ตอนที่ 13 เกิดเรื่อง

1443 คำ
พอเธอเดินมาถึงหน้าห้องคอนโด ยังไม่ทันได้เสียบคีย์การ์ดเปิดประตู เสียงมือถือก็ดังขึ้น โชว์หน้าจอสว่างวาบพร้อมกับชื่อที่เด่นชัดอยู่บนนั้น “แดดดี้” หัวใจของเธอกระตุกวูบ มือที่กำลังถือคีย์การ์ดชะงักค้างอยู่กลางอากาศ... เสียงเรียกเข้ายังคงดังไม่หยุด ราวกับเร่งเร้าให้เธอรับ “ค่ะพ่อ” เสียงทุ้มทรงอำนาจนั้นแทรกเข้ามาในโสตประสาทจนเธอต้องกลั้นหายใจไว้ชั่วขณะ “ได้เรื่องไหม?” เพียงประโยคสั้นๆ แต่กลับเต็มไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้ในตาเธอสั่นเล็กน้อย น้ำเสียงนั้น...ไม่ใช่เสียงของพ่อที่เธอคุ้นเคย ไม่ใช่คนที่เคยพูดกับเธออย่างอ่อนโยนในตอนเด็ก หรือคนที่คอยปลอบทุกครั้งที่เธอร้องไห้ แต่เป็นเสียงของ “แดดดี้” ในโหมดเจ้านาย ที่กำลังคาดคั้นลูกน้องให้รีบรายงานผลภารกิจ เธอเม้มปากแน่น พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นก่อนตอบกลับเบาๆ “หนูพึ่งถึงห้องค่ะพ่อ...กำลังจะรวบรวมข้อมูลให้” เสียงของเธอนุ่มนวล แต่ยังแฝงความตึงเครียดไว้ในนั้น “อืม...ขอบใจมากลูก” คราวนี้น้ำเสียงของเขากลับอ่อนลงทันตา ฟังดูอบอุ่นและอ่อนโยนจนน่าประหลาด ราวกับคนเมื่อครู่ที่พูดจาเย็นเฉียบไม่ใช่คนเดียวกัน “งั้นก็พักผ่อนเถอะ” เขาเสริมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย “เดี๋ยวพ่อจัดการทางนี้เอง” เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบรับเบาๆ “ค่ะ พ่อ...” แกร่ก!!! เสียงหมุนลูกบิดประตูดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำเอาหัวใจเธอกระตุกวูบ “กรี๊ดดดดดด!” เธอเผลอหลับตาปี๋ เขารีบเอามือมาปิดปากคนที่กรีดร้องออกเสียงดัง ดีนะที่เสียงกรี๊ดยังไม่เล็ดลอดออกไปมาก เขาค่อนข้างไว เพราะความเป็นมือขวาของมาเฟียที่พ่อเขาฝึกให้ตั้งแต่เด็ก แต่ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะจางหายไป เธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา...เสียงที่ทำให้ร่างทั้งร่างแข็งค้างอยู่กับที่ “ฉันเอง” ดวงตาเธอเบิกกว้าง ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่ยืนพิงประตูที่อยู่ทางด้านหลังของเธอ แสงไฟจากกลางห้องส่องเข้ามาเพียงพอให้เห็นเค้าโครงของใบหน้าคมเข้ม กับรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากของเขา “นายเข้ามาในห้องฉันได้ไง?” เสียงอู้อี้เอ่ยถามทั้งๆ ที่ยังมีมือหนาปิดปากของเธออยู่ เขาชูคีย์การ์ดที่อยู่ในมือขึ้น และยกคิ้วส่งสายตาคมไปให้เธออย่างกวนประสาท “นี่นาย!!!” เธอดิ้นหมุนตัวจะไปคว้าคีย์การ์ดที่อยู่ในมือเขาแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอเดินตรงไปทิ้งตัวที่โซฟาด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับทำหน้ามุ่ย “บอกมาว่าวันนี้ไปเดินตามไอ้ตินทำไม” “มันเรื่องของฉัน” เธอพูดพร้อมซุกมือถือเอาไว้ที่ด้านหลัง กลัวอีธานจะเปิดอ่าน และทุกอย่างที่พ่อเธอคิดจะทำมันอาจจะพัง “นายไม่ต้องมาถาม เอาคีย์การ์ดคืนมานะ” “ฉันจะคืนก็ต่อเมื่อเธอตกลงเป็นเมียฉัน” “ใครอยากเป็นเมียนาย” “ไปหาคนอื่นเถอะ...ฉันไม่อาจเอื้อม” เธอพูดอย่างกวนประสาท และใช้ใบหน้าที่เย่อหยิ่งสู้กลับ “เธอนี่มันก็กวนประสาทฉันได้ดีเหมือนกันนะ...ดีอย่างนี้ฉันชอบ” เขาพูดพร้อมเข้าไปจับปลายคางของใบหน้าสวย จนเธอต้องสะบัดหน้าหนี “เอาคีย์การ์ดฉันมานะอีธาน...นายจะเข้ามาในห้องฉันตามใจนายแบบนี้ไม่ได้” เธอเข้าไปยื้อแย่งลำแขนแกร่งดูอีกครั้ง “ฉันแก่กว่าเธอ... เธอควรเรียกฉันว่าพี่” เขาพูดพร้อมขยับตัวหนีการแย่งชิงคีย์การ์ดของเธอ ทั้งคู่พลิกตัวไปมายื้อแย่งกันอย่างกับเล่นเกมส์อะไรกันอยู่สักอย่าง “เอามานะอีธาน...” “บอกให้เรียกพี่ไง...หรือจะเรียกที่รักก็ได้นะ ฉันยอม” “หึ! ฝันไปเถอะ ประสาท” เธอทิ้งตัวลงไปกับโซฟา เพราะเริ่มเหนื่อยล้ากับคนตัวสูงร่างหนาที่เอาแต่ชูคีย์การ์ดไว้เหนือหัวจนเกิดการแย่งชิงไม่สำเร็จ “อะไร...แค่นี้ยอมแพ้แล้วเหรอ ร่างกายของเรามันยังสัมผัสกันไม่ครบทุกส่วนเลยนะที่รัก” เธอมองค้อนคนเจ้าเล่ห์ มันก็จริงที่เมื่อกี้ร่างกายของเธอมันแนบชิดติดกับตัวเขาไปหลายส่วนหนิ “เลิกเล่น...แล้วเอาคืนมาสักทีเถอะ” “ฉันไม่ได้มาเล่นๆ ฉันจะมาถามว่าเธอไปตามไอ้ตินมันทำไม ทั้งๆ ที่มีทางเดียวที่บ้านเธอจะรอด...นั่นก็คือตกลงเป็นเด็กของฉัน” “ฉันก็แค่ไปดูให้เห็นกับตาว่าพี่มาร์ตินมีแฟนแล้วจริงหรือเปล่าก็แค่นั้น” “แล้วไง? เธอเห็นอะไรบ้างล่ะ?” “ก็เห็นแล้วไงว่าเขามีแฟนแล้ว” ปิ่นมุกรีบพูดกลบเกลื่อน “ใช่เธอควรหาวิธีอื่นนะที่จะใช้หนี้” เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เธอ และถือวิสาสะ เข้าไปโอบไหล่ของเธอเอาไว้ จนเธอต้องสะบัดตัวหนี “แต่ฉันยังไม่ได้เลือกนายป่ะ...คนประสาท ถอยออกไป” “ฉันได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นแรงนะ....เบบี๋ เธอทนเสน่ห์ของฉันไม่ได้หรอก ชอบฉันก็รีบบอกมา” “นี่นาย...นายหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า?” เธอเอามือกอดอกเอาไว้แน่น กลบเกลื่อนแรงกระตุกภายในของหน้าอกที่อยู่ทางด้านซ้ายเอาไว้ ก็เพราะใจเธอตอนนี้มันเต้นแรงยิ่งกว่ากลองรัวเสียอีกหนิ “นายกลับไปได้แล้ว” “ทำไมรีบไล่จัง นี่ยังไม่ทุ่มเลยนะ” “ฉันจะอาบน้ำทำรายงานส่งอาจารย์แล้ว” “ก็ไปอาบสิ” “นายกลับไปก่อน” “ฉันอยู่ด้วยไม่ได้เหรอ? เผื่อเธออยากจะโชว์ของให้ฉันดูแบบวันนั้น” “ไอ้บ้าอีธาน” สิ่งที่เขาพูดทำให้ใบหน้าของเธอเห่อร้อนขึ้นมา จนแก้มแดงระเรื่อเหมือนมีเลือดฝาด “ฮ่าๆๆๆ” เขาหัวเราะออกมาดังลั่นกับท่าทีของเธอ “หยุดพูดถึงเรื่องนั้นได้แล้ว...กลับไป” Rrrrrr “มึงอยู่ไหนวะไอ้อีธาน?” “เอ่อ...เดี๋ยวกูไปเจอที่คลับ” เสียงมือถือจากมาร์ติน ดังขึ้นมาช่วยเธอให้ลอดพ้นจากคนจอมตื้ออย่างอีธานได้ทัน วันนี้เขาต้องเข้าไปดูความเรียบร้อยที่คลับ เลยยอมปล่อยเธอไปก่อน ไม่งั้นเขาก็ยังจะแกล้งเธอไม่เลิก เผลอๆ อาจจะดื้อขอนอนที่ห้องกับเธออีกแน่ๆ “ผมไปก่อนนะ เบบี๋ เอาไว้ผมจะมาหาใหม่” “อีธาน...แล้วคีย์การ์ดฉันล่ะ” เขาลุกเดินชูมันขึ้น และหย่อนมันลงไปที่กระเป๋ากางเกงยีนต์อย่างเย้ยหยัน “ไอ้....” “ไปก่อนนะครับคนสวย...แล้วพี่จะมาหาใหม่” เขาพูดพร้อมหมุนตัวมาส่งจูบให้เธอ เธอถอนหายใจบนโซฟาตัวยาว นี่เขาจะเข้ามาในห้องของเธอเมื่อไรก็ได้สินะ แล้วความอิสระของเธอล่ะมันอยู่ตรงไหน เธอรีบอาบน้ำทำรายงานที่จะส่งอาจารย์ให้เสร็จ แล้วรีบเข้าไปในห้องนอนปิดประตูลงกลอนไว้อย่างแน่นหนา ก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราไป 2 วันต่อมา “ไอ้สัส...มึงเอาน้องกูไปไว้ไหน” บรู๊คคู่อาริเบอร์หนึ่งของมาร์ตินยกพวกมาตามน้องสาวของเขาถึงที่คณะวิศวะในมหาลัยที่มาร์ตินเรียนอยู่ ตอนนี้ทั้งรุ่นน้อง และรุ่นพี่ต่างลุกฮือกันขึ้นพร้อมจะปะทะ เพราะมีช็อปแดงต่างสถาบันเข้ามาเยือนถึงถิ่น “อะไรของมึงไอ้สัส” อีธานรีบเข้าไปชาร์จตัวบรู๊คเอาไว้ด้วยความไวก่อนที่จะเข้ามาถึงตัวมาร์ตินพร้อมง้างหมัดกำลังจะซัดเข้าไปที่หน้าของคนที่เข้ามาหาเจ้านายน้อยของเขาโดยพลการ “ไอ้อีธาน หยุด...ฟังมันพูดก่อน” บรู๊คพยายามตั้งสติระงับความโกรธ เค้นเสียงเข้มเอ่ยถามคู่อาริที่ยืนอยู่ตรงหน้า “กูถามว่ามึงเอา อาริสน้องกูไปไว้ที่ไหน?” ก่อนหน้านี้บรู๊คโกรธน้องสาวมากที่ไปคบกับอาริของเขาอย่างมาร์ติน และพยายามห้าม แต่วันนั้นน้องสาวของเขาหายตัวไปทั้งคืน และมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนเลวที่ไม่ต่างจากเขาอย่างมาร์ติน “มึงหมายความว่าไงวะ ไอ้บรู๊ค มึงพูดมาให้ชัด” มาร์ตินใช้เสียงเข้มถามบรู๊คไปอีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม