“เหมยลี่! เหมยลี่!” เสียงของเพื่อนสาวของเธอเรียกเธอด้วยน้ำเสียงดังพอสมควร เธอจึงหันไปมองเพื่อนสาวที่มองมายังเธอ พร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้านหน้ามีกองหนังสืออยู่หลายเล่มเพราะใกล้สอบจบมหาวิทยาลัยแล้ว
เหมยลี่คิดว่าไม่ควรเอาเรื่องคืนนั้นมาคิดในตอนนี้ เพราะไม่กี่สัปดาห์เธอจะต้องสอบแล้ว ถ้ามัวแต่คิดเรื่องนี้ แล้วเธอจะสอบได้อย่างไร
“เหมยลี่ หวังซีซีเรียกเธออยู่หลายครั้งแล้วนะ เธอไม่ตอบเราเลย มีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า” หลินเจาจวินเอ่ยถามเหมยลี่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองเหมยลี่ที่ดูกังวลในใจ แต่ไม่อยากจะบอกให้พวกเธอทั้งสองรับรู้ หวังซีซี และหลินเจาจวินพวกเธอทั้งสองเรียนคณะบริหารธุรกิจด้วยกัน และยังเป็นเพื่อนเหมยลี่ ตั้งแต่เหมยลี่เข้าเรียนปีหนึ่ง หวังซีซีเป็นลูกสาวคนเล็กของประธานบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ พ่อของเธอนั้นคือหวังอวี้ ส่วนหลินเจาจวินพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นามหลินคุน พ่อของพวกเธอทั้งสองคนเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคมอย่างมาก จึงส่งลูกสาวมาเรียนในมหาลัยที่ดีที่สุดในเซี่ยงไฮ้
“ลี่ลี่ เราสามคนมีอะไรก็ไม่เคยปิดบังกันนี่” เจาจวินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วเบิกตากว้างเหมือนคิดสิ่งใดออกมา “ลี่ลี่ หรือว่าเธอท้อง” เจาจวินเอ่ยบอกเช่นนี้ ซีซีตาโตไปด้วยคิดตามเจาจวิน
“จะบ้าเหรอ ฉันจะไปท้องกับใครได้” เหมยลี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอถอนหายใจเบาๆ ออกมา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแทบจะกลืนลงไปในคอ “ฉันป้องกันตัวเองกินยาคุมแล้วน่า” เหมยลี่เอ่ยเช่นนี้ แต่ทว่าเพื่อนเธอทั้งสองได้ยินไม่ชัด
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ” เจาจวินเอ่ยถามเหมยลี่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่มีอะไร ฉันแค่เครียดๆ เรื่องสอบน่ะ กลัวว่าอ่านไปแล้วจะไม่เข้าสมอง” เหมยลี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ เหมือนกับว่าเธอนั้นเปลี่ยนประเด็นมากกว่า
“จริงด้วยสอบปลายภาคจบ จะไปฉลองที่ไหนกันดี ฉันอยากเลี้ยงปั่นหุ้นมาได้น่ะ” เจาจวินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และดูจริงจังกว่าเรื่องที่จะสอบเสียอีก
“วันนี้เลยดีไหมเพื่อนเจาจวิน” ซีซีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดตลก
“วันนี้ฉันไปทำงานน่ะ ไปกินกันสองคนก่อนเลย” เหมยลี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“ฉันชวนไปไหนก็ไม่เคยว่างเลยนะ เลิกทำงานแบบนี้เถอะ กลับก็ดึกดื่นแทบจะไม่มีเวลากินเวลานอนเลยด้วยซ้ำพวกเราเป็นห่วงสุขภาพของเธอนะ แล้วอีกอย่างผู้ชายก็น่ากลัวด้วย ฉันไม่อยากให้เธอมีอันตราย ถ้าอยากทำงานมาทำงานที่บริษัทของฉันก็ได้ พ่อและแม่ของฉันก็เป็นห่วงเธอด้วยนะ” เจาจวินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และแฝงไปด้วยความเป็นห่วง
“หรือไม่มาทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ พอของฉันฝากให้ได้นะ” ซีซีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอบคุณนะที่ทุกคนหวังดีของฉัน ฉันจะรับความหวังดีของพวกเธอไว้ทั้งหมด อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะจบแล้ว ฉันจะไปหางานและสมัครด้วยตัวเอง จะไม่มีข้อครหาด้วย เพราะฉันไม่อยากให้คุณพ่อและคุณแม่ของพวกเธอดูไม่ดีที่ฝากฉันเข้าทำงาน ผู้คนสมัยนี้ชอบนินทา ฉันไม่อยากให้พวกท่านเป็นขี้ปากของใคร” เหมยลี่่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และจับมือเรียวของเพื่อนๆ ของเธอด้วยรอยยิ้ม
“แบบนั้นก็ได้” เจาจวินเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“แต่เรียนจบแล้วเธอต้องลาออกไปเที่ยวกับฉันก่อนนะ จะได้พักผ่อนสักเดือนหนึ่ง แล้วค่อยไปเริ่มทำงาน จะมากินอยู่ที่บ้านของฉันก็ได้” ซีซีเอ่ยบอก
“ถ้าฉันตกงาน ฉันจะให้พวกเธอเลี้ยงให้หายอยากเลย” เหมยลี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดตลก มองเพื่อนๆ ของเธอที่ห่วงใยเธอเสมอมา ถึงเธอจะมาอยู่เซี่ยงไฮ้เพียงคนเดียว แต่ว่าเธอกลับมีเพื่อนดีๆ อย่างหวังซีซี และหลินเจาจวิน อีกทั้งพ่อแม่ของพวกเธอและรักและเอ็นดูเหมยลี่เสมอเหมือนลูกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
เวลาที่เหมยลี่ไปเที่ยวกับพวกเธอ เหมยลี่ไม่เคยเลยที่จะให้เงินตัวเอง เพราะเหมยลี่ถูกพวกเธอยึดกระเป๋าตังค์และบัตรกดเงินสดไป บางครั้งเหมยลี่ก็เอาไปซ่อนไว้ เพื่อไม่ให้พวกเธอจ่ายเพียงอย่างเดียว เพราะรู้สึกเกรงใจเพื่อนๆ ที่แสนดีเช่นนี้ เหมยลี่ถือว่าเป็นบุญของเธอที่ได้ชิงทุนมาเรียนที่เซี่ยงไฮ้ และได้พบเจอเพื่อนๆ ดีๆ เช่นนี้