Chapter 4
เรียกฉันว่าเฮีย...
@คอนโดณิชา
“เฮ้อ...” แพรดาวถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย เมื่อรถสปอร์ตจอดนิ่งสนิทที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง หญิงสาวนั่งนิ่งไม่ขยับตัวลงจากรถ ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งไปมาด้วยความหงุดหงิดใจที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากทำตามคำสั่งคนร้ายกาจอย่างเขา เธอได้แต่ทำปากขมุบขมิบบ่นเขาอยู่ภายในใจ ‘ทำไมต้องมายุ่งเรื่องการแต่งตัวของเราด้วยเนี่ย น่าเบื่อชะมัด’
“จะตายให้ได้เลยหรือไง? กับการที่ต้องแต่งตัวให้ถูกระเบียบเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาน่ะ” ปากหยักเอ่ยพูดประชดประชันคนตัวเล็ก เมื่อเขาเห็นใบหน้าสะสวยเอาแต่ทำหน้าบูดบึ้งบอกบุญไม่รับ
“ชิ! แล้วแบบนี้มันผิดระเบียบตรงไหนเนี่ย?” แพรดาวยู่ปากบ่นเบาๆ แต่มันก็ทำให้คนตัวโตได้ยิน และยังไม่ทันที่รันเวย์จะได้เอ่ยตอบกลับอะไรไป ก็มีคนมาเคาะกระจกรถทางฝั่งที่เขานั่งเสียก่อน
ก๊อก~ ก๊อก~
ครืดดดด เสียงเลื่อนกระจกรถลง..
“ทำอะไรอยู่เนี่ยเวย์ ไม่ลงจากรถสักที อะ! นี่กระโปรงพลีตยาวตามที่นายสั่งไว้” ถึงณิชาจะเอ่ยพูดกับรันเวย์ แต่สายตาของเธอก็จับจ้องไปยังหญิงสาวที่นั่งมากับเพื่อนของเธอไม่วางตา พลางได้แต่คิดว่าหญิงสาวคนนี้สวยเซ็กซี่มากจริงๆ ผิวพรรณก็ขาวราวกับน้ำนม ไหนจะใบหน้าที่สวยราวกับดารา…ไม่สิๆ เธอสวยยิ่งกว่าดาราบางคนซะอีก
“มองอะไรวะณิชา” รันเวย์เอ่ยถามณิชา เมื่อเห็นณิชามองแพรดาวราวกับถูกมนตร์สะกด
“น้องคนสวยคนนี้ใช่ไหมที่เป็นน้องสาวของนาย…” ณิชายังคงมองแพรดาวอย่างหลงใหล เพราะขนาดว่าณิชาเป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอยังไม่อาจละสายตาจากหญิงสาวคนนี้ได้เลย มิน่าล่ะ! ทำไมรันเวย์ถึงได้หวงหญิงสาวคนนี้ออกหน้าออกตาแบบนี้
“น้องสาวไอ้เฟิลมันน่ะ” รันเวย์ปรายตามองแพรดาวเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบณิชาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ชิ!”แพรดาวจิ๊ปากขึ้นทันที เพราะเธอคิดว่ารันเวย์คงไม่ชอบเธอนัก ถึงได้บอกปัดเพื่อนของเขาว่าเธอเป็นน้องสาวของไรเฟิลเพียงคนเดียว
“สวัสดีค่ะ พี่ณิชา” แพรดาวยกมือไหว้ทักทายณิชา
“สวัสดีจ้ะคนสวย หน้าบึ้งเชียว คงโดนเพื่อนพี่แกล้งล่ะสินะ?” ณิชาเอ่ยทักทายแพรดาวอย่างเป็นกันเอง
“...” แพรดาวพยักหน้าหงึกๆ เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าสิ่งที่ณิชาพูดมานั้น ถูกต้องแล้ว
“นายนี่น้ารันเวย์ ทำไมถึงแกล้งน้องได้ลงคอ น้องแพรดาวออกจะน่าทะนุถนอม” ณิชาต่อว่ารันเวย์ไม่จริงจังมากนัก เพราะถ้าจะให้เธอเดาที่รันเวย์ทำแบบนี้คงเป็นเพราะหวงหญิงสาวคนนี้มากแน่ๆ ถึงได้หาวิธีอยู่ใกล้แบบนี้ เพราะปกติมีแต่ผู้หญิงเข้าหาเขา แต่นี่เขาเป็นคนเข้าหาหญิงสาวคนนี้เอง นั่นมันก็แสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงคนนี้คงต้องมีอะไรพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นแน่นอน
“หึ...”
“แล้วเนี่ยจะให้น้องขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงบนห้องของฉันก่อนไหม?” ณิชาเอ่ยถาม พร้อมกับล้วงหยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าให้รันเวย์ เพราะเธอต้องรีบเดินทางไปมหาลัยก่อน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง ขอบใจเธอมากนะณิชา”
“โอเค...งั้น...ฉันไปมหาลัยละนะ ไอ้บ้าเฟิลเป็นอะไรของมันก็ไม่รู้ โทรมาตามฉันยิกๆ เลย” ณิชาเอ่ยบ่นให้รันเวย์ฟังที่ไรเฟิลโทรตามเธอตั้งแต่เช้าตรู่...
“มันคงคิดถึงเธอละมั้ง...” รันเวย์ยกยิ้มมุมปากตอบณิชา
“เฮ้อ…ฉันล่ะเบื่อพวกนายสองคนจริงๆ งั้น...เจอกันที่มหาลัยนะ”
“อืม”
“อ้าว แล้วฉันจะไปเปลี่ยนกระโปรงที่ไหนล่ะ พี่ณิชาก็ไปแล้ว” แพรดาวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นณิชาเดินออกไป
“ฉัน?” ปากหยักทวนสรรพนามที่แพรดาวใช้แทนเรียกตัวเองกับเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน และจ้องเธอด้วยสายตาไม่พอใจ
“ละ...แล้ว แพรจะไปเปลี่ยนกระโปรงที่ไหนล่ะพี่เวย์...” เมื่อแพรดาวเห็นสายตาคมดุมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ เธอก็รีบเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองทันที
“ไหนลองแทนตัวเองว่าหนู แล้วเรียกฉันว่าเฮียซิ!” รันเวย์จ้องมองใบหน้าสะสวยให้เธอพูดตามคำพูดของเขา
“เฮ้อ...เรื่องมาก” แพรดาวเอ่ยพูดขึ้นมาลอยๆ ตามที่ใจเธอคิด
“แพรดาว...” รันเวย์เอ่ยเรียกชื่อแพรดาวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“แล้วจะให้หนูเปลี่ยนกระโปรงที่ไหนล่ะคะ...เฮียเวย์ขา...” แพรดาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชด และได้แต่คิดในใจว่าเธอต้องอดทนไว้ เพราะถ้าขืนต่อต้านเขาไปตอนนี้ก็มีแต่จะพ่ายแพ้ต่อผู้ชายร้ายกาจอย่างเขาอยู่ดี
“เปลี่ยนในรถไง” รันเวย์พูดหน้าตาเฉย
“ฮะ! จะให้หนูเปลี่ยนในรถเนี่ยนะ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ “ถ้าจะให้หนูเปลี่ยนในรถ หนูไม่เปลี่ยน!” แพรดาวยืนยันเสียงแข็ง จะให้เธอถอดเปลี่ยนอยู่ในรถทั้งที่มีเขาอยู่ด้วยทั้งคนแบบนี้ เธอไม่เอาด้วยหรอก
“คิดดีๆ นะแพรดาว ก่อนจะพูดคำนี้ออกมา”
“ขืนหนูเปลี่ยนในรถ เฮียก็ได้แอบมองหนูน่ะสิ!” แพรดาวกอดอกอย่างไม่ยอมแพ้
“เธอมีอะไรให้ฉันมอง?” รันเวย์แสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะไล่สายตามองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่งราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไร
“น่ามองทุกตรงนั่นแหละ” ปากเล็กเอ่ยตอบ
“ทุกตรงเลยอย่างงั้นเหรอ?” คนตัวโตยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว และมองเธอด้วยสายตาโลมเลีย
“ฮะ...เฮียก็หันไปทางนู้นสิ หนูจะถอดกระโปรง” ริมฝีปากอวบอิ่มบุ้ยปากให้เขาหันหน้าไปอีกทาง และผลักเขาออกห่างจากเธอเบาๆ ทำไมนะทำไม? ทำไมเธอถึงเถียงคนอย่างเขาไม่เคยชนะเลย
“หึ...”
“โห...ทำไมกระโปรงมันถึงได้ยาวแบบนี้ล่ะ จิ๊!” แพรดาวจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นกระโปรงพลีตที่มีความยาวถึงข้อขาของเธอ
“รีบเปลี่ยน”
“เฮียก็ดูกระโปรงสิ ทำไมมันถึงยาวแบบนี้เนี่ย?” แพรดาวจับกระโปรงยกขึ้นและหันไปให้เขาดู
“จะเปลี่ยนเองหรือให้ฉันเปลี่ยนให้” รันเวย์จับมือบางดึงลง และเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เอาแต่มองกระโปรงด้วยสายตาไม่สบอารมณ์นัก
“เฮียก็หันไปทางอื่นสิ เล่นจ้องหนูแบบนี้ หนูไม่กล้าเปลี่ยนหรอกนะ” แพรดาวเอ่ยบอกเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นสายตาเอาจริงของเขา
และเมื่อรันเวย์หันไปทางอื่น แพรดาวก็ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยและสวมกระโปรงพลีตทับกระโปรงทรงเอรัดรูป จากนั้นหญิงสาวก็ถอดกระโปรงทรงเอออกจากเรียวขา และพับเก็บใส่ถุงอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ... ”คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดอีกครั้ง เมื่อใส่กระโปรงตัวยาวรุ่มร่ามเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“น่ารัก” รันเวย์ปรายตามองแพรดาวที่สวมกระโปรงนักศึกษาตัวใหม่ด้วยความพึงพอใจ
“น่ารักอะไรเล่า ยาวก็ยาว” หญิงสาวพูดปัดไปด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยชมเธอบ้าง
“กลัวผู้ชายไม่เห็นขาอ่อนหรือไง ถึงได้ชอบใส่แต่กระโปรงสั้นๆ นัก”
“ชิ! หมาออกมาอีกแล้ว...” แพรดาวหันหน้าหนี ก่อนจะบ่นพึมพำคนปากร้าย เพราะเขาพูดดีกับเธอยังไม่ทันไร ก็รีบปล่อยสุนัขออกจากปากซะแล้ว