“เฮ้อ...ถึงซะที” ภวัตเอ่ยออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ ไม่เจอกันนานยัยเดือนเปลี่ยนไปเยอะมาก ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้
“บ่นอารายเหรอพี่วัต” หญิงสาวหันมาถามด้วยสภาพที่เรียกว่าเรื้อนยังได้เลย
“ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ไง ถึงได้บ่น รีบเข้าไปเถอะ” ว่าแล้วร่างสูงก็ดันร่างบางเข้าไปในห้องพัก ซึ่งเขาจัดการเปิดประตูเรียบร้อยแล้ว
“ยุ่งจริง” หญิงสาวบ่นเล็กน้อย แต่ก็ยอมเดินตามแรงดันเขาเข้าไปในห้อง
“ไปนอนได้แล้ว” เมื่อเข้ามาในห้อง ภวัตก็สั่งให้เดือนแรมเดินไปนอนที่เตียงนอน
“ไม่เอาไม่นอน เรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันมั้ย” เดือนแรมเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ความเมามันทำให้เธอยิ้มให้เขาแบบที่เธอไม่คิดจะทำมาก่อน
“เล่นอะไร ไม่เล่นแล้ว ไปนอนได้แล้ว” ภวัตเอ็ดหญิงสาวเบาๆ
“ก็มาเล่นจ้ำจี้กันไงคะ” เดือนแรมเอ่ยออกมาอย่างไม่คิดอะไร
“จ้ำจี้บ้าอะไรล่ะ ไปนอนเลย” ภวัตตกใจเป็นอย่างมาก นี่เธอเมาขนาดที่จะพาเขาเล่นจ้ำจี้อย่างนั้นหรือ
“ไม่เอามาเล่นด้วยกันก่อน” ร่างบางกอดรัดร่างสูงเอาไว้อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“อย่าทำแบบนี้ พี่ไม่ตลกด้วยนะเดือน” ภวัตดุหญิงสาวเสียงดัง
“ใครว่าเดือนจะตลกล่ะ เดือนอยากเล่นจ้ำจี้” หญิงสาวยังคงกอดรั้งร่างสูงของชายหนุ่มไว้ คำว่าเล่นจ้ำจี้คือเล่นจ้ำจี้จริงๆ ไม่ใช่อย่างอื่นแบบที่ชายหนุ่มเข้าใจ เพราะอยู่ดีๆ ความทรงจำในวัยเด็กที่เธอเล่นจ้ำจี้ก็โผล่ขึ้นมาในสมอง แต่คนที่โดนกอดนี่สิ ถึงกับเริ่มควบคุมตนเองลำบาก
“ถ้าเดือนไม่ปล่อยพี่ เดือนจะต้องเสียใจนะ” ชายหนุ่มเอ็ดหญิงสาวเสียงดังอีกครั้ง
“ทำไมต้องเสียใจ ก็แค่อยากเล่นจ้ำจี้” หญิงสาวเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ตนเองกำลังพูดอยู่นั้นมันหมายถึงอะไร
“ยัง...ยังไม่หยุดอีก” คราวนี้เสียงของชายหนุ่มไม่มั่นคงแล้ว
“ก็ถ้าไม่เล่นด้วยก็ไม่ปล่อยไปหรอก” หญิงสาวยิ้มหน้าเป็นใส่เขา
“เดือน!!” ชายหนุ่มเรียกเสียงดังจนแทบจะเรียกว่าตะคอกเลยทีเดียว
“ขาาาาาา.....” หญิงสาวลากเสียงยาวล้อเลียนแบบไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด
“พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ” ภวัตควบคุมตนเองลำบากขึ้นเรื่อยๆ เพราะร่างนุ่มนิ่มยังคงกอดรัดเขาไว้ไม่ยอมปล่อยเขาออกจากอ้อมแขน ไอ้ครั้นจะผลักออกก็กลัวว่าเธอจะล้มก้นจ้ำเบ้า ก็เลยต้องกอดรัดกันอยู่อย่างนั้น จนทำให้อาวุธส่วนล่างเริ่มขยายตัวและพองคับแน่นขึ้นอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว