ตอนที่6 มันจบไปตั้งนานแล้ว

1920 คำ
ใบหน้าหล่อคมเข้มหันไปตามแรงกระแทกจนร่างเขาซวนเซก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย ท่ามกลางสายตาของหลายๆ คน แม้แต่รุ่นพี่อย่างภาคินเองก็ยังคงยืนตกตะลึงกับฉากนี้ไม่หาย ถึงเขาจะยังไม่รู้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่การกระทำของรุ่นน้องเมื่อครู่นี้ก็พอจะคาดเดาได้ว่าต้องเป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับคนทั้งสองอย่างแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นรุ่นน้องอย่างองศาก็คงไม่มีท่าทีทำอะไรหุนหันพลันเเล่น วิ่งตามหญิงสาวคนนั้นออกมาอย่างไม่คิดชีวิตแบบนี้แน่นอน เว้นเสียแต่ว่าเธอคนนั้นคือผู้หญิงที่เขากำลังตามหา… “หยุดบ้าได้แล้วยัง” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างเหลืออด “อึก…” เมื่อชายหนุ่มได้ยินน้ำเสียงและเห็นแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ็บแค้นหัวใจที่มีต่อเขาแล้ว น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยมีใครได้เห็นง่ายๆ ก็หลั่งไหลลงมาอาบใบหน้าเขาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป “กอหญ้าพี่ขอโทษ หลายปีมานี้พี่พยายามตามหาตัวเธอมาตลอดเลยนะ พี่อยากจะอธิบายความจริงในความผิดพลาดที่พี่ได้ทำผิดต่อเธอเอาไว้…” เพี๊ยะ! ยังไม่ทันให้ชายหนุ่มได้พูดจบประโยค ฝ่ามือบางของหญิงสาวก็ฝาดตบเข้ามาที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้งอย่างไม่ออมแรงทั้งน้ำตา บ่งบอกว่าเธอกำลังรู้สึกโกรธแค้นเคืองเขามากแค่ไหนและไม่สามารถทนเห็น ทนฟังเขาพูดเเก้ตัวที่ดูลวงโลกเหล่านั้นได้ เป็นอีกครั้งที่ใบหน้าหล่อคมเข้มหันไปตามแรงตบเมื่อครู่รู้สึกชาไปชั่วขณะ แต่เขาก็ไม่นึกโทษที่หญิงสาวทำร้ายเลยแม้แต่น้อย กลับกันเขากลับนึกโทษตัวเองเสียมากกว่าที่ทำให้เธอต้องเจ็บช้ำจนกลายเป็นความเกลียดชังไปแล้ว คนอย่างเขามันก็สมควรโดนแล้วที่จะโดนแบบนี้ “…” “หยุดพูดสักทีเถอะ เราไม่เคยรู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ทำแบบนี้ยังต้องการจะเอาอะไรจากฉันอีก” “ฮึก กอหญ้าให้โอกาสให้พี่ได้อธิบายได้ไหม พี่ทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าเธอจะหนีพี่ไปอีกในเมื่อเราได้กลับมาเจอกันแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น ยิ่งทำให้คนที่ได้ยินแล้วรู้สึกเกิดความสงสารจับใจ แต่มันคงใช้ไม่ได้กับหญิงสาวเพียงคนเดียว “พี่เลิกสร้างเรื่องสักที ฉันไม่อินหรอกนะ เรื่องของเรามันจบไปนานแล้วจะให้คุยกันอีก หยุดมาวุ่นวายกับฉันได้แล้ว หรือที่ผ่านมาตอนนั้นพี่ยังเล่นสนุกกับหัวใจของฉันยังไม่พอใช่ไหม!” ทุกคำพูดผลักไสไล่ส่งอย่างไร้เยื่อใยของหญิงสาวราวกับมีดอันแหลมคมกรีดลึกลงมากลางใจชายหนุ่มอย่างแรง จนกลายเป็นแผลลึกซ้ำเติมแผลเก่าที่ยังไม่หายดี ความรู้สึกผิดที่ฝังอยู่ใจมานานเป็นสิ่งที่ไม่อาจขจัดได้ง่ายๆ แต่หลายปีมานี้ตัวเขาเองก็ต้องทนทุกข์ทรมานใจไม่ต่างกับเธอเลยเหมือนกัน “จะทุบตีหรือจะต่อว่าพี่ยังไงก็ได้พี่ยอมทั้งนั้น แต่ขอโอกาสให้ฟังพี่อธิบายหน่อยได้มั้ย ทุกอย่างที่พี่ทำไปตอนนั้นมันมีเหตุผลนะ จริงๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอแบบนั้นเลย ได้โปรดเชื่อพี่สักครั้งได้ไหมกอหญ้า” “ไม่เชื่อ! ยังไงก็จะไม่มีวันเชื่อ ฉันโง่หลงเชื่อพี่มามากพอสมควร แล้วอีกอย่างเรื่องพวกนั้นมันเป็นอดีตมาตั้งนานแล้วจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีกให้ได้อะไรขึ้นมา ทางที่ดีต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะอย่ามาระรานกันอีกเลย” เธอเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธเคืองและเสียใจ ดวงตาสวยแฝงความเกลียดชังจนแดงก่ำจ้องหน้าชายหนุ่มทั้งน้ำตาหลั่งที่ออกมาอาบแก้มอย่างไม่มีอะไรจะพูดอีก ก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้เขาอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกลียดที่สุดในชีวิต เตรียมเปิดประตูขึ้นรถแท็กซี่ที่ยังคงจอดรออยู่หวังจะจากไป แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ยอมให้เธอหนีไปจากเขาง่ายๆ เช่นเดียวกัน พรึ่บ “อ๊ะ!” ลำแขนแกร่งสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลังไว้แนบแน่นอีกครั้ง คิดในใจอย่างแน่วแน่ว่าอุตส่าห์ได้เจอกันแล้วไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง “กอหญ้าจะเกลียดพี่ยังไงก็ได้ แต่พี่ขอโอกาสอธิบายแค่ครั้งเดียวเถอะนะ ครั้งเดียวก็พอ หยุดฟังพี่ก่อนได้โปรด” เสียงสะอื้นแทรกอยู่ในทุกคำพูดของเขา แต่เธอกลับส่ายหน้าช้าๆ แววตาผิดหวังและรังเกียจ “ทำอะไรของพี่อีก ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยนะ!” “ไม่ปล่อย ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องพี่ปล่อยเธอไปไม่ได้จริงๆ” “ไม่ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ฉันจะกลับบ้าน!” ทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อีกคนผลักไสแต่อีกคนกลับต้องการ จนรุ่นพี่อย่างภาคินที่มองเหตุการณ์เต็มไปด้วยสับสนกับความสัมพันธ์ของสองคนนั้น เพื่อช่วยรุ่นน้องเขาจึงต้องทำตีเนียนอย่างรู้งาน ส่งสัญญาณมือบอกคนขับแท็กซี่ขับออกไปไม่ต้องรอ เห็นดังนั้นคนขับรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่นานก็เหยียบคันเร่งรถขับออกไปในที่สุด โดยไม่อยากเสียเวลารอคู่รักเคลียร์ใจกันจนพลาดลูกค้าคนอื่นๆ ที่รอใช้บริการอีก แต่ทว่าหญิงสาวถึงกับเบิกตากว้าง ใจหายวาบรีบตะโกนเรียกรถให้วนกลับมารับเธอก่อน “เดี๋ยวสิ แท็กซี่รอด้วยค่ะ อย่าเพิ่งไป แท็กซี่!!” แต่ท้ายที่สุด ไม่ว่าหญิงสาวจะพยายามตะโกนเรียกแค่ไหนรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ยังขับเคลื่อนจากไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจอด เธอจึงทำได้เพียงไล่สายตามองตามท้ายรถด้วยความสิ้นหวังกับชะตาที่กำลังเล่นตลกกับตัวเองยิ่งนัก อยากหนีหายไปให้ไกลจากผู้ชายคนนี้แต่เธอกลับหนีเขาไม่พ้นเสียที “ได้โปรดนะกอหญ้า ฟังพี่พูดความจริงในใจสักนิดเถอะนะ พี่ขอร้องล่ะ” ท่ามกลางเสียงสะอื้นชายหนุ่มยังคงไม่ล้มเลิกความพยายามเอ่ยปากขอร้องอ้อนวอนหญิงสาวทั้งน้ำตา หวังว่าเธอจะยอมใจอ่อนฟังสิ่งที่เขาจะพูดอธิบายทุกอย่างของเรื่องทั้งหมดที่ผิดพลาดให้เธอได้เข้าใจ หญิงสาวที่รู้สึกหมดหวังในทุกสิ่งเห็นว่าชายหนุ่มยังไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ เพื่อให้หลุดพ้นจากตรงนี้ เธอก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ฝืนจำยอมใจอ่อนอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ปล่อยตัวฉันได้แล้ว มีอะไรจะพูดก็พูดมา แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะรับฟัง” น้ำเสียงของเธอเย็นชาและแข็งกระด้าง “ถ้าพี่ปล่อย เธอจะไม่หนีพี่ไปไหนอีกใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างหวั่นใจกลัวว่าหญิงสาวจะหนีไปอีก “อืม…” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตอบรับและไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืน เขาจึงยอมคลายอ้อมกอดปล่อยตัวเธอจากร่างกำยำของเขาให้เป็นอิสระอย่างว่าง่ายตามคำขอร้องที่เธอต้องการแต่โดยดี หลังจากเป็นอิสระ ร่างบางจึงหมุนตัวหันกลับมาประจันหน้ากับร่างสูงอีกครั้ง แต่แววตาที่เธอมองเขาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเย็นชาไร้ซึ่งเยื่อใยที่เคยมีต่อกันเลยสักนิด แม้แต่น้ำตาของลูกผู้ชายที่ไหลพรั่งพรูออกมาก็ไม่ได้ช่วยทำให้หญิงสาวใจอ่อนเลย จนการไม่แยแสสนใจของเธอเช่นนั้นเหมือนคมมีดนับพันนับหมื่นเล่มกรดลงกลางใจชายหนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า “กอหญ้าที่ผ่านมาพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจเธอเลยจริงๆ ผู้หญิงคนเดียวที่พี่รักคือเธอคนเดียวมาตลอดจนถึงตอนนี้พี่ก็รักได้แค่เธอ แต่ทุกอย่างในตอนนั้นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดและมีเหตุผล พี่ไม่มีทางเลือกเพราะพี่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า...” “แล้วมันยังไงเหรอ เรื่องของพี่มันเกี่ยวข้องกับฉันยังไง ที่ผ่านมาพี่ยังทำฉันเจ็บไม่พออีกเหรอ คราวนี้จะหลอกลวงอะไรฉันอีกดีล่ะ รู้มั้ยว่าฉันที่ผ่านมาฉันเกือบจะลืมพี่ได้สนิทแล้ว จะมาพูดอธิบายความจริงอะไรตอนนี้ให้ได้อะไรขึ้นมา มันสายเกินไปแล้วและไม่สามารถซ่อมความรู้สึกของฉันที่มีต่อพี่ให้เป็นเหมือนเดิมได้หรอกนะ…เลิกพยายามเถอะตอนนี้พี่ก็มีครอบครัวอยู่แล้ว อย่างที่ฉันบอกว่าระหว่างเราควรจะต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด คงเข้าใจนะ” “ไม่ไป พี่ไม่ได้รักลิตาเลยนะ พี่ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ หลายปีมานี้พี่พยายามตามหาแต่เธอคนเดียว พี่รักเธอนะกอหญ้า” “ไม่เข้าใจคำว่าสายเกินไปเหรอ ที่พี่จะมาพูดแก้ตัวเอาตอนนี้ …ฉันก็ไม่ได้รักพี่แล้ว เราจบกันแค่นี้เถอะนะ กลับไปหาภรรยาที่รักและกลับไปใช้ชีวิตของพี่เหมือนเดิมเถอะ” “...” “วันนี้คิดเสียว่าเราแค่บังเอิญผ่านมาเจอกันและก็จากไป เดินหน้าต่อตามเส้นทางของตัวเองแค่นั้น อย่างมาวุ่นวายกันอีก จิ๊กซอว์ที่มันเคยผุพังไปแล้วจะเอามาต่อให้กลับเป็นเหมือนเดิมคงจะไม่ได้…” ทุกคำพูดผลักไสของหญิงสาวราวกับคมมีดอย่างไม่ต้องการรับรู้คำอธิบายอะไรอีก ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเหมือนจะเจ็บปวดแทบขาดใจตายไปเสียตรงนั้น หัวใจบีบแน่นเข้าหากันจนเขาแทบรับไม่ไหวเหมือนจะล้มทั้งยืน ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายทั้งเป็นเลยสักนิด แต่เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาจะดึงหัวใจเธอกลับมาหาเขาให้ได้ “ให้พี่ได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดสักครั้งไม่ได้เหรอ ครั้งนี้พี่สัญญาว่าจะทำให้ทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม และจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกเป็นอันขาด พี่สัญญาจะให้พี่ไปสาบานที่วัดไหน ที่ไหนก็ได้ พี่ยอมทั้งนั้น” น้ำเสียงอ้อนวอนของเขาระคนความเจ็บปวด ขอให้เธอกลับมาคืนดี ขอความเห็นใจให้เขาได้ลองพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แต่หญิงสาวกลับส่ายหน้าเบาๆ ดวงตาของเธอยังคงเฉยชาไร้ความรู้สึกเพราะกว่าที่เธอจะเข้มแข็งได้ขนาดนี้จะยอมให้เขาเข้ามาทำร้ายหัวใจเธอให้แตกสลายอีกครั้งง่ายๆ ได้ยังไงกัน “ที่ฉันพูดไปทั้งหมดพี่ควรจะเข้าใจได้แล้วนะ หรือว่าพี่แกล้งโง่กันแน่ ฟังให้ดีๆ ว่าฉันไม่ต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับคนอย่างพี่อีก เข้าใจแล้วยัง หนังสือเล่มเก่าก็คงจะมีตอนจบที่เหมือนเดิม เรื่องของเรามันจบไปแล้วและไม่มีทางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรอก จำเอาไว้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม