ตอนที่ 10 ใกล้ชิด

1181 คำ
เขาล้มตัวนอนไปที่โซฟาตัวยาวอีกครั้ง “ผมอิ่มแล้ว...กินยาเรียบร้อยแล้วครับ” “แล้ว?” ปิ่นมุกถามอย่างคนไม่ได้ใส่ใจ “ก็เช็คตัวให้ผมหน่อยสิครับ...คนสวย” อีธานล้มตัวนอนออดอ้อนอย่างกับเด็ก 3 ขวบ จนเธอเกิดอาการหมั่นไส้ นี่ถ้าเขาไม่รับปากเรื่องยืดระยะเวลาการใช้หนี้ของพ่อเธอ เธอคงไม่ยอมทำตามเขาขนาดนี้แน่ๆ “ไอ้คนเจ้าเล่ห์” “เจ้าเล่ห์ตรงไหน เขาป่วยจริงๆ หนิ” หน้าคมใช้เสียงสองพูดกับเธอ “อย่ามาทำตัวเหมือนเด็ก” “ก็ไม่สะดวกแก่หนิครับ” เธอส่ายหัวที่คนป่วยเอาแต่ตอบโต้ ถึงร่างกายจะป่วยแต่ปากยังเก่งใช้ได้ มันน่าจะทำให้ไหมแบบนี้ เธอได้แต่คิดในใจ มือบางบิดผ้าขนหนูพอหมาดๆ ลูบไล้ไปที่ใบหน้าคมของคนที่หลับตาพริ้ม โชคยังดีที่เขาหลับตาให้ ไม่งั้นเธอก็ต้องทำตัวไม่ถูก เพราะเกิดมาก็ไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน แม้นแต่ผู้เป็นพ่อของตัวเองก็ตาม อีธานเผลอยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ จนปิ่นมุกเธอสังเกตเห็น เธอเลยเปลี่ยนมาเช็ดที่แขนแกร่งแทน อีธานหรี่ตามองเธออีกครั้ง ที่รับรู้ได้ว่าเธอหยุดการกระทำไปอยู่นาน “ตรงหน้าอก กับขายังไม่ได้เช็คให้เลยนะครับ” “พอแค่นี้ไม่ได้เหรอ?” “เหนียวตัวจะแย่” เขายังใช้เสียงสองของเด็กสามขวบพูดกับเธอไม่หยุด ปิ่นมุกทำท่าเก้ๆ กังๆ อยู่นาน ก็เกิดมาไม่เคยถอดเสื้อให้ผู้ชายคนไหนมาก่อนหนิ สักครั้งในชีวิตก็ยังไม่เคย อีธานลืมตามามองเธออีกครั้ง พร้อมปลดกระดุมเสื้อช็อปตัวนอกออก ถอดมันให้พ้นไปจากตัว ตามด้วยเสื้อยืดคอกลมสีดำด้านใน ปิ่นมุกต้องหันหน้าหนี เพราะเธอดันเจอเข้ากับอกแกร่งกล้ามแน่น ที่มีซิกแพคเรียงรายเป็นลอนสวย บวกกับรอยสักทรงเท่ห์ ที่เดาไม่ยากว่ามาจากช่างฝีมือดี ร่างกายของเขาทำให้ใจเธอเต้นแรง เหมือนมันจะหลุดออกมานอกเบ้า จนอีธานสังเกตเห็นว่าเธอเสียอาการมากแค่ไหนที่เห็นร่างกายของเขา เขาลุกขึ้นนั่ง และกำลังจะถอดกางเกงยีนต์ทรงกระบอกราคาแพงของเขาออก แต่ปิ่นมุกก็ร้องห้ามเอาไว้ “นี่นาย จะทำอะไรน่ะ?” “ก็ถอดกางเกงออกให้เธอเช็ดตัวให้ไง” “แต่มัน” เธอโยนผ้าขนหนูทิ้ง แล้วเอาสองมือขึ้นมาปิดตาตัวเองอย่างไว “ว้าย...อย่ามาถอดตรงนี้นะ” “เธอจะกลัวอะไร...ฉันใส่บ๊อกเซอร์” พอได้ยินคำพูดนั้นเธอก็คิดตามทันที บ๊อกเซอร์ ที่มันไม่ใช่กางเกงในใช่ไหม ยังไงมันก็ยังเป็นกางเกงขาสั้น เธอคิดตาม และเอามือออกจากตากลม หวังว่ามันจะเป็นอย่างที่เธอคิด แต่สิ่งที่เธอเห็นมันกลับทำให้เธอต้องตกตะลึงใบหน้าร้อนผ่าว ร่างกายของเขาที่กับนอนราบไปที่โซฟา แต่กลางกายกลับเด่นต่อหน้าเธอนูนขึ้นเป็นลำหนา เธอถึงกับอ้าปากค้าง จนอีธานอมยิ้มออกมาที่เห็นใบหน้าสวยนิ่งอึ้ง “เช็คตัวได้ยัง...เห็นไหมผมไม่ได้โป๊ สักหน่อย” เขาพูดอย่างเจ้าเล่ห์ ปิ่นมุกสะบัดหน้าออกจากตรงนั้นของเขา และหันมาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่โยนทิ้งไปเมื่อกี้ขึ้นมา ชุดน้ำบิดหมาด และเช็ดตามลำตัวให้เขาแทน “นายก็นอนหลับไปสิ จะมาจ้องหน้าฉันทำไม” เธอพูดด้วยความเขิน “อืม...ก็ได้” “นายดีขึ้นหรือยัง” เธอมองนาฬิกา ตอนนี้มันจะ 5 ทุ่มอยู่แล้ว ยังไงเขาก็ไม่สมควรจะค้างที่นี่ “ผมพึ่งกินยาไปนะครับ ยายังไม่ออกฤทธิ์เลยด้วยซ้ำ” “แต่มันดึกมากแล้วนะ พรุ่งนี้ฉันมีเรียนเช้า” “ผมก็มีเรียนเช้าเหมือนกัน” “ป่านนี้ยังไม่ได้นอนเลย” “ก็ไปนอนสิครับ” “แล้วนายล่ะ” “ผมก็นอนตรงนี้ไง” “แต่...” “ผมไม่สบายจะใจร้ายไล่กันได้ลงคอเลยเหรอ” “นายนี่มัน...ฉันไม่เคยให้ใครมาค้างที่ห้องของฉัน” “ดีใจจังได้เป็นคนแรก” เขาพูดหน้านิ่ง แต่ก็แอบยิ้มมุมปาก เธอง่วงเต็มทนจนตาจะปิด เพราะถึงเวลาที่จะต้องนอน เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเขาอีก เพราะคนอย่างเขามันดื้อไม่เคยคิดจะฟังใครเลยสักนิด “จะนอนก็นอนอยู่ตรงนี้ อย่าริอาจทำตัวรุ่มร่าม เข้าใจไหม?” “เข้าใจแล้วครับแม่!” เธอยู่ปากใส่เข้าก่อนที่จะเดินเข้าไปที่ห้องนอน ล็อคประตูอย่างแน่นหนากลัวคนบ้าอย่างเขาจะเข้ามาลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเธอไปมากกว่านี้ ปิ่นมุกล้มตัวลงบนเตียงทันทีที่เข้ามาในห้องนอน หญิงสาวหลับตาแน่น พลางเอาหมอนปิดหน้ากลบเสียงกรีดร้องของตัวเองที่ทำอะไรคนด้านนอกไม่ได้ ตึกตัก… ตึกตัก… หัวใจเธอยังคงเต้นแรงไม่ยอมหยุด ภาพร่างกายของผู้ชายคนนั้นยังตามหลอกหลอนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แผงอกแน่นๆ กล้ามท้องคมชัดเป็นลอน และรอยสักสวยเท่ห์ที่เธอไม่เคยเห็นชัดขนาดนั้นมาก่อนในชีวิต “บ้าบอที่สุด!” เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ พลางเอาหน้าซุกหมอนต่อ “ทำไมต้องหน้าแดงกับผู้ชายแบบนั้นด้วยนะ!” อยู่ ๆ ความเงียบของกลางคืนก็ถูกทำลายด้วยเสียงบางอย่าง… แค่ก… แค่ก… แค่กกก! เสียงไอ…จากข้างนอก ปิ่นมุกลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนถอนหายใจอย่างรำคาญ คงไม่ใช่ว่าแกล้งทำเป็นป่วยอีกหรอกนะ… แต่แล้วเสียงไอนั้นกลับหนักขึ้นเรื่อยๆ หัวคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันทันที เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยอมแพ้ให้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองในที่สุด เธอเปิดประตูออกไปช้าๆ และเดินไปดูคนที่เอาแต่ไอไม่หยุด “นี่… นายโอเคไหม?” เสียงของเธออ่อนลงโดยไม่รู้ตัว เขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคมนั้นแดงเล็กน้อยเหมือนมีไข้ขึ้นจริง ริมฝีปากแห้งและซีด “หนาว” เขางอตัวกอดหน้าอกแน่น “ก็ใครใช้ให้นายนอนถอดเสื้อเล่า” เธอเดินไปหยิบผ้าห่มมาคุมตัวให้เขา จนคนที่โดนห่มให้ถึงขั้นใจฟูยิ้มนิ่ง “โอเคขึ้นไหม?” “อยากนอนข้างใน” “หยุดเลย! ไม่สบายแล้วยังมาคิดลามกอีก” “ผมคิดลามกตรงไหน? มีแต่คุณที่คิด” “นอนไปเลย” เธอเดินกลับไปที่ห้องด้วยความเขิน พลางคิดในใจ ไม่น่าไปสงสารคนอย่างเขาเลยจริงๆ “ปากดีชะมัด”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม