ตอนที่ 2
แป้งไม่ใช่เด็ก
“แล้วอะไรที่จะพิสูจน์ได้ว่า แป้งไม่ใช่เด็ก” เขาเอ่ยถาม ลูกกวางน้อยตรงหน้า ที่ยังยืนตัวลีบอยู่กลางห้อง แต่หน้าเนียนใสนั้นก็ยังเชิดและจ้องเขาตาไม่กระพริบ
“แป้งเรียนจบแล้วค่ะ”
ศรัญญาตอบ ก้มหน้าลงต่ำหลบสายตาลุ่มลึกที่จ้องมา ด้วยเริ่มจะหวั่นไหวและประหม่ากับปีศาจน้ำแข็งตรงหน้า
“และแป้งก็กำลังจะแต่งงาน”
ปากจิ้มลิ้มของเธอเริ่มจะสั่นเครือ ด้วยความรู้สึกอัดอั้นในใจยิ่ง
ใช่..เธอโตพอแล้ว และกำลังจะถูกบิดาจับคลุงถุงชนบังคับให้แต่งงานกับตระกูลศรีพิพัฒน์ เพื่อรักษาหน้าตาและผลประโยชน์ทางธุรกิจ
“งั้นเหรอครับ”
ตาคู่สีมรกตเข้มของอัครเรช ดำมืดลงอย่างเห็นได้ชัด เขารู้จักกับคนในตระกูลวิโรทัยดี ว่าตอนนี้กำลังขัดสนอย่างหนัก และเขาได้รับการเสนอเพื่อร่วมทุนธุรกิจหลายอย่างและเขาเองก็ได้ปฎิเสธไปหลายครั้ง
โครงการที่ไม่ได้ประโยชน์ เขาจะต้องไปเสียเวลาทำไม
“แป้งรู้คะว่าอย่างไรคุณเรชก็คงต้องปฎิเสธ”
ศรัญญา กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก น้ำใสเริ่มเอ่อล้นยังดวงตาคู่สวย ถึงเขาจะปฎิเสธก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับคนทำธุรกิจแบบเขาที่ล้วนต้องระวังและรอบคอบทุกอย่าง คงจะไม่ยอมเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่กำลังจะถังแตกแบบที่บ้านเธอแน่ๆ
แต่หากเจรจากับเขาสำเร็จ เธอจะเป็นอิสระ
ไม่ต้องถูกพันธนาการจากบิดาและไม่ต้องฝืนใจ แต่งงานกับลูกชายคนเล็กของตระกูลศรีพิพัฒน์
“คะ..คุณเรช ช่วยแป้งได้มั้ยคะ”
ศรัญญาเดินเข้าหาเขาอย่างช้า ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงกับพื้นกลางห้อง ตรงหน้าของปีศาจน้ำแข็ง
อัครเรช คำรามต่ำในลำคอ ขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนเด่นชัด มองร่างบอบบางที่เขาเฝ้าดมดอมทุกครั้งที่ได้เจอะเจอ และรอคอยในจังหวะและเวลาที่เหมาะสม
“พี่ไม่เห็นว่า หากร่วมพันธมิตรไปแล้วสิริวัฒนาจะได้ประโยชน์อะไร นอกจากเอาเงินไปจมเพื่อใช้หนี้ให้กับวิโรทัย”
คำตอบของเขาแม้จะจริง แต่ก็ทำให้เธอใจแป้วไม่น้อย
“ลองเสนอผลประโยชน์ที่พี่ควรจะได้หน่อยซิครับ”
เขาเอ่ยต่อ โน้มกายลงต่ำก่อนจะเอื้อมมือเชยคางมนสวยของเธอขึ้นมา สบตาที่ตอนนี้เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
ไอ้เจียง มันจงใจส่งลูกกวางน้อยมาล่อเขา
“ป๊าจะแบ่งธุรกิจส่วนนี้ให้แป้งดูแลค่ะ และผลประโยชน์หลังร่วมทุนแล้วจะเป็นของสิริวัฒนาในส่วนนี้หกสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อมีกำไร แป้งสัญญาว่าจะทำให้ได้” ศรัญญาเงยหน้าบอกเขา
“หกสิบเปอร์เซ็นต์เลยเหรอครับ”
ศรัญญาเห็นแววตาของเขาวาววับขึ้นเพียงชั่วครู่ ก่อนจะมองเธออย่างเย็นชาเช่นเดิม เหมือนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้
“ปะ..แป้งไม่อยากแต่งงาน คุณเรชช่วยแป้งได้มั้ย”
ศรัญญา เอื้อมมือกุมมือเรียวนั้นแน่น ขยับตัวเข้าชิดร่างกำยำตรงหน้า จนใบหน้าของเธอชนกับสันจมูกโด่งของเขา
“พี่ขอคิดดูก่อนนะครับ”
เขาเอ่ยเสียงราบเรียบ ลมหายใจอุ่นร้อนนั้นรดใบหน้าของเธอจนหญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วปรางแก้มเนียน
“รอยยังไม่หายอีกเหรอ”
มือเรียวสวยของอัครเรช เอื้อมลูบรอยจ้ำแดงบนเนื้อขาวตรงเนินหน้าอกที่โผล่พ้นเสื้อเชิ๊ตสีชมพู เป็นรอยที่เขาประทับไว้ตอนเจอเธอเมื่อสัปดาห์ก่อน
“อะ เดี๋ยวก็หายค่ะ” ศรัญญา ขยับตัวเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นที่กำลังจะกลับบ้านแล้วเจอเขาพอดี จึงติดรถมาด้วย เป็นครั้งแรกที่เขาจุมพิตเธออย่างแผ่วเบาและดูดเม้มบริเวณหน้าอก ก่อนจะพาไปส่งที่บ้าน
เธอจำสัมผัสวาบหวามนั้นได้ดี
คราวที่เขาประทับคว้าตัวเธอขณะกำลังจะก้าวลงจากรถแล้วประทับรอยจูบบนเรียวปากอวบอิ่ม ความรู้สึกศรัญญาในตอนนั้นคือตระหนกตกใจแต่แฝงด้วยความรัญจวนใคร่รู้ ทำให้มือไม้เธออ่อนปวกเปียกจนเขากดร่างเธอแนบกับเบาะแล้วก้มลงดูดเม้มเนินอกอวบอิ่มจนเป็นรอยจ้ำแดง
ก่อนที่เขาจะปล่อยเธอลงจากรถ แล้วขับรถออกไป
เขาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.
“หลายวันแล้วนี่ ยังไม่หายเลย”
อัครเรชเอ่ย ดึงร่างบางเข้ามาใกล้มือลูบไล้ ยังเนินอกที่มีรอยจ้ำแดงนั้นอย่างแผ่วเบา
ผิวเธอเนียนละเอียดและบอบบางง่ายกว่าที่เขาคิดไว้
“คะ...คุณเรซปล่อยแป้งก่อนค่ะ”
ศรัญญาเอ่ยเสียงกระเส่า เมื่อเขาดึงร่างเธอมานั่งบนตัก มือหนาอุ่นของเขาลูบไล้ยังผิวใต้เนื้อผ้าเบาๆ แต่ทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวเหมือนเขากำลังเอาไฟทาบไปตามตัว
“จะรีบไปไหนครับ ยังเจรจากันไม่เสร็จเลย”
ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเบาๆ ก่อนซุกหน้ายังซอกคอขาวระหงสูดดมกลิ่นหอมที่เขาคุ้นเคยอย่างหลงไหล ปลายลิ้นไล่ขบเม้มติ่งหูข้างแก้มระเรื่อเบาๆ แต่ก็ทำให้ขนอ่อนทั่วกายของศรัญญาลุกชูชัน
“คะ ..คุณเรช”
เธอกำลังอ่อนระทวยและแพ้ทางเขา เหมือนทุกครั้ง
“แป้งไม่ใช่เด็กจริงด้วยครับ”
เขาบอกเบาๆ เมื่อโอบกอดร่างนุ่มนิ่มไว้บนตัก ทำให้หญิงสาวหน้าแดงก่ำขึ้น เมื่อสัมผัสได้ว่าสองปทุมเต้าของเธอกำลังเบียดอยู่กับแผงอกแน่นเครียดของเขา และส่วนล่างที่บอบบางก็เหมือนจะถูกดุนดันจากแก่นกลางกายที่แข็งแน่นของเขา
“ปะ..แป้งกลับก่อนดีกว่าค่ะ”
ศรัญญาเบี่ยงตัว คาดว่าการเจรจากับปีศาจน้ำแข็งในวันนี้คงจะไม่สำเร็จแน่นอน แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่สนใจ มือแข็งแรงยังโอบรัดและกดบั้นท้ายเธอไว้แน่น
“ขอโทษนะครับ ที่ทำให้เป็นรอย”
ริมผีปากหนาได้รูปของเข้าก้มลงจูบ รอยจ้ำแดงบนเนินอกเหมือนปลอบประโลม แต่ศรัญญากลับรู้สึกเหมือนร่างกายเริ่มจะร้อนผ่าวอีกครั้ง
“วันนั้นที่พี่จูบบนรถ แป้งรู้สึกยังไงครับ”
เขากระซิบถามข้างหู มือลูบไล้แผ่นหลังของเธอไปมา
“มะ..ไม่รู้สึกอะไรค่ะ แป้งลืมไปแล้ว”
กวางน้อยตอบตะกุกตะกัก ก้มหน้าลงต่ำหลบลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่คลอเคลียอยู่ตรงหน้าจนเธอเริ่มประหม่าและลืมไปว่ามาทำอะไรที่นี่
“หือ จริงเหรอ”
ดวงตาคู่สีมรกตหลุบต่ำ นิ้วเรียวสวยที่เล่นเปียโนเมื่อสักครู่ ไล้ยังเรียวปากเธอเบาๆ เหมือนกำลังเล่นตัวโน๊ต
“ค่ะ..ไม่”
ไม่ทันที่ศรัญญาจะเอ่ยต่อ ริมผีปากหนาอุ่นของเขาก็ประทับบนเรียวปากงามของเธอ และบดขยี้อย่างหนักหน่วง มือของเขากดท้ายทอยเธอไว้แน่นให้เชิดขึ้น ก่อนสอดปลายลิ้นสากร้อนควานดุนดันหาความหวานจากโพลงปากนุ่มของเธอ
จูบของปีศาจน้ำแข็ง ดุดันเร่าร้อนและโหยหา
เหมือนเขาต้องการฉกชิงลมหายใจของเธอให้หมดสิ้น แต่ก็ถ่ายเทลมอุ่นร้อนจากปากเข้าผ่านยังโพลงปากของกันและกัน ดูดตวัดรัดปลายลิ้นนุ่มของเธอจนเจ็บชาไปที่โคนลิ้น
เขารู้ว่า เธอโกหกที่บอกไม่รู้สึกอะไร
เธอชอบจูบและรสสัมผัสของเขาอย่างปฎิเสธไม่ได้ มือเรียวของเธอจึงโอบรัดรอบคอเขาไว้แน่น
“อืม” อัครเรชคำรามต่ำในลำคอกับกริยาของเธอ
************************