เช้าวันต่อมา 6.30 น.
เธอตื่นขึ้นมาก่อนเวลาที่ตั้งปลุกเอาไว้ เปิดประตูห้องนอนออกมาเพื่อที่จะดูคนป่วยว่ายังหลับอยู่ดีหรือเปล่า
เธอเดินไปที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง ย่องไปดูคนป่วยที่นอนหลับพริ้ม พรางนึกถึงความรู้สึกแปลกๆ ที่มีผู้ชายเข้ามานอนอยู่ในห้องเดียวกับเธอครั้งแรก
ตอนนี้ยังพอมีเวลาที่เธอจะแต่งตัวให้เสร็จและปลุกให้เขาตื่นอาบน้ำไปมหาลัย
เธอหยิบผ้าขนหนู และรีบเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที หวังจะรีบจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนที่เขาจะตื่น
แกร่ก!
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เธอรีบออกมาหวังที่จะเข้าไปแต่งตัวด้านใน
“นะ...นาย”
เธอต้องตกใจกับผู้ชายร่างหนาที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเมื่อคืน โชว์ลอนกล้ามหนาไล้เสื้อปกปิด
“นายมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม?”
เธอพูดพร้อมกับกำชับผ้าขนหนูไว้แน่น
ร่างกายขาวเนียนที่อยู่ในชุดกระโจมอก ทำให้คนป่วยลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
สายตาคมไล่มองไปทั่วผิวขาวออร่าที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า พร้อมก้มไปดมกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำอย่างถือวิสาสะ
“นาย” เธอเอียงตัวหนี แต่เขาก็เดินก้าวเข้าไปประชิด จนทั้งเขา และตัวเธอเข้าไปอยู่ด้านในห้องน้ำพร้อมกัน
“นายจะทำอะไร...ปล่อยฉันออกไป”
เธอหลบสายตาคม ที่พยายามเชิญชวนให้หลงเสน่ห์ จนก้มต่ำหนี และดันไปเห็นจุดกลางกายของเขาที่มันกำลังตื่น จนเธอขนลุกสยิว ทั้งที่อาการแบบนี้ก็ไม่เคยเกิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน
เขาเอาหน้าอกหนา ดันตัวเธอให้ก้าวถอยหลังหนี จนก้นของเธอประชิดติดขอบอ่างล้างหน้า และดิ้นหนีไปไหนไม่ได้
“หยุดนะ!!!!”
ร่างหนายังเดินหน้าแกล้งเธอไม่หยุด เขาเอาสองมือเท้าไปที่ขอบอ่างล้างหน้า จนเธอต้องเอนตัวหนี
“บอกให้หยุดไง” เธอมองตาสู้หน้าเขาอย่างหาเรื่อง
“เธอยั่วมันให้ตื่นขนาดนี้ ไม่คิดจะทำให้มันสงบสักหน่อยเหรอ?” อีธานพูดพร้อม มองไปที่เป้ากางเกงตัวบางของตัวเอง
“นายพูดบ้าอะไรของนาย...”
เขายืนเสยผมและส่องกระจก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
“ฉันไปยั่วนายตอนไหน?”
“ก็ตอนนี้ไง”
สายตาคมยังมองสำรวจเรือนร่างของเธอไม่หยุด และใช้ใบหน้าคมเข้ามาประชิดหวังที่จะเอาปลายจมูกโด่ง แตะไปที่ใบหน้าของเธอสักส่วน
“ออกไป”
เธอเอามือบางที่มีแรงอันน้อยนิด ดันอกแกร่งเอาไว้ เพื่อรักษาระยะห่าง ไม่ให้เขารุกรานเธอไปมากกว่านี้
แต่สิ่งที่มันน่าอายก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะผ้าขนหนูผืนหนาที่กระโจมรอบอกที่อวบอิ่มของเธอมันดันหลุด จนเห็นจุกของเต้าอวบเกินกว่าครึ่ง
“ว๊ายยย!!!!!” เธอหวีดร้องด้วยความตกใจ และพยายามคว้าผ้าขนหนูเอาไว้ และมัดมันเอาไว้แน่น
แต่ก็ไม่ทันสายตาคมที่ยืนประชิด
เธออายหน้าแดง ใบหน้าร้อนผ่าว จนต้องหันหน้าเข้ากับกระจกอ่างล้างหน้า
“ไอ้บ้าอีธาน...นายทำอะไรของนายน่ะ ออกไปเลยนะ”
“ผมแค่จะเข้ามาแปลงฟัน”
“ออกไป...นายมันเจ้าเล่ห์”
“คุณอาบน้ำเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ?” อีธานอมยิ้มถาม
“เออ!!!”
“งั้นก็ออกไปก่อน...ผมจะอาบบ้าง”
“นายก็ถอยออกไปดิ”
อีธานขยับตัวหนี
“แต่ไม่คิดจะช่วยมันหน่อยเหรอครับมันตื่นขึ้นมาแล้วนะ ยิ่งเธอโชว์ของมาเมื่อกี้ ของผมมันยิ่งขึ้นนะครับ”
“ไอ้บ้า...ประสาท” ปิ่นมุกรีบมุดตัวแทรกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่แกล้งเย้าเธอไม่หยุด
เธอวิ่งออกจากห้องน้ำได้ก็รีบวิ่งเข้าห้องนอน และล็อคประตูลงกลอนให้แน่นหนาทันที
“ไอ้บ้า!!! ประสาท!!! ฮือ!!!”
เธอมุดหน้าไปกับหมอน และเอาผ้านวมมาคลุมโปงเอาไว้อีกที
เธออายหน้าแดงจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเขาไปในตอนนี้เลยจริงๆ
“ทำไมผ้าขนหนูต้องมาหลุดให้ไอ้บ้านั่นเห็นด้วยนะ” เธอบ่นออกมาเสียงดังทั้งที่ยังมุดอยู่ในผ้านวมหนา
“แล้วอย่างนี้ฉันจะออกไปสู้หน้ากับคนบ้านั่นได้ยังไง”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เสร็จหรือยังคนสวย มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ? มันจะสายแล้วนะครับ”
“นายไปก่อนเลย”
“ผมไม่มีรถ”
“ก็ให้ลูกน้องนาย หรือ เพื่อนนายมารับสิ”
“ไม่มีใครว่าง...ไปส่งผมหน่อย ยังไงก็ทางผ่านไม่ใช่เหรอ?”อีธานตะโกนคุยกับคนด้านใน ที่ไม่คิดจะเดินมาเปิดประตูมาพูดกับเขาเลยสักนิด
“ฉันยังไม่เสร็จ”
“ผมรอ”
‘ฮือ!!! ไอ้บ้านี่ บอกให้ไปก่อนก็ไม่ยอมไป จะอะไรกับฉันนักหนาเนี่ย!’
เธอยังนอนเขินเขาอยู่นานนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนในชีวิตที่จะเห็นจุกนมสีหวานของเธอได้หนิ แต่ก็มีเขาที่ได้เห็นมันคนแรก และมันก็เป็นเรื่องหน้าอายสำหรับเธอ
เธอเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง แต่งเติมสีหน้าให้ดูฉ่ำวาวเหมือนทุกครั้งที่เคยทำมา แต่ตอนนี้มันดูช้ากว่าปกติ เพราะเอาแต่คิดถึงคนด้านนอก ว่าจะออกไปเจอเขาด้วยใบหน้าแบบไหนดี
“เสร็จหรือยังครับ” เสียงเขาเร่งเธอมาอีกครั้ง
เธอต้องยู่ปากใส่กับเสียงนั่น “นี่ไม่คิดจะไปเองจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ทำไมต้องเป็นฉัน!!!”
เธอถอนหายใจแรงก่อนที่จะเปิดประตู ออกมาเจอคนร่างหนาที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่บนโซฟา
แกร่ก!!!
เขามองใบหน้าสวยพร้อมส่งยิ้มด้วยสายตาพิฆาต เลิกคิ้วหนาตามสไตล์คนกวนประสาท
เธอเดินออกมาด้วยชุดนักศึกษาพอดีตัวตามสไตล์จนเขาต้องเพ่งมอง และเน้นไปที่หน้าอกอวบที่เห็นมากับตาเมื่อครู่
“มัวมองบ้าอะไรของนาย...ไปขึ้นรถ” เธอทำท่าขึงขังกลบเกลื่อนความอับอาย รีบเดินไปหยิบกระเป๋าสะพาย และเดินออกไปจากห้องไม่สนใจคนหน้าคม
“เอ้า...รอด้วยสิครับ...บทจะรีบก็รีบร้อนขึ้นมาเชียว”
เขาเดินเข้าไปที่ลิฟต์ตัวเดียวกับเธอ แต่เธอก็ยังก้มหน้ามุดหนี หยิบมือถือขึ้นมาไถฟีดแทน
เขายืนคู่กับเธอ แต่ก็แอบนึกขำ ที่เธออายเขาจนเสียอาการได้ขนาดนี้
เสียงเงียบสงัดที่เขาและเธออยู่ในรถกันสองคน
“ไม่ต้องอายขนาดนั้นก็ได้ครับ ผมเห็นมาเยอะแล้ว”
“ไอ้บ้า!!! หยุดพูด”
“หึ!!!” อีธานหัวเราะในลำคอ
และดูเหมือนเธอจะรีบเหยียบคันเร่งให้ถึงมหาลัยของเขาได้ไวกว่าปกติ ธรรมดาเธอเคยเหยียบคันเร่งเกินร้อยซะที่ไหนกัน
รถของเธอเลี้ยวจอดที่หน้าตึกคณะวิศวะ เพราะเขาขอร้องให้เข้าไปส่งด้านหน้า
”ขอบคุณที่มาส่งนะครับคนสวย” เขาหันหน้าไปมองเธอ แต่เธอกลับมองไปที่ถนนแทน
“นายทำตามที่นายพูดด้วยแล้วกัน” ปิ่นมุกย้ำคำพูดที่เขาได้ให้กับเธอเอาไว้เมื่อคืน
“ผมรับปากอะไรแล้วก็ทำตามได้เสมอ และเรื่องข้อเสนอที่ผมเสนอให้ ที่จะใช้หนี้แทนพ่อของคุณผมก็พูดจริงนะ” อีธานพูดก่อนที่จะลงรถเดินเข้าไปที่คณะ
“คนบ้า ใช้หนี้แทนพ่อฉัน แล้วให้ฉันตกไปเป็นเมียนายนะเหรอ ประสาท!!”
เธอมองที่ตึกคณะของอีธาน วิศวกรรมศาสตร์ เห็นชื่อตึกแล้วต้องสะบัดหน้าหนีไล่ขนที่ลุกซู่ตามตัวลง เพราะยังเข็ดขยาดกับผู้ชายคณะนี้ไม่หาย
“เจ้าชู้ มักมาก” คือคำที่จำฝังใจกับผู้ชายคณะนี้ เธอบ่นพึมพำคนเดียวระหว่างขับรถออกมาจากมหาลัยของอีธาน