ตอนที่5 ยังรักเหมือนเดิม

1716 คำ
ผู้ชายตรงหน้าเก่งจริงๆ ที่ทำให้ผู้หญิงโง่คนนี้เชื่อว่าเขานั้นรักเธอจริง เป็นเธอเองที่โง่ยอมทุ่มความรักที่มีทั้งหมดให้กับเขาหมดหน้าตักโดยไม่คิดจะเผื่อใจ รักจนยอมให้เขาเป็นพ่อของลูกในท้องตอนนี้ แต่สุดท้ายก็มารู้วันนี้เขากลับไม่เคยรักเธอเลย… “ใช่ ฉันไม่เคยรักเธอเลยสักนิดเดียว จะเลิกไปตอนนี้ก็ได้นะ แต่ถ้าเธอรับได้และอยากจะรักฉันต่อก็ไม่ว่ากัน” เขาตอบอย่างเฉยชา เฉยชาเสียจนไม่มีความรู้สึกใดๆ แฝงอยู่ในน้ำเสียง นัยน์ตาสวยเต็มไปด้วยความชอกช้ำมองลึกลงไปในตาชายหนุ่ม ยิ่งเขาพ่นตอกย้ำคำพูดทำร้ายจิตใจประโยคเดิมๆ น้ำตาแห่งความปวดใจก็ไหลทะลักออกมาเหมือนทำนบแตกอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เธอสะอื้นร่ำไห้หัวไหล่สั่น มือกำที่ตรวจครรภ์แน่นขึ้นจนเส้นเลือดหลังมือปูด “ฮึกก...พี่มันเลวที่สุด ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!” “ใช่…ฉันยอมรับว่าฉันมันเลวอย่างที่เธอว่าจริงๆ นั้นแหละ งั้นเราเลิกกันเถอะกอหญ้า...” “ฮึก…” พังหมดแล้ว ยับเยินแหลกสลายจนไม่มีชิ้นดี น่าเศร้านักที่เธอดันไปรักผู้ชายเลวๆ อย่างเขาและวันนี้ในที่สุดเธอก็ตาสว่างเสียที… ในเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนและจบลงแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องรั้งมันไว้อีกต่อไป เธอฝืนกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามรวบรวมคำพูดและเอื้อนเอ่ยออกไปทีละคำราวกับคนกำลังจะขาดใจ “ได้…ที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ฉันถือว่าฉันเคยรักสัตว์ตัวนึงก็แล้วกัน และต่อจากนี้ไปก็อย่าได้เจอกันอีกเลย” ทันทีที่กล่าวจบ คนตัวเล็กก็หมุนตัวหันหลังเดินจากมาทั้งน้ำตาในทันทีพร้อมกับหอบลูกน้อยในท้องที่เขาไม่เคยรู้และจะไม่มีวันได้รู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์สายเลือดของเขาอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เธอคิดเสียว่ามันเป็นความผิดพลาดและเป็นฝันร้ายในชีวิตก็แล้วกัน ลูกของเธอไม่ควรมีพ่อเลวๆ แบบนั้น เธอควรทิ้งให้ทุกอย่างมันจบลงที่นี่พอ… ท่ามกลางความเสียใจ ทว่าลับหลังร่างหญิงสาวนั้น ชายหนุ่มที่เฝ้าไล่สายตามองเธอเดินจากเขาไปอย่างช้าๆ ในที่สุดหยาดน้ำตาลูกผู้ชายก็หลั่งร่วงลงมาอาบใบหน้าหล่อเหลาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปเช่นเดียวกัน ใบหน้าเฉยชา แววตาไร้ความรู้สึกเหมือนคนไม่มีหัวใจในทีแรกก็สั่นระริกแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ต่างจากหญิงสาวที่ต้องเจ็บปวดเพราะเขาเลยแม้แต่น้อย หัวใจชายหนุ่มเจ็บแปลบ ทรมานจนสุดที่จะทนทานเมื่อต้องมาเห็นหญิงสาวที่รักมากสะอื้นไห้เพราะเขาเป็นคนทำร้ายจิตใจเธอ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากจะทำอย่างนั้นเลยสักนิด แต่เพราะไม่มีทางเลือก เพื่อให้เธอตัดใจจากเขามันมีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น… คนตัวสูงเข่าทรุดลงนั่งที่พื้นอย่างไม่อาจยืนหยัดต่อไปได้ไหว ร้องไห้สะอึกสะอื้นรู้สึกราวกับหัวใจถูกใครสักคนบดขยี้ไม่มีชิ้นดี เจ็บปวดรวดร้าวจนแทบไม่อยากจะหายใจ เขาอยากจะขอโทษเธอเป็นร้อยเป็นพันครั้งในสิ่งที่ได้ทำและได้พูดตรงกันข้ามกับความเป็นจริงทั้งหมดออกไปแต่มันกลับทำแบบนั้นไม่ได้ นอกจากยอมปล่อยให้เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดและตัดใจจากไปทั้งที่เขาเองก็เจ็บไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าเขาจะรักเธอมากเพียงใด แต่ทุกอย่างมันล้วนมีเหตุผลของมัน… แต่ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังตกอยู่ในห้วงความโศกเศร้าเสียใจเมื่อต้องตัดใจจากคนรักทั้งที่ยังรักมาก ริมฝีปากของร่างบางซึ่งยืนอยู่ข้างกาย มองเหตุการณ์เงียบๆ ได้ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงความสะใจ หลังจากเธอสามารถทำลายความรักของคนทั้งสองลงได้สำเร็จตามแผน ….. แต่แล้วทำไมมาวันนี้ ทั้งที่เธออุตส่าห์ตัดใจและเริ่มต้นใหม่ได้มานานแล้วแท้ๆ ทำไมยังต้องวนกลับมาเจอกับเธออีกจนได้ หัวใจดวงร้อยที่เต้นแรงรู้สึกเจ็บรวดร้าวราวถูกแทงเกิดขึ้นเพราะอะไร มีเพียงชายหนุ่มตรงหน้าเท่านั้นที่รู้ดีแก่ใจ ความทรงจำในอดีตทั้งหมดกระทบถูกบาดแผลเก่าในใจของหญิงสาวอย่างแรง ยิ่งมองหน้าเขานานขึ้นเท่าไหร่ เหตุใดเธอถึงได้รู้สึกว่าฟ้ากำลังเล่นตลกกับชะตาชีวิตของเธออยู่กันนะ พรึ่บ ตึก ตึก ตึก หญิงสาวหมุนตัวหันหลัง ก้าวขาเรียวสวมรองเท้าส้นสูงวิ่งออกจากตรงนั้นทั้งน้ำตาที่ไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้ในทันที หวังต้องการหนีไปให้ไกลเขาอีกครั้ง “กอหญ้า! เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งไป กอหญ้า” ชายหนุ่มแหวกฝูงชนในบาร์ออกแรงวิ่งตามหญิงสาวออกไปเช่นกัน ด้วยความตื่นตระหนกกลัวว่าเธอจะหายไปจากชีวิตเขาอีก ทำให้รุ่นพี่ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ ถึงกับตกตะลึงซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รีบลุกออกจากโต๊ะรีบวิ่งตามออกไปด้วยอีกคน ได้โปรดอย่าหายไปอีกเลยนะกอหญ้า… หญิงสาวเร่งฝีเท้าวิ่งออกมาถึงหน้าบาร์ เธอยืนริมฟุตบาทถนนใหญ่หันซ้ายแลขวามองหารถแท็กซี่ด้วยความร้อนรนใจ แต่แล้วเหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจให้เธอหนีพ้นจากตรงนี้เมื่อมีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับผ่านมาทางนี้พอดี เห็นดังนั้นดวงตาสวยเปียกชื้นคราบน้ำตาเบิกกว้างเล็กน้อยอย่างมีความหวัง ก่อนจะรีบโบกมือเรียกให้จอดโดยทันที “จอดหน่อยค่ะ จอดหน่อยค่ะ” “ไปไหนครับ” ชายวัยกลางคนขับแท็กซี่เอ่ยถาม “ไปในเมืองค่ะ ขับไวๆ เลยนะคะ ฉันรีบ” หญิงสาวพูดกับคนขับแท็กซี่ด้วยความเร่งรีบด้วยท่าทีกระวนกระวายจนลิ้นแทบจะพันกัน ก่อนเอื้อมมือไปเปิดประตูเตรียมจะก้าวขาขึ้นรถ แต่ในขณะนั้นเองจู่ๆ ท่อนแขนเล็กของเธอกลับถูกฝ่ามือหนาของคนที่วิ่งตามเธอมาสุดกำลัง คว้าเอาไว้ได้ทันและดึงร่างเธอเข้าหาตัวสวมกอดอย่างแนบแน่นอย่างไม่ทันตั้งตัว “อ๊ะ!” หมับ! “กอหญ้าอย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลยนะ พี่จะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกแล้ว” เสียงทุ้มต่ำเจือความเจ็บปวดพึมพำเบาๆ อยู่ข้างหูสวยขณะโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น จนเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายหอมอ่อนๆ และความไออุ่นอันแสนคุ้นเคยจากตัวเขา แต่ยิ่งใกล้ชิดมากเท่าไหร่ความรวดร้าวภายในใจก็เหมือนจะเอ่อท่วมท้นมากขึ้นเท่านั้น ชวนให้นึกถึงสิ่งที่เขาเคยพูดและทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่ไยดี “ปะ ปล่อยฉันนะ! คุณเป็นใคร เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอ” ด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายกำลังเล่นงาน เธอจึงพูดจาผลักไสไล่ส่งทั้งน้ำตา พยายามดิ้นรนสุดกำลังให้หลุดออกจากพันธนาการอ้อมกอดของเขา “ไม่ปล่อย กอหญ้าได้โปรดฟังพี่ก่อน พี่ขอร้องล่ะ” “ไม่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ช่วยด้วยใครก็ได้ บอกให้ปล่อยยังไงเล่า!” เธอกรีดร้องส่งเสียงดังขอความช่วยเหลืออย่างไม่อายใคร แต่แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามต่อต้าน ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือมากสักเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์อยู่ดี เมื่อลำแขนแกร่งได้รั้งโอบกอดร่างของเธอไว้แน่นขึ้นจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก ราวกับกลัวว่าเธอจะสลายหายไป ทั้งคนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์รวมไปถึงหนุ่มรุ่นพี่ที่เพิ่งวิ่งมาถึงและชายคนขับแท็กซี่ก็ทำได้แค่มองตาปริบๆ เพราะไม่อยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของผัวแม่เท่าไหร่นัก “อย่าทำแบบนี้กับพี่ได้ไหม อย่าผลักไสพี่ไปไหนอีกเลยนะ ชีวิตพี่คงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอจริงๆ นะกอหญ้า” “ก่อนหน้านี้ก็อยู่มาได้ตั้งนาน แล้วตอนนี้คิดจะมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก ปล่อยเซ่!” เธอไม่อยากฟังคำพูดที่เชื่อไม่ได้พวกนั้นอีกต่อไป แค่ครั้งเดียวที่เขาแกล้งทำเป็นว่ารักเธอ หลอกให้เธอเป็นคนโง่งมในความรักหลอกลวงตอนนั้นก็เกินพอแล้ว “ไม่ปล่อย! หัวเด็ดตีนขาดยังไงพี่ก็จะไม่ปล่อยจนกว่าเธอจะยอมฟังพี่พูด” ชายหนุ่มยังโอบกอดเธอไว้แน่นทั้งยื่นคำขาดอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ที่จะไม่พลาดโอกาสให้เธอจากเขาไปอีกเป็นครั้งที่สอง “ไม่ปล่อยใช่ไหม ได้!” หญิงสาวที่ต้องการหลุดออกจากพันธนาการของชายหนุ่มให้เร็วที่สุด เธอจึงต้องฝืนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกำหมัดแน่น ยกกำปั้นทุบตีหน้าอกแกร่งของเขาอย่างแรงไปหลายที ปึก! ปึก! ปึก! “โอ๊ย!” ชายหนุ่มที่ทนความเจ็บจากกำปั้นหนักของหญิงสาวไม่ไหวท้ายที่สุดเขาก็ต้องยอมคลายลำแขนแกร่งออกจากร่างเธอชั่วคราว ทว่าทันทีที่หญิงสาวหลุดจากพันธนาการอ้อมกอดชายหนุ่มได้สำเร็จ มือบางก็เหวี่ยงฝ่ามือเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มแรงจนเธอรู้สึกเจ็บชาไปทั้งมือ แต่เพื่อเป็นการเรียกสติของเขาให้หยุดฟุ้งซ่าน ตบครั้งนี้มันก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับเธอแล้ว เพี๊ยะ! เสียงผิวเนื้อกระทบกันดังจนได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนโดยรอบและภาคินหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งยืนมองเห็นเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ก็ถึงกับหยุดชะงัก เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงไปชั่วขณะตามๆ กัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม