าอะไร”
... เสือก!
ลดามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความตกตะลึงระคนเสียใจจนน้ำตาเริ่มเอ่อคลอในดวงตาคู่สวย เธอยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเล็กน้อยคล้ายกับพยายามกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นดังลอดออกมา
ลดาไม่ได้โต้ตอบคำพูดหยาบคายของจัสมินด้วยคำพูดก็จริง แต่เธอเลือกแสดงออกถึงความบอบช้ำทางจิตใจต่อหน้าเพื่อนร่วมห้องของนทีที่ยังนั่งอยู่ในเหตุการณ์อย่างเงียบงัน
“น้องจัสมิน ทำไมต้องพูดจาแบบนี้กับพี่ด้วยคะ” ลดาเอ่ยเสียงสั่น เธอทำเหมือนพยายามรีดเค้นความเข้มแข็งออกมา “พี่ก็แค่หวังดี พี่ไม่ได้ตั้งใจจะ...ฮึก”
ส่วนจัสมินที่กำลังเลือดขึ้นหน้ายิ่งเห็นลดาทำทางแบบนั้นก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
“อย่ามาทำเป็นสำออย!” จัสมินตวาดเสียงดังขึ้นอีกขั้น "ถ้าอยากได้พี่นทีก็พูดออกมาตรง ๆ อย่าเอาความหวังดีมาอ้าง มันไร้สาระ! ผู้หญิงที่ทำตัวเป็นแม่พระแต่ในใจเน่าเฟะ มันน่าขยะแขยงนะรู้ไหม!”
และในจังหวะนรกนั้นเอง... นทีที่เดินหนีไปสงบสติอารมณ์ด้านหลังตึกเพราะทนกับความยียวนของจัสมินไม่ไหวก็เดินกลับมาพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกคน เขาตั้งใจกลับมาเก็บอุปกรณ์แล้วค่อยออกไป
ทว่าสิ่งที่เขาเห็นต่อหน้าต่อตาทำให้โลกทั้งใบหยุดนิ่งอย่างฉับพลัน
ภาพของลดาที่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยน้ำตาและความอับอาย และจัสมินที่กำลังยืนเท้าเอวชี้หน้าลดาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
นทีไม่ได้ยินคำพูดทั้งหมดก่อนหน้านี้ แต่เขาได้ยินประโยคสุดท้ายที่จัสมินตวาดใส่ลดาอย่างชัดเจน ‘หญิงที่ทำตัวเป็นแม่พระแต่ในใจเน่าเฟะ มันน่าขยะแขยงนะรู้ไหม!’
ซึ่งสำหรับนทีมันก็มากเพียงพอแล้ว ความรู้สึกที่เขามีต่อลดาทำให้เขาลงดาบตัดสินใจทันทีว่าลดาถูกรังแก
ชายหนุ่มพุ่งตัวเข้าไปแทรกกลางระหว่างหญิงสาวสองคนอย่างรวดเร็ว สีหน้าของนทีตอนนี้ไม่หลงเหลือความหล่อเหลาแม้แต่น้อย เขามีแต่ความโกรธและเย็นชาซึ่งคนที่ต้องรับมันไปก็คือ...จัสมิน
“จัสมิน!” นทีตวาดเสียงดังลั่นจนทุกคนต้องหันมามอง มันเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเรียกชื่อของหญิงสาวใบหน้างดงาม แต่คำที่ตามมาหลังจากนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่จัสมินยินดี “ฉันบอกว่าให้ไปให้พ้นไง! ไม่เข้าใจภาษาคนรึไงวะ!”
นทีเอื้อมมือไปโอบไหล่บอบบางของลดาที่กำลังสั่นเทาราวกับกำลังประคองของล้ำค่า ส่วนลดาเองก็ใช้โอกาสนี้ซบหน้าลงกับแผงอกของเขาอย่างสมบทบาท
“เธอต้องการอะไรจากชีวิตฉันนัก! ทำไมต้องมาหาเรื่องทำร้ายจิตใจลดาแบบนี้ด้วย!” นทีจ้องจัสมินด้วยแววตาเอาเรื่อง ทำให้จัสมินรู้สึก หวาดกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต “ผู้หญิงที่เอาแต่ใจตัวเอง ชอบเหยียบย่ำความรู้สึกคนอื่นอย่างเธอต่างหากที่น่ารังเกียจ! เลิกยุ่งกับพวกเราได้แล้ว! ไปซะ!”
จัสมินตัวแข็งทื่อจากคำว่า ‘น่ารังเกียจ’ และ ‘ชอบเหยียบย่ำความรู้สึกคนอื่น’ ที่ออกจากปากเขาทำให้เธอเจ็บปวดอย่างแท้จริง
“พี่นที! มันไม่ใช่...” จัสมินกำลังจะอ้าปากพูดอธิบายว่าเขาเข้าใจผิด แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไร นทีที่โอบลดาไว้แน่นก็หันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่หันกลับมามองจัสมินเลยแม้แต่น้อยเพราะสิ่งที่เขาสนใจคือลดาที่อยู่ในอ้อมแขน
จัสมินยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ภาพลดาที่ซบไหล่นทีด้วยน้ำตาจอมปลอมสลักลึกลงไปในหัวใจ
“ได้!” หญิงสาวสบถพลางสูดลมหายใจเข้าลึก เธอค่อย ๆ หันหลังเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย แต่ไฟแห่งความแค้นและความมุ่งมั่นที่จะทำลายในใจกลับลุกโชนขึ้นเต็มที่แล้ว เดิมที่แค่อยาก 'หักอก' ตอนนี้จัสมินอยากทำให้มันเป็นการ 'เอาคืนอย่างสาสม'
‘พี่นที... พี่กล้าดียังไงมาตัดสินฉัน! คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้พี่มาคุกเข่าขอโทษฉันให้ได้! และยัยแม่พระนั่น... เตรียมตัวโดนถีบออกจากวัดได้เลย!’
ส่วนอีกด้านหนึ่ง นทีที่รีบจูงมือลดาเดินออกมาจากคณะวิศวะฯ ก็ตรงไปที่รถมอเตอร์ไซค์เก่าคู่ใจที่จอดไว้ข้างตึก ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและเป็นห่วงก่อนหยุดฝีเท้าลงหลังเห็นว่าตรงนี้ไม่มีคนอยู่
“ลดา ลดาโอเคไหม?” นทีถามเสียงเบาแต่ยังคงมีความดุดันแฝงอยู่ “ผู้หญิงบ้านั่นทำอะไรลดาอีกรึเปล่า” นทีปล่อยมือเปลี่ยนมาจับไหล่ลดาไว้แน่น สีหน้าของเขาอ่อนโยนลงทันทีที่เห็นหยาดน้ำตาบนแก้มขาว
ลดาเงยหน้ามองชายหนุ่ม ดวงตาของเธอแดงก่ำแต่ก็ยังยิ้มฝืดออกมา “ลดาไม่เป็นไร ลดาแค่ตกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าน้องจะโกรธขนาดนั้น ลดาแค่หวังดีอยากเตือนน้องเท่านั้นเอง"
นทีส่ายหน้าพลางใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจากแก้มของลดาอย่างอ่อนโยน “ต่อไปลดานั่นแหละ ที่อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงบ้า ๆ คนนั้น”
“อื้อ” ลดาพยักหน้าช้า ๆ คล้ายเด็กเชื่อฟังคำของผู้ใหญ่ทำให้หัวใจชายหนุ่มพองฟูอย่างประหลาดแม้เพิ่งผ่านเหตุการณ์น่าหงุดหงิด
“กลับบ้านกันเถอะ” นทีกล่าวเสียงอบอุ่น