คีรินทรเดินขึ้นมาบนชั้นสอง เขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของใบบุรินและเคาะประตู จากนั้นจึงลองหมุนลูกบิดแต่ปรากฏว่าหญิงสาวล็อกห้องจากด้านใน
"ใบ เปิดประตูให้หน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงราวกับออกคำสั่ง
ใบบุรินนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงนอน เธอกำลังสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และยังไม่อยากสู้หน้ากับคีรินทรตอนนี้
แต่ดูเหมือนคนเอาแต่ใจจะไม่ยอมง่ายๆเพราะเขาเคาะประตูห้องนอนของเธออีกครั้ง คีรินทรไม่กลัวว่าบิดาจะจับได้เลยไหมแต่น้อย
"ใบ ฉันบอกให้เปิดประตู ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ ไม่ได้ยินหรือยังไง?" ชายหนุ่มพูดเสียงจริงจังมากขึ้น
ใบบุรินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอเกรงว่าคุณคีรีจะได้ยิน จึงจำใจลุกจากเตียงนอนและเดินมาเปิดประตูให้ชายหนุ่ม
"คุณคีมีธุระอะไรอีกคะ ใบจะรีบแต่งตัวไปมหาวิทยาลัย" เธอเปิดบานประตูแง้มออกเล็กน้อยเท่านั้น แต่คีรินทรกลับผลักบานประตูเปิดเข้าไป
ร่างสูงแทรกกายเดินเข้าไปในห้องนอนของหญิงสาว จากนั้นจึงรีบปิดประตูไว้เพราะเกรงว่าจะมีคนเดินมาเห็น ใบบุรินรีบก้าวถอยหลังให้ห่างออกจากคนตัวโต
"เธอตั้งใจหนีหน้าฉันมากกว่า"
"ใบเปล่านะคะ ใบแค่เหนื่อย"
"ถ้าเธอบริสุทธิ์ใจไม่ได้จะหนีหน้าฉัน งั้นเธอต้องไปบอกคุณพ่อตอนนี้เลยว่าเธอจะไม่ไปฝึกงานกับคาลล์แต่จะมาเป็นเลขาของฉัน"
คีรินทรไม่เพียงแค่ออกคำสั่ง ตอนนี้เขากำลังบังคับขู่เข็ญ ใบบุรินยิ่งรู้สึกเจ็บช้ำใจเธอกล่าวโทษความผิดพลาดของตนเอง จึงทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้
"แต่ใบขอไปฝึกงานกับคุณคาลล์แค่สามเดือนเองนะคะ หลังจากนั้นใบก็จะกลับมาเป็นเลขาของคุณคีตามที่บอกไว้" เธอยืนยันคำเดิม คีรินทรจึงแค่นหัวเราะ ขณะที่สายตาจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความผิดหวัง
"เธอไม่กลัวว่าฉันจะเอาเรื่องของเราไปบอกคุณพ่อเหรอ?"
"ใบไม่รู้หรอกค่ะว่าใบกลัวหรือเปล่า คุณคีก็ลองไปบอกคุณพ่อดูสิคะ จะได้รู้ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อไป"
เธอคิดอะไรไม่ออกจึงตอบไปเช่นนั้น แม้ความจริงจะหวาดกลัวมากเหลือเกินที่คุณคีรีจะรู้เรื่อง หญิงสาวไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณของตนต้องผิดหวัง
"กล้าขู่ฉันเหรอ?"
"ใบไม่กล้าขู่หรอกค่ะ ใบก็แค่พูดไปอย่างนั้น ใบขอร้องนะคะ คุณคีอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณพ่อเลยนะคะ สิ่งที่ใบจะเสียใจมากกว่าเรื่องที่เราทำลงไปเมื่อคืนก็คือการทำให้คุณพ่อผิดหวังในตัวใบ"
"เรื่องง่ายแค่นี้เอง ถ้าไม่อยากให้คุณพ่อผิดหวังเธอก็แค่มาทำงานกับฉัน แล้วฉันจะปิดปากเรื่องนี้ให้เงียบ"
"ใบยังไม่พร้อมค่ะ ใบยืนยันคำเดิม ใบขอไปฝึกงานกับคุณคาลล์สามเดือน หลังจากนั้นใบสัญญาว่าจะกลับมาเป็นเลขาของคุณคี แล้วก็จะยอมทำทุกอย่างตามที่คุณคีต้องการ"
เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คีรินทรจึงแค่หัวเราะอีกครั้ง
"ก็ได้ ในเมื่อเธอยืนยันที่จะไปทำงานกับคาลล์สามเดือนก็ได้" ชายหนุ่มพูดจบแล้วจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนของใบบุรินไปทันที เธอแปลกใจที่เขายอมเรื่องนี้เสียง่ายๆ
คีรินทรเดินกลับลงมายังชั้นล่าง จึงเห็นว่าบิดายังคงนั่งอ่านข่าวอยู่เช่นเดิม ร่างสูงเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาใกล้บิดา
"คุณพ่อครับ บ้านนี้ยังมีห้องว่างสำหรับผมอยู่หรือเปล่าครับ พอดีว่าผมให้ช่างเข้าไปทาสีคอนโดใหม่ก็เลยไม่อยากนอนดมกลิ่นสี เลยว่าจะมาขอนอนที่บ้านก่อนสักพักใหญ่ๆ น่ะครับ"
คีรินทรเอ่ยขอบิดา ในเมื่อใบบุรินเลือกที่จะไปทำงานกับคาลล์ ชายหนุ่มก็เลือกที่จะย้ายกลับเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เพื่อที่หญิงสาวจะได้เห็นหน้าเขาทุกวัน
"มีสิ ก็ห้องนอนเก่าของกรณ์ไง แม่บ้านทำความสะอาดให้เป็นประจำอยู่แล้ว ย้ายเข้าอยู่ได้เลย"
คุณคีรีบอกขณะที่ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ตโฟน ท่านแหงนหน้าขึ้นมามองบุตรชายด้วยความแปลกใจ
เพราะก่อนจะกลับมาอยู่ไทยชายหนุ่มยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ยอมย้ายเข้ามาพักในบ้าน แต่ตอนนี้กลับเป็นคนขอกลับมาอยู่เสียเองแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม
"ขอบคุณครับคุณพ่อ ผมเข้ามานอนที่นี่คืนนี้เลยนะครับ"
"ตามสบาย ลืมไปแล้วเหรอว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านแก สุดท้ายแล้วแกก็ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เหมือนเดิมแล้วแกจะขอพ่อทำไม"
"ก็ตอนนี้ยังเป็นบ้านคุณพ่ออยู่นี่ครับ งั้นผมขอไปทานมื้อเช้าก่อนนะครับ"
"ไม่รอหนูใบลงมาทานพร้อมกันล่ะ พ่อให้แม่บ้านจัดสำรับไว้ให้ทั้งสองในห้องอาหารให้แล้ว"
"ไม่รู้สิครับ ไม่รู้ว่าเขาจะลงมาทานด้วยหรือเปล่า แต่ว่าผมขอทานเลยดีกว่าครับ เพราะว่าตอนนี้สายมากแล้วต้องรีบเข้าบริษัท" ชายหนุ่มพูดเท่านั้นแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร
ปารีส ฝรั่งเศส
วีณากำลังเลือกซื้อน้ำหอมในร้านแบรนด์ดังแห่งหนึ่ง เธอมองเห็นน้ำหอมกลิ่นที่ตนเองต้องการจึงกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบมาดู ทว่าน้ำหอมขวดนั้นกลับมีบุรุษคนหนึ่งหยิบตัดหน้าไปเสียก่อน
และเขาก็ยังไม่สังเกตเห็นด้วยว่าวีณากำลังต้องการน้ำหอมขวดเดียวกัน หนุ่มฝรั่งตัวสูงกำลังจ้องมองขวดน้ำหอมในมือ
"เอ่อ..." วีณาอ้ำอึ้ง เธอไม่สามารถละสายตาจากชายหนุ่มที่กำลังเพ่งพิจารณาขวดน้ำหอมว่าเขาจะซื้อดีหรือไม่ หากอีกฝ่ายวางลงที่เดิมตนก็จะได้เป็นคนซื้อน้ำหอมขวดนี้เอง
แต่คาลล์กลับหันมาเห็นว่าวีณากำลังจ้องมองขวดน้ำหอมในมือของตน เขายิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยเป็นชาวเอเชีย
"คุณกำลังจะซื้อน้ำหอมขวดนี้อยู่หรือเปล่าครับ?" เขาถามขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ
"ใช่ค่ะ แต่ถ้าคุณจะซื้อขวดนี้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ฉันซื้อกลิ่นอื่นแทนก็ได้" วีณาตอบด้วยความเขินอาย เพราะน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นสำหรับผู้ชาย เธอจึงยอมเสียสละให้หากชายหนุ่มต้องการจะซื้อ
"ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณตั้งใจจะซื้อน้ำหอมขวดนี้ไปฝากคนอื่น เพราะฉะนั้นคุณควรที่จะเอาไปเถอะครับ" วีณารับเอาขวดน้ำหอมมาจากมือของคาลล์
เธอเอาแต่จ้องมองดวงตาเป็นประกายของเขา ใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับหนุ่มตะวันตก จมูกโด่งคมเป็นสัน ดวงตาเป็นประกายสีฟ้าน้ำทะเล เรือนผมสีทองถูกจัดทรงขึ้นเป็นระเบียบ รูปร่างสูงกำยำราวหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร วีณาแทบลืมกะพริบตา
"คุณครับ.."
"เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณนะคะ พอดีว่าฉันกำลังจะซื้อน้ำหอมขวดนี้ไปฝากเพื่อน"
"ครับ ว่าแต่คุณเป็นคนที่ไหนเหรอครับ?" คาลล์ชวนคุย
"ฉันเป็นคนไทยค่ะ" วีณาตอบด้วยรอยยิ้ม
"ผมคิดไว้แล้วเชียว ผมเองก็ทำงานที่กรุงเทพฯเหมือนกันนะครับ ผมคาลล์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
ในฐานะที่เขาเป็นนักธุรกิจที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงได้เรียนรู้วัฒนธรรมมากมายของที่นั่น และยังชื่นชอบความอัธยาศัยดีของผู้คนอีกด้วย
ชายหนุ่มยื่นมือมาตรงหน้าวีณาเพื่อทำความรู้จัก หญิงสาวจึงเขย่ามือเขาเพื่อเป็นการทักทาย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อได้สัมผัสมือนุ่มของชายหนุ่มเสียจนลืมแนะนำตัว
"เอ่อ...แล้วคุณชื่ออะไรครับ?"
"อ้อ ชื่อ...ชื่อวีณาค่ะ ขอโทษค่ะที่ลืมบอกชื่อ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะคุณคาลล์" เธอยิ้มเจื่อน รู้สึกแปลกใจที่ตนเสียอาการจนทำตัวไม่ถูกเช่นนี้
"ไม่เป็นไรครับคุณวีณา" จากนั้นทั้งสองคนจึงมีโอกาสได้พูดคุยและทำความรู้จักกันมากขึ้น ถึงขั้นแลกวิธีการติดต่อกันและกันไว้อีกด้วย