บทที่ 4 เหยียนหลี

1257 คำ
บทที่ 4 เหยียนหลี ณ กระท่อมไม้หลังเล็กซ่อนตัวอยู่กลางป่าในทิศเหนือ เฟิงหลงเหยียนร่ายมนตร์อย่างแผ่วเบา อักขระวิญญาณที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นรอบบริเวณ กระจายเป็นม่านหมอกบาง ๆ ที่เปล่งพลังอ่อนโยนแต่อันตรายแก่ผู้บุกรุก ภายใต้พลังอาคมนี้ ไม่มีใครสามารถมองเห็นหรือสัมผัสกระท่อม หลังนี้ได้ ในกระท่อม เฟิงหลงเหยียนนั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้องเล็ก ๆ บรรยากาศภายในสงบเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจของเขากับเสียงกองไฟที่ลุกโชนในเตาเล็ก ๆ บนโต๊ะไม้เก่า ๆ ดอกบัวสีทองเปล่งแสงเรืองรองประหนึ่งสิ่งมีชีวิต พลังของมันแผ่ซ่านเบาบาง แต่กลับทำให้บรรยากาศรอบข้างดูบริสุทธิ์ เขามองดอกบัวอย่างครุ่นคิด ความอ่อนโยนในแสงนั้นทำให้หัวใจที่เคร่งขรึมของเขารู้สึกผ่อนคลาย “ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์บอกให้เลี้ยงเจ้า...จนกลายร่างเป็นมนุษย์” เขาพึมพำ เสียงทุ้มต่ำของเขาก้องในห้อง “แต่ข้าไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร จะเลี้ยงดูเจ้าดั่งไร้รูปร่างไปจนถึงเมื่อใด?” เขาเอื้อมมือไปสัมผัสกลีบดอกบัว กลีบนั้นนุ่มนวลอย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับตอบสนองต่อสัมผัสของเขา แสงสีทองส่องประกายสว่างวาบ ก่อนจะค่อย ๆ หรี่ลงด้วยความอบอุ่น “เจ้าจะกลายร่างเป็นมนุษย์…เจ้าก็ต้องมีชื่อ” เขาเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ สายตาเจือความอ่อนโยน “ฟางเสียนหลีคงไม่ว่าอะไร หากข้าตั้งชื่อเจ้าว่า เหยียนหลี เพราะมันคล้ายคลึงกับชื่อของนาง” ในมิติแห่งจิตวิญญาณ ดวงแสงเล็ก ๆ ซึ่งเป็นแก่นจิตของดอกบัวนิรันดร์ล่องลอยอยู่ในความเวิ้งว้าง เงียบงันมาตลอดนับพันปี แต่เมื่อเสียงของเฟิงหลงเหยียนเอ่ยชื่อ "เหยียนหลี" ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น ดวงแสงนั้นเริ่มสั่นไหว เต้นระริกด้วยความตื่นเต้น “เหยียนหลี… ชื่อของข้าหรือ?” เสียงอ่อนหวานแผ่วเบาดังขึ้นในใจของเธอเอง มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตน เธอไม่เคยมีใครมอบสิ่งใดให้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือการยอมรับ “ข้ามีชื่อ… ข้ามีตัวตนจริง ๆ แล้ว” ดวงแสงเต้นระริกแรงขึ้น แสงสีทองที่เปล่งออกมาจากดอกบัวในโลกภายนอกยิ่งทวีความสว่าง เฟิงหลงเหยียนรับรู้ได้ถึงพลังที่เชื่อมโยงกับเขา มันเต็มไปด้วยความอบอุ่นและชีวิตชีวา “ดูเหมือนเจ้าจะพอใจชื่อนี้สินะ” เขายิ้มเล็ก ๆ ขณะพูด “เหยียนหลี ข้าสัญญาว่าจะดูแลเจ้า จนกว่าเจ้าจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้สำเร็จ” เฟิงหลงเหยียนหยิบผ้าขาวสะอาดมาห่อดอกบัวไว้ ก่อนจะวางลงในกล่องหยกที่สลักอักขระคุ้มครองรอบด้าน แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าจะเลี้ยงดูเหยียนหลีอย่างไรให้สำเร็จ เขากลับมีความตั้งใจอันแรงกล้าว่าจะไม่ให้สิ่งใดมาทำร้ายนาง “เจ้าจะต้องปลอดภัย… ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเจ้า” คำพูดของเขาไม่ได้เป็นเพียงคำมั่น แต่มันสะท้อนความจริงจังที่อยู่ลึกในใจ ในมิติแห่งจิตวิญญาณ ดวงแสงเล็ก ๆ ที่เป็นจิตวิญญาณของ เหยียนหลีเต้นระริกราวกับแสงดาว นางรับรู้ได้ถึงคำสัญญาของเฟิงหลงเหยียน “เขาให้คำมั่น… ข้าจะเชื่อใจเขา” นางพึมพำในใจ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะเติบโต… ข้าจะกลายเป็นมนุษย์ให้ได้...” ดวงแสงเล็ก ๆ เริ่มส่องสว่างมากขึ้น พลังที่เปล่งออกมานั้น แผ่วเบาแต่บริสุทธิ์ เหยียนหลีเริ่มก่อรูปก่อร่างในมิติวิญญาณ แม้จะยังเลือนราง แต่ก้าวแรกของนางก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว และในโลกแห่งความเป็นจริง เฟิงหลงเหยียนนั่งเฝ้าดูดอกบัว สีทองด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เขาไม่รู้ว่าสิ่งใดรอเขาอยู่ในอนาคต แต่เขารู้เพียงอย่างเดียว…เขาจะไม่ยอมปล่อยมือจากดอกบัวดอกนี้เด็ดขาด ในวันต่อมา เฟิงหลงเหยียนนั่งอ่านตำราเก่าแก่ที่เขานำติดตัวมาจากแดนเทพเพื่อค้นหาวิธีเลี้ยงดูจิตวิญญาณให้สมบูรณ์ เขาพึมพำกับตัวเองขณะอ่านข้อความในหน้าหนึ่ง “การเลี้ยงจิตวิญญาณให้กลายร่างเป็นมนุษย์ต้องอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างผู้ดูแลกับจิตวิญญาณ…” “ความสัมพันธ์?” เขาขมวดคิ้ว “ข้าต้องสื่อสารกับเหยียนหลีอย่างนั้นหรือ?” ทันใดนั้น เสียงแผ่วเบาเหมือนสายลมดังขึ้นในหัวของเขา “เหยียนหลี…ข้าชื่อเหยียนหลี” เสียงนั้นหวานใส ราวกับกระซิบผ่านสายลม เฟิงหลงเหยียนชะงัก ดวงตาเบิกกว้างก่อนจะมองไปยังกล่องหยกที่เรืองแสงอ่อน ๆ “เจ้า?” เขาเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ “ข้าชื่อเหยียนหลี…” เสียงนั้นตอบกลับด้วยความดีใจ “ท่านมอบชื่อให้ข้า… ข้าดีใจยิ่งนัก” เฟิงหลงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนเจ้าจะเริ่มสื่อสารกับข้าได้แล้วสินะ” “ข้าจะตั้งใจ ข้าจะกลายเป็นมนุษย์ให้ได้…เพื่อทดแทนเจ้า ในที่สุดข้าก็เริ่มมีตัวตนได้เสียที” เสียงของเหยียนหลีเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น เฟิงหลงเหยียนยิ้มบาง ก่อนจะตอบกลับ “ไม่ต้องทดแทนสิ่งใด ข้าเพียงหวังว่าเจ้าจะเติบโตอย่างสมบูรณ์” คำพูดนั้นทำให้เหยียนหลีเงียบไปชั่วขณะ จิตวิญญาณของเธอรับรู้ถึงความจริงใจจากเฟิงหลงเหยียน ความอบอุ่นนั้นหลอมรวมเข้ามาในหัวใจที่เพิ่งก่อร่างของเธอ “ข้าสัญญา… ข้าจะทำให้ตัวเองคู่ควรกับชื่อที่เจ้ามอบให้ ข้าจะกลายร่างเป็นมนุษย์ให้ได้” เฟิงหลงเหยียนพยักหน้าเบา ๆ เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า "เจ้ารู้หรือไม่ ว่าความพิเศษของดอกบัวนิรันดร์คืออะไร?" เฟิงหลงเหยียนกล่าวพลางยกถ้วยชาขึ้นดื่ม "ข้าไม่รู้ แค่ข้าได้อยู่กับท่าน คงพิเศษแล้วกระมัง" คำตอบของเหยียนหลีทำให้เฟิงหลงเหยียนหัวเราะเบา ๆ "เจ้าช่างเฉลียวฉลาดจริง ๆ แต่มันยังมีความลับอีกมากมายที่เจ้าคงยังไม่รู้..." ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มหยุดชะงัก สายตาเรียวยาวของเขาจ้องไปยังหน้าต่างกระท่อม ราวกับจับสัมผัสบางอย่างที่ผิดปกติได้ พลังอาคมที่ล้อมรอบกระท่อมสั่นไหวเบา ๆ คล้ายถูกกระทบ "มีบางอย่างเกิดขึ้น" เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น มือขวาวางถ้วยชาลงอย่างนุ่มนวล แต่สายตากลับคมกริบ "ดูเหมือนว่าเราจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ" "แขก?" เหยียนหลีขมวดคิ้วเล็กน้อยอยู่ในดอกบัว สัมผัสถึงความไม่ปกติ "ท่านคิดว่าผู้ใดกล้าบุกรุกที่นี่?" "ข้าไม่แน่ใจ แต่ข้าจะไปดูให้รู้" เฟิงหลงเหยียนลุกขึ้นยืนท่าทางมั่นคง เสื้อคลุมยาวสีเข้มสะบัดเบา ๆ "เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ประเดี๋ยวข้ามา" เหยียนหลีพยักหน้าช้า ๆ อยู่ในดอกบัว ทว่าหลงเหยียนไม่อาจเห็นได้ ดวงหน้าสวยมีรอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ "อย่าห่วงข้า ท่านตามสบายเถิด แต่จงระวังตัวด้วย" "ข้ารู้ดี ขอบใจ" เฟิงหลงเหยียนตอบสั้น ๆ ก่อนจะหมุนกายออกจากกระท่อม เสียงฝีเท้าของเขาเงียบงัน ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของสายลมที่ พัดผ่าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม