ตอนที่4

1568 คำ
อลิสาหอบร่างกายที่บอบช้ำกลับมายังห้องพักเล็กๆ ของตัวเอง อาคารสามชั้นเก่าๆ ที่ดูทรุดโทรม แต่ค่าเช่าถูกพอให้เธอพอประทังชีวิตต่อไปได้ ที่นี่...เธออยู่กับน้องชายสองคนตามลำพัง พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน ทิ้งเธอและน้องชายให้อยู่กันตามยถากรรม น้องชายของเธอ อลัน อายุสิบเอ็ดปี กำลังเข้าสู่วัยรุ่น เป็นเด็กดี ไม่ซุกซน ไม่เรียกร้องอะไรเกินตัว ต่างจากเด็กวัยเดียวกัน เวลาที่อลิสาออกไปทำงาน เธอมักจะต้องทิ้งอลันให้อยู่คนเดียวในห้อง ถึงแม้จะใจหายทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีทางเลือก เธอล็อกประตูจากด้านนอกเสมอเพราะกลัวจะมีใครบุกรุกเข้ามาทำร้ายน้อง ถึงห้องจะแคบและอึดอัด แต่ก็ยังมีหน้าต่างที่พอจะหนีได้หากเกิดเหตุร้าย เธอสอนน้องทุกครั้ง หากมีอะไรผิดปกติ ให้ปีนหนีออกหน้าต่างทันที ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา ก็เจอกับอลันในชุดนักเรียนเรียบร้อย พร้อมสะพายกระเป๋าเตรียมตัวไปโรงเรียนเหมือนทุกวัน “ทำไมวันนี้พี่กลับเช้าล่ะ?” เสียงถามอย่างแปลกใจดังขึ้นพร้อมกับดวงตาเล็กๆ ที่มองมาด้วยความใสซื่อ “พอดีที่ร้านมีปัญหานิดหน่อยน่ะ” อลิสาตอบ กลั้นความเหนื่อยเอาไว้ก่อนฝืนยิ้ม “แล้วอันกินข้าวหรือยัง? เดี๋ยวพี่เอาเงินให้นะ” เธอรีบเปิดกระเป๋า หยิบแบงก์ร้อยแล้วยื่นให้น้องชาย “ตังค์ที่พี่ให้เมื่อวานยังเหลืออยู่นะ ผมทำไข่เจียวไว้ให้ รีบกินแล้วก็นอนพักเถอะ...หน้าพี่ซีดมากเลย พี่ไม่สบายรึเปล่า” อลันพูดพร้อมกับวางจานไข่เจียวบนโต๊ะไม้เก่าๆ หน้าโทรมของพี่สาวทำให้เขาเป็นห่วง แม้จะอายุแค่สิบเอ็ดปี แต่เด็กชายก็รู้จักช่วยเหลือพี่สาวเท่าที่ทำได้ อลันสงสารพี่สาวมาก เขารู้ดีว่าพี่ต้องลำบากแค่ไหน ถ้าเขาหาเงินได้ เขาจะช่วยเธอทันทีโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว “เอาไปเถอะ เมื่อคืนพี่ได้ทิปมาเยอะ” อลิสายิ้มบางๆ แล้วยื่นแบงก์ร้อยให้น้องชายสองใบ “ไปซื้อของที่อันชอบกินนะ พี่อยากให้อันได้กินของอร่อยๆ เหมือนเด็กคนอื่นเขาบ้าง” เธอมองน้องชายด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม อลันคือทุกอย่าง ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในโลกใบนี้ เธออยากเป็นทั้งพี่ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ให้เขา ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำไหว...ไม่ว่าวิธีหาเงินจะยากลำบากแค่ไหน เธอก็จะไม่หยุด จนกว่าอลันจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ทันทีที่ส่งน้องชายออกไปโรงเรียน อลิสาก็รีบเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สะอาด ล้างเอาคราบของคืนที่ผ่านมาทิ้งไปให้หมด ถึงจะมีร่องรอยเหลืออยู่บ้าง แต่เธอก็ทำใจแล้วว่าเรื่องพวกนี้...ยังไงก็ไม่เจ็บเท่าท้องที่หิว ถ้ามีทางเลือกอื่น อลิสาย่อมไม่เลือกเส้นทางนี้หรอก แต่นี่คือหนทางเดียวที่เธอกับน้องชายจะอยู่รอดในโลกที่โหดร้ายใบนี้ “ค่าเช่าที่ค้างไว้นะเจ๊” อลิสาไม่ได้ได้นอนพักตามที่อลันขอไว้ เธอเดินลงมาชั้นล่างสุด ยื่นเงินให้เจ๊เจ้าของหอที่ตีหน้ายักษ์รอทวงอยู่แล้ว “ลูกค้าให้ทิปหนักล่ะสิ ถึงได้มีเงินจ่ายเช้าเชียว” เจ๊ปากไวตามเคย แต่อลิสาไม่คิดถือสา อย่างน้อยแกก็ให้ค้างค่าเช่าเดือนสองเดือนในช่วงที่ขัดสน “พูดมากน๊าเจ๊ ให้เงินครบก็บ่น ไม่ครบก็ด่า” อลิสาว่าแบบขำๆ พลางยื่นเงินให้ครบจำนวน “แหม! ก็เจ๊ตกใจนี่หว่า ปกติต้องให้ทวงแล้วทวงอีก” เจ๊แกว่าพลางนับเงินไปพลาง “อยู่ๆ จ่ายแปะตรงเวลา ใครจะไม่สงสัย” อลิสายิ้มน้อยๆ ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูด “ฉันไปทำงานก่อนนะเจ๊ ถ้าอันกลับมาก่อน ฝากเจ๊ช่วยดูมันให้หน่อย” คนในตึกรู้จักเธอกับน้องชายเป็นอย่างดี ถึงจะสงสารและเวทนาแต่ความเป็นอยู่ของพวกเขาก็ไม่ต่างกันมากนัก นอกจากงานเสิร์ฟในคลับยามค่ำคืน อลิสายังรับจ๊อบเสริมเป็นพาร์ตไทม์ในร้านกาแฟขนาดกลางชื่อ Bonita Cafe เจ้าของร้านใจดีและเข้าใจชีวิตเด็กนักศึกษาอย่างเธอ ให้ทำงานเป็นรายชั่วโมง วันไหนไม่สะดวกก็แค่โทรมาแจ้งล่วงหน้า ซึ่งก็มีน้อยครั้งนัก เพราะอลิสารู้ดีว่าทุกชั่วโมงของเธอมีค่า เธอสวมเสื้อยืดพอดีตัวคู่กับกางเกงยีนส์สีซีด รองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่ฉีกขาดเป็นริ้วๆเพราะผ่านการใช้งานมานานพอสมควร สวมผ้ากันเปื้อนสีดำที่มีโลโก้ร้านปักไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า Bonita Cafe ซึ่งตั้งชื่อตามเจ้าของร้านโดยตรง “มาแต่เช้าเลยนะ แอล” เสียงหวานคุ้นเคยเอ่ยทักขึ้นจากหลังเคาน์เตอร์ พร้อมรอยยิ้มสดใสของ โบนิต้า หรือคุณโบเจ้าของร้านผู้สวยสง่าและใจดี โบนิต้าอายุมากกว่าอลิสาราวห้าปี เป็นคนอัธยาศัยดี มีเสน่ห์ และหลงใหลกลิ่นหอมของกาแฟพอๆ กับการทำขนมหวาน ทุกเมนูในร้านล้วนเป็นฝีมือของเธอเอง รสชาติอร่อยจนลูกค้าหลายคนกลายเป็นขาประจำอย่างเหนียวแน่น ตัวร้านตกแต่งสบายตาด้วยโทนสีขาวสะอาดตัดกับสีเขียวของต้นไม้ใบไม้ที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เงียบสงบแต่ไม่อึดอัด เหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากหามุมพักใจ สำหรับอลิสา ที่นี่คือที่ทำงานเล็กๆ ที่พอจะหลบความวุ่นวายจากโลกภายนอกไว้ได้ชั่วคราว “คุณโบก็มาตั้งแต่เช้าค่ะ” อลิสาวางผ้าเช็ดโต๊ะในมือลงเบา ๆ ขณะที่จัดเก้าอี้ให้เรียบร้อย เตรียมรับลูกค้าในช่วงเช้าที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้ เวลานี้ของวันมักคึกคักด้วยเหล่าขาประจำ ก่อนจะกลับมาคึกอีกครั้งในช่วงเที่ยง ซึ่งเป็นเวลาพักกลางวันของพนักงานออฟฟิศ เธอจึงเลือกมาทำงานเฉพาะช่วงเช้า ส่วนบ่ายมีเรียน และกลางคืนก็ไปทำงานต่อที่คลับ…เป็นตารางชีวิตที่แน่น แต่ก็ช่วยให้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองกับน้องชาย “วันนี้พี่จะลองทำ Limited Nutella Banoffee Box Special ดูจ้ะ คิดไว้ว่าอยากขายช่วงวันแม่พอดี” โบนิต้าเอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างคนมีไอเดียใหม่ตลอดเวลา “แต่แอลว่าทีรามิสุแบบไม่ขมกาแฟก็ขายดีอยู่นะคะ เห็นพอวางแป๊บเดียวก็หมดตลอด” อลิสาตอบพร้อมรอยยิ้ม เธอเคยแอบเห็นลูกค้าหลายคนมายืนรอก่อนร้านเปิด เพียงเพราะอยากได้ขนมถ้วยนั้น “ก็ใช่นะจ๊ะ แต่ถ้าทำซ้ำบ่อยเกินไป เดี๋ยวลูกค้าจะเบื่อเอา ต้องหมั่นเปลี่ยนเมนูใหม่ๆ ลองใจลูกค้าบ้าง” โบนิต้าหัวเราะน้อย ๆ พลางเปิดตู้แช่เพื่อตรวจเช็กวัตถุดิบที่เตรียมไว้แต่เช้า “ถึงว่าร้านขายดี เจ้าของร้านทั้งเก่งทั้งขยันแบบนี้นี่เอง” อลิสาพูดด้วยความจริงใจ เธอเคารพและชื่นชมโบนิต้ามาก ทั้งที่ครอบครัวของอีกฝ่ายมีฐานะดีอยู่แล้ว แต่โบนิต้าก็ยังเลือกลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่บริหารอยู่เบื้องหลัง “ไม่ต้องมายอเลยจ้ะ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เพราะมีแอลอยู่ที่นี่นั่นแหละ พนักงานเสิร์ฟที่ไหนจะน่ารัก สดใสแถมยังหุ่นดีแบบนี้ พี่ว่าต้องพิจารณาเพิ่มเงินเดือนแล้วละมั้ง” คำพูดของโบนิต้าทำเอาอลิสายิ้มเขิน ยกมือขึ้นเกาหัวเบา ๆ อย่างไม่รู้จะตอบยังไง ถึงแม้เธอจะไม่แต่งตัวหวือหวา แต่ด้วยเสื้อยืดพอดีตัว กางเกงยีนส์ธรรมดา และความเป็นธรรมชาติที่ฉายออกมาทั้งบุคลิกและท่าทาง ก็ทำให้อลิสดูน่ามองอยู่เสมอ ผิวขาวเนียน รูปร่างได้สัดส่วนแบบคนดูแลตัวเองดี เธอมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่ต้องพยายาม แต่ชีวิตของอลิสาก็ใช่ว่าจะราบรื่นเหมือนรอยยิ้มที่เธอแจกจ่ายให้ลูกค้า เด็กสาวในวันนั้น...นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ตัวเปียกปอนจากสายฝนที่เทลงมาอย่างไม่ปรานี ข้างกายคือเด็กชายตัวเล็กๆ ที่มีสภาพไม่ต่างกัน โบนิต้าเดินผ่านโดยบังเอิญ แต่กลับหยุดเท้าแทบทันทีเมื่อเห็นน้ำตาที่เอ่อล้นจากดวงตาคู่งามนั้น "หนูเป็นอะไรจ้ะ หลงทางเหรอ" เป็นคำถามธรรมดา ที่เปลี่ยนชีวิตของเด็กสองคนไปตลอดกาล อลิสาตอบเพียงเบาๆ ว่า...ไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว คำตอบนั้นแทงลึกถึงหัวใจของโบนิต้า เธอจึงไม่ลังเลที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือและเสนอให้อลิสาเข้ามาทำงานที่ร้านกาแฟของตัวเอง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาก็ล่วงเลยมากว่าสามปี อลิสาไม่เคยขาด ไม่เคยสาย ไม่เคยปฏิเสธงานใดแม้แต่งานเล็กๆ ความขยันและความอดทนของเธอค่อยๆ สร้างความประทับใจให้โบนิต้าทีละนิด จนกลายเป็นความเอ็นดูจากหัวใจของพี่สาวคนหนึ่ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม