ซวยเป็นบ้า...1

438 คำ
…เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสาย เขาคิดว่าเป็นพวกแกงค์คอลเซ็นเตอร์ เขาจึงกดวางสายไป แต่แล้วเบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงกดรับสายด้วยความสงสัย ถ้าใช่แกงค์คอลเซ็นเตอร์จริง เขาจะได้กดบล็อคเบอร์ไว้ จะได้ไม่ต้องโทรมารบกวนเขาอีก [ถ้าคุณยังไม่พูด ผมจะบล็อคคุณแล้วนะ] ภวัตเอ่ยออกมาเสียงเข้ม “ยังปากแจ๋วเหมือนเดิมเลยนะคะพี่วัต” ในที่สุดเดือนแรมก็ต้องกลั้นใจเปล่งเสียงออกไป เพราะกลัวว่าเขาจะบล็อคเบอร์ตัวเองจริงๆ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้พูดธุระกับเขาเลย [นึกว่าโรคจิตหรือว่าแกงค์คอลเซ็นเตอร์ที่ไหนที่แท้ก็น้องเดือนนี่เอง มีธุระอะไรถึงได้โทรหาพี่ได้น้า...] ถามออกไปทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายโทรมาหาตนเองด้วยสาเหตุอะไร “พี่วัตอย่าไขสือได้มั้ย ยัยตาบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเดือนจะขอเข้าไปสัมภาษณ์พนักงานของพี่ และก็ขอดูงานอยู่ที่รีสอร์ทพี่สักสองอาทิตย์” แม้ว่าอยากจะพูดดีกับเขาเท่าไหร่ แต่ปลายสายก็ไม่เอื้อให้แก่เธอเลย ทำให้เธอหลุดเสียงแข็งใส่เขา [ก็มาสิ ถ้าคิดว่าจะได้อะไรจากที่นี่] ภวัตเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงยียวน ทำให้คนตัวเล็กอยากกรี๊ดออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่เพราะต้องการข้อมูล ทำให้หญิงสาวต้องพยายามเก็บความรู้สึกของตนเองเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกถึงความไม่พอใจ เดี๋ยวอีกฝ่ายจะไม่ให้เธอเข้าไปหาข้อมูลทำวิจัย แล้วจะเรียนไม่จบซะเปล่า “กี่ปีกี่ปีพี่วัตก็เหมือนเดิมเลยนะคะ ปากดีไม่เคยเปลี่ยน” เดือนแรมแขวะชายหนุ่ม [ขอบคุณนะที่ชม ว่าแต่ว่าจะมาวันไหนจะได้ให้คนไปทำความสะอาดห้องพักของแม่บ้านไว้รอ] เมื่อเธอแขวะเขา เขาก็สวนกลับทันที ทั้งที่เขาไม่มีทางให้เพื่อนน้องสาวไปนอนที่ห้องพักแม่บ้าน แต่เพราะว่าเป็นเธอ เขาเลยสวนออกไปแบบนั้น “ก็ยังดีนะคะที่มีที่ให้นอน ไม่ต้องไปหานอนตามห้องเก็บของ” แม้ว่าจะโกรธ แต่เธอก็พยายามควบคุมอารมณ์ เพื่อให้การเจรจาครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี [แล้วตกลงจะมาวันไหน พี่จะได้เตรียมต้อนรับชุดใหญ่ไฟกระพริบ] ฝ่ายชายยังคงยั่วหญิงสาวไม่หยุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม