บทที่ 7 ฝากหลานไว้กับลุง

1978 คำ
ณ มุมหนึ่งใกล้ ๆ โรงอาหาร บทสนทนาของรมิดากับปรเมศยังไม่จบ ริมฝีปากบางหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เพียงชั่วพริบตานัยน์ตาสีน้ำผึ้งมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ฉันจะให้คุณช่วยดูแลน้องอชิด้วยก็ได้” เมศเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ ก่อนจะถามกลับ “จริงเหรอ?” รมิดาพยักหน้าเล็กน้อยอย่างลังเล แต่พูดต่อด้วยน้ำเสียงมั่นคง “แต่มีข้อแม้ คุณห้ามให้ใครรู้ว่าคุณอยู่กับฉันเพราะฉันกลัวสาว ๆ ของคุณจะฉีกอกฉันเอา” คำพูดของเธอทำให้เมศหลุดหัวเราะเบา ๆ พร้อมยิ้มน้อย ๆ “แน่นอน เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ ผมก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรเหมือนกัน” รมิดาพยักหน้าอย่างโล่งใจที่เขาไม่คิดจะเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ เธอไม่อยากให้ชีวิตตัวเองวุ่นวายไปกว่านี้แล้ว เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะพูดต่อ “ช่วงบ่ายนี้อาจารย์ยกคลาส ฉันไม่มีเรียน ถ้าคุณมีเรียน ฉันขอตัวก่อนค่ะ” เมศขยับตัวเข้าไปใกล้เล็กน้อยก่อนจะรีบพูดขึ้น “งั้นผมไปส่ง” คำตอบของเขาทำให้รมิดาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เธอถามกลับทันที “ไม่มีเรียนเหรอคะ?” เมศยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ผมมีเรียนหรือไม่มีเรียน ยังไงข้อสอบผมก็ทำได้อยู่แล้ว” คำตอบนั้นทำให้รมิดาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เธอไม่รู้ว่าควรจะชื่นชมในความมั่นใจของเขาหรือไม่ดีใจกับความไม่สนใจในชีวิตการเรียนกันแน่ “ถ้างั้นก็แล้วแต่คุณค่ะ แต่ฉันต้องไปหาน้องอชิแล้ว” รมิดาเอ่ยพร้อมหันตัวเดินออกไป เมศเดินตามเธอไปอย่างไม่รีบร้อน พลางพูดขึ้นลอย ๆ “จริง ๆ ผมก็ไม่ได้อยากเรียนมากหรอก แต่ดูเหมือนตอนนี้ชีวิตผมจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่าหนังสือเรียนแล้วล่ะ” คำพูดของเขาทำให้รมิดาหันขวับกลับมามองเขาทันที แววตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่เมศกลับทำหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้พูดอะไรน่าสงสัย “คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” รมิดาถามเสียงเข้ม เมศเพียงยักไหล่และยิ้มมุมปาก “ก็แค่พูดไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดมากหรอก คุณรีบไปหาน้องอชิดีกว่า ” รมิดายังมองเขาด้วยความสงสัย แต่เลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ เธอหันกลับไปเดินนำหน้าเขาไปยังโรงอาหาร ขณะที่เมศยังคงยิ้มบาง ๆ พลางเดินตามหลังเธอไปอย่างสบายใจ เมื่อกลับมาที่โรงอาหาร รมิดาเห็นน้องอชินั่งอยู่กับพี่แป้งที่กำลังป้อนข้าวให้เด็กชายตัวน้อยอยู่ เด็กชายหันมาทันทีเมื่อเห็นเธอ “ป้าดา!” เสียงใส ๆ เรียกด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับกระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งมาหาเธอ “วันนี้อชิอ่านนิทานไดโนเสาร์กับป้าแป้งสนุกมากเลย!” น้องอชิพูดพลางยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นประกาย รมิดายิ้มอ่อนโยน ขยับเข้าไปนั่งยอง ๆ ลูบศีรษะผู้เป็นหลานอย่างเบามือ “งั้นน้องอชิก็ชอบป้าแป้งใช่ไหมครับ?” เด็กน้อยพยักหน้าหงึก ๆ “ชอบฮะ! แล้วก็ชอบลุงเมศด้วย!” คำพูดนั้นทำให้รมิดาชะงัก เธอหันไปมองเมศที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งตอนนี้กำลังแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่รอยยิ้มมุมปากของเขากลับบ่งบอกชัดว่าเขาได้ยินเต็มสองหู “ลุงเมศทำอะไรให้อชิชอบเหรอครับ?” รมิดาถามด้วยความสงสัย “ลุงเมศเล่าเรื่องรถให้อชิฟังด้วย! โตขึ้นอชิอยากขับรถแบบลุงเมศฮะ!” เด็กชายตอบเสียงใส รมิดาขยับยิ้ม เอียงคอมองหลาน “ทำไมถึงอยากขับรถแบบลุงเมศล่ะครับ?” เด็กชายวัยสามขวบฉีกยิ้มสดใส ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังเกินวัย “จะได้ไปส่งป้าดาไงฮะ ไปส่งทุกที่เลย! เห็นป้าดาขึ้นรถเมล์ทุกวัน คงเหนื่อยฮะ” คำพูดนั้นทำให้รมิดาอึ้ง เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ ดวงตาคู่นั้นเริ่มรื้นไปด้วยน้ำใส ๆ ความไร้เดียงสาของเด็กชายทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน “อชิครับ…” รมิดาก้มลงมองหลานชายตัวน้อย ก่อนจะดึงเขาเข้ามากอดเบา ๆ น้ำเสียงของเธอสั่นนิด ๆ แต่ยังคงอ่อนโยน “หนูไม่ต้องห่วงป้าดาหรอกครับ แค่หนูตั้งใจโตเป็นเด็กดี ป้าดาก็มีความสุขที่สุดแล้ว” น้องอชิพยักหน้า “อชิจะเป็นเด็กดีฮะ จะปกป้องป้าดาด้วย!” เมศที่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ เหลือบตามองภาพตรงหน้า พลางพูดขึ้นลอย ๆ “น่ารักจริง ๆ เด็กคนนี้” เสียงของเขาดูเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับใคร แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้รมิดาหันมาสบตากับเขา “ขอบคุณนะคะ ที่เล่านิทานเรื่องรถให้อชิฟัง” รมิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าทุกครั้ง เมศยักไหล่เบา ๆ “ผมไม่ได้ทำอะไรมาก แค่อยากให้เขารู้ว่ารถมันไม่ได้มีไว้แค่ขับ แต่มีไว้ดูแลคนที่เราห่วงใยด้วย” คำพูดนั้นทำให้รมิดารู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ เธอหลบสายตาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับมือน้องอชิไว้ “งั้นเราไปล้างมือนะครับ จะได้กลับบ้านกัน” เมศเดินตามทั้งสองไปเงียบ ๆ พร้อมรอยยิ้มบางที่ติดอยู่บนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะที่รมิดากำลังจูงมือน้องอชิไปล้างมือ หญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอก่อนจะเห็นชื่อของ มิน เพื่อนสนิทในกลุ่มรายงานที่กำลังจะส่งอาจารย์ เธอสูดหายใจลึกก่อนกดรับสาย “ฮัลโหล มิน” เสียงของรมิดาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง “ดา! นี่เธออยู่ไหนเนี่ย? พวกเรารวมกลุ่มกันอยู่ที่ห้องสมุดนะ อีกสองวันรายงานต้องส่งแล้วนะ!” เสียงของมินดังลอดออกมาจากโทรศัพท์อย่างชัดเจน รมิดาถอนหายใจ “ขอโทษนะ ฉันอยู่โรงอาหาร พอดีดูแลน้องอชิอยู่” “อีกแล้วเหรอ?” มินถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเหนื่อยหน่าย “นี่เธอจะไม่ว่างอีกแล้วใช่ไหมดา? ทุกครั้งที่ทำรายงาน เธอก็มาช้ากว่าพวกเราเสมอเลย" คำพูดของมินเหมือนเข็มที่ทิ่มแทง รมิดาเม้มริมฝีปากแน่น ใจเธอรู้ดีว่ามินไม่ได้ตั้งใจพูดให้เธอรู้สึกแย่ แต่ความจริงก็เป็นแบบนั้น ทุกครั้งที่ต้องทำงานกลุ่ม เธอมักจะเป็นตัวถ่วงของเพื่อนเสมอ เธอหันไปมองเมศที่ตอนนี้ย่อตัวลงไปจับมือน้องอชิเพื่อพาไปล้างมือแทนเธอ เมศหันมาสบตาเธอเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันกลับไปสนใจน้องอชิอีกครั้ง หญิงสาวสูดหายใจลึก ก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เดี๋ยวฉันโทรกลับไปนะมิน แต่วันนี้ฉันจะไปทำรายงานร่วมกับพวกเธอแน่นอน ฉันสัญญา” “เธอพูดแล้วนะ ถ้าคราวนี้เบี้ยว ฉันจะไม่ช่วยเธออีกแล้วจริง ๆ” มินตอบพลางแอบหัวเราะเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินคำตอบนี้จากรมิดา “ฉันไม่เบี้ยวแน่” รมิดายืนยัน ก่อนจะวางสาย เธอสูดหายใจลึกอีกครั้ง ตั้งใจว่าอย่างไรเสีย วันนี้เธอจะต้องทำหน้าที่ในกลุ่มรายงานให้ดีที่สุด เมศเดินกลับมาพร้อมกับน้องอชิที่กำลังเช็ดมือเล็ก ๆ ด้วยผ้าเช็ดหน้าลายการ์ตูน รมิดาเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะพูดเบา ๆ “ขอบคุณนะคะ” เมศเลิกคิ้วเล็กน้อย “ขอบคุณเรื่องอะไรครับ?” “ที่ช่วยพาน้องอชิไปล้างมือ” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า เมศยักไหล่ “เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องขอบคุณหรอก” รมิดามองเมศอย่างลังเล ก่อนที่จะรวบรวมความกล้า แล้วพูดออกมาอย่างช้า ๆ “ช่วยอะไรฉันอีกสักอย่างได้ไหมคะ?” เมศเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “คุณ? คนอย่างคุณเคยร้องขอให้ใครช่วยเหรอ?” เขาถามพร้อมยิ้มเล็กน้อย ทำให้รมิดามีความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังล้อเลียนเธอ “พูดมาสิ” เมศพูดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ารมิดาเงียบไปนาน รมิดาหายใจลึก ๆ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา “คุณช่วยดูแลน้องอชิแทนฉันก่อนได้ไหมคะ? ฉันต้องรีบไปทำรายงานกับเพื่อน เย็น ๆ จะกลับบ้านค่ะ” เมศทำสีหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะยักไหล่ “ไม่มีปัญหา น้องอชิก็หลานผมเช่นกัน” เขาตอบพลางยิ้มแววตาอ่อนโยนขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ดูเหมือนจะทำหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ แต่การพูดแบบนี้จากเขาก็ดูจะจริงใจอยู่ดี รมิดาค่อย ๆ ค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกุญแจบ้านจากกระเป๋าและยื่นให้เมศ “นี่กุญแจบ้านค่ะ" เมศรับมันมาแล้วมองเธอด้วยแววตาที่มีความสนใจ “จริงนะ? ไม่มีข้อแม้อะไรเหรอ?” รมิดาเหลือบมองเขาอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้า “ไม่มีค่ะ ขอแค่ดูแลน้องอชิให้ดี ๆ หน่อยนะคะ” เมศพยักหน้า “แน่นอนครับ” หลังจากนั้น รมิดาก็หันไปหาน้องอชิที่กำลังเล่นอยู่ที่มุมห้องโรงอาหาร ด้วยรอยยิ้มสดใสที่อยู่บนใบหน้าเด็กน้อย “น้องอชิครับ วันนี้เล่นกับลุงเมศไปก่อนนะครับ ตอนเย็นป้าดาจะกลับไปหา” น้องอชิมองขึ้นมาจากของเล่นในมือ ก่อนจะยิ้มกว้างและตอบเสียงสดใส “ได้ฮะ!” รมิดาพยักหน้าก่อนจะหันไปบอกเมศ “ช่วงบ่าย 2 ให้น้องอชินอนกลางวันด้วยนะคะ ฉันจะรีบกลับบ้านนะคะ” เมศยิ้มและรับคำ “เข้าใจแล้วครับ” เขาตอบในน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจัง แม้ว่าจะมีท่าทางเป็นกันเองและดูแลเด็กแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อการฝากหลานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รมิดาก็ยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะหันไปทางประตูและเดินออกไปจากโรงอาหาร รู้สึกโล่งใจที่ได้ฝากความรับผิดชอบนี้ไว้กับเมศ ซึ่งบางทีเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองทำถูกหรือเปล่า แต่ในตอนนี้เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก เมศมองตามเธอจนหายไปจากสายตา ก่อนจะหันไปหาน้องอชิที่กำลังรออยู่ “เอาล่ะ น้องอชิ วันนี้เราไปทำอะไรสนุก ๆ กันดี?” น้องอชิตาเป็นประกายและพูดออกมาอย่างดีใจ “ไปเล่นสนามเด็กเล่นฮะ!” เมศยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ได้สิ!” ในขณะที่เขาพาน้องอชิออกจากโรงอาหารไปอย่างมีความสุข ความรู้สึกในใจของเขาก็ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนไปเขาคิดว่า การที่เขาต้องรับผิดชอบดูแลเด็กเล็ก ๆ แบบนี้ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม้เขาจะเคยคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับการทำหน้าที่นี้ แต่ตอนนี้…เขากลับเริ่มรู้สึกว่าอาจจะมีบางอย่างที่เขาต้องเรียนรู้เพิ่มเติมจากการดูแลน้องอชิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม