อยากแกล้ง

1321 คำ
ส่วนแพรวพรรณ... แม่นางแบบปากแดง แค่คิดมาหลอกหวังผลกับหลานชายเพียงเท่านั้น แค่นี้คุณย่าก็มองออกทะลุปรุโปร่ง มีแต่หลานชายเท่านั้นแหละที่คิดว่าแฟนตัวเองเป็นคนดี ปิ่นฉัตรลงมาจากห้องคุณย่านวลปราง ก็ตรงกลับห้องพัก รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้านอน เธอหลับไปได้ไม่รู้นานแค่ไหน จู่ ๆ ก็หิวข้าวขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่แค่หิวท้องยังร้องประท้วง ช่วงหัวค่ำวันนี้เธอไม่ได้ทานข้าว เพราะพึ่งจะทานมาจากห้างสรรพสินค้า เธอนอนทนความหิวไม่ไหว หันมองเวลามันบอกเวลาเกือบตีหนึ่ง จึงเปิดประตูเดินดุ่ม ๆ พร้อมไฟฉายอันเล็ก เพื่อให้แสงพอนำทางได้ อากาศยามค่ำเย็นสบาย มีลมพัดเบา ๆ เป็นระยะ การเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ในที่ต่ำกว่า ทำให้คนที่อยู่ด้านบนของบ้านพัก ได้เห็นเหมือนเงาตะคุ่ม ๆ พร้อมแสงไฟหรี่เล็ก ๆ มุ่งหน้าไปยังห้องครัว ‘ประตูห้องครัวไม่ได้ล็อก ป้าอรเคยบอกไว้’ มือบางเปิดประตูทิ้งไว้ และเข้าไปจัดการลงมือทอดไข่ดาว โดยตักข้าวนิดหน่อยไข่ดาวถูกนำมาวางบนข้าว และตามด้วยซอส เธอนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียว ให้เบาเท่าที่จะเบาได้ เพื่อไม่เป็นการรบกวนคนอื่น หญิงสาวใช้เวลาไปราวครึ่งชั่วโมง ก็เดินกลับมาที่ห้องพัก ระหว่างนั้นเกิดฟ้าร้องฟ้าแลบ โดยไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าฝนจะตก ปิ่นฉัตรเร่งฝีเท้าให้ถึงก่อนฝนจะตก แต่ทว่ากลับมีมือของใครไม่รู้ ปิดปากพร้อมลากเธอไปยังกำแพงของบ้านพัก ความตื่นตระหนกตกใจทั้งดิ้นทั้งทุบตีหวังให้เป็นอิสระ ลมหายใจอุ่น ๆ รดต้นคอ กลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์เตะจมูกบางครั้ง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหนื่อยหอบ แรงเท่ามดหรือจะสู้คนที่ใช้มือปิดปากเธอ ณ เวลานี้เธอกลัวจนสั่น น้ำตาไหลไม่รู้ตัว กลิ่นสาบสาว กลิ่นอายสาวแรกรุ่น หอมกรุ่นติดจมูก ทำให้อารมณ์ชายหนุ่ม ไขว้เขวไปชั่วขณะ ก่อนดึงสติกลับมา “หยุดดิ้นถ้าไม่อยากให้ฉันทำอะไรไปมากกว่านี้ ฟังสิ่งที่ฉันถามแล้วก็ตอบรู้มั้ย ฮะ” น้ำเสียงกัมปนาท ทำให้ปิ่นฉัตรทำสัญญาณโดยการพยักหน้า “เธอมาอยู่ในบ้านนี้เพื่ออะไร ต้องการมาหลอกลวงคนในบ้านนี้งั้นหรือ” หญิงสาวทำได้แค่ส่ายศีรษะเป็นการปฏิเสธ “โกหก เธอมันคนโกหก ปิ่นฉัตร” เขาพูดพร้อมเหวี่ยงร่างเล็กล้มกลิ้ง ลงพื้นปูนที่เป็นผิวหยาบ “โอ๊ย ฮึก” หัวเข่า ข้อศอกและฝ่ามือครูดไปกับพื้น ทำให้คนตัวเล็กถึงกับร้องคราง ไม่กล้าส่งเสียงดัง “เธอมาอยู่ไม่ทันไร ก็ทำให้คุณย่าหลงเธอถึงขนาดส่งเสียให้เรียน ถ้าไม่หวังผลจะหวังอะไรวะ” น้ำเสียงเกรี้ยวกราด พลอยทำให้ปิ่นฉัตรตัวสั่น น้ำตาไหล เธอจำน้ำเสียงนี้ได้ เขาคือหลานชายคนโตของบ้านนี้ “หนูไม่ได้มาหลอกลวงใครนะคะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ คุณท่านเลยให้หนูมาทำงานแม่บ้านเท่านั้นเองค่ะ หนูไม่มีอะไรแอบแฝงจริง ๆ ค่ะ” สองมือยกขึ้นไหว้ ไม่รู้ชายหนุ่มจะมองเห็นหรือไม่ “ตอแหล เธอมาอยู่แค่ไม่กี่เดือน ก็ทำให้ทุกคนแทบจะหลงเธอกันหมดแล้ว” ชายหนุ่มนั่งยอง ๆ ทับส้นเท้าลงข้างหญิงสาว ความกลัวทำให้เธอกระเถิบถอยหนีทั้งที่ยังนั่งที่พื้น ขาครูดตามพื้นจนรู้สึกเจ็บ มือใหญ่จับแก้มออกแรงบีบและสะบัดใบหน้าหญิงสาวอย่างแรง จนเธอถลาฟุบไปกับพื้นอีกหน ความเจ็บทำให้หญิงสาวน้ำตาไหลอาบแก้ม สะอื้นไห้ เมื่อเขาสะใจก็เดินหนีหายไป ปล่อยให้ปิ่นฉัตรฟุบอยู่ตรงนั้น ก่อนค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน และเดินกะเผลก ๆ ฝ่าความมืดกลับไปยังห้องพัก พร้อมเม็ดฝนที่เริ่มลงเม็ดประปราย แสงไฟในห้องพักของปิ่นฉัตรสว่างขึ้น เธอรีบพาตัวเองเข้าห้องน้ำ ตักน้ำล้างแผลที่มันเป็นรอยถลอก และล้างหน้าตาเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เสียงสะอื้นไห้เบา ๆ เวลาบ่งบอกเกือบตีสี่ เธอจึงเอนตัวลงนอนทั้งน้ำตาที่หยดลงหมอน สายฝนเริ่มโปรยปรายแรงขึ้นเรื่อย ปิ่นฉัตรนอนพักเอาแรง ไม่รู้ต้องตื่นมาพบเจออะไรบ้าง เช้าที่ชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า มีเม็ดฝนเกาะค้างให้ได้เห็น ความชุ่มฉ่ำสดชื่น ทำให้เช้านี้เย็นสบาย สายลมพัดไหวเบา ๆ ก๊อก... ก๊อก… “พี่ปิ่นคะ พี่ปิ่น ตื่นหรือยังคะ” แป้งในชุดเสื้อยืดขาสั้น ถักเปีย ยืนอยู่หน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงคนเรียกด้านนอก หญิงสาวในห้องรีบเด้งตัวขึ้นนั่ง จังหวะนั้นต้องส่งเสียงครางเบา ๆ แผลเมื่อคืนเริ่มแห้งและตึง “ซี้ด” ก่อนลุกขึ้นและเปิดประตู “พี่ปิ่นยังไม่ตื่นเหรอคะ” เมื่อเห็นสภาพเจ้าของห้อง “ขอโทษค่ะแป้ง พี่นอนเพลินไปหน่อย ว่าแต่แป้งมีอะไรไหมคะ” เธอถามหญิงสาวรุ่นน้อง “ไม่มีค่ะ แต่ป้าอรฝากบอก วันนี้ตอนเที่ยงให้พี่ปิ่นขึ้นไปทำความสะอาดบ้านพักสีเข้มค่ะ” พร้อมชี้นิ้วไปยังบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากห้องพักเธอ ปิ่นฉัตรมองไปยังบ้านที่เธอต้องไปทำความสะอาด น้ำลายเหนียวหนืดถูกกลืนลงลำคออย่างฝืดเคือง เธอไม่อยากไปเลยจริง ๆ ท่าทางเหมือนลำบากใจ แต่เมื่อเป็นคำสั่งเธอก็ต้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ถึงช่วงนั้น คุณเตคงไม่อยู่หรอกค่ะพี่ปิ่น” แป้งพูดเป็นนัย ๆ “จริงเหรอแป้ง พี่ไม่อยากเจอเขาด้วยสิ” สีหน้าเริ่มดีขึ้น เมื่อรู้ว่าเขาไม่อยู่ “ค่ะ ปกติไม่ค่อยอยู่ คุณเตจะออกไปหาแฟน หรือไปธุระคะ” แป้งเห็นแบบนี้จนชินตา “อื้อ พี่อาบน้ำก่อนนะ สายละ วันนี้ไม่ได้ไปช่วยงานในครัวเลย” “ค่ะ เจอกันที่ครัวนะคะพี่ปิ่น” “ค่ะ” เสียงถอนหายใจ จนทำให้ตัวเองได้ยิน ก่อนพาตัวเองเดินกะเผลก ๆ ไปห้องน้ำ เวลาเจ็ดโมงครึ่ง ปิ่นฉัตรพาตัวเองมายังห้องครัว เห็นแป้งกับแม่บ้านอีกสองคนกำลังจัดผลไม้ใส่ถาดสองสามถาด เธอจึงร่วมสมทบอีกคน “ขอโทษนะคะที่ปิ่นมาช่วยงานสายค่ะ” เธอตื่นสายทำให้คนอื่นต้องทำงานใกล้เสร็จ “ไม่เป็นไรหรอกปิ่น มันเหนื่อย เพลีย ต้องมีบ้างแหละที่ตื่นสาย พวกพี่ก็เคยเป็น” หนึ่งในแม่บ้านบอกและหัวเราะ “คุณท่านจะไปธุระกี่โมงเหรอป้า” แป้งถามป้าแม่บ้าน จังหวะที่เดินมาในครัวพอดี “เป็นคนสอดรู้สอดเห็น เรื่องเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะนางแป้ง” ป้าอรต่อว่าหลานสาว “หนูแค่ถามไม่ได้สอดรู้ซะหน่อย ก็ป้านั่นแหละที่บอกหนูเอง” แป้งย้อนผู้เป็นป้า จนป้าอรต้องหยิกแขนแป้งเบา ๆ “แกนี่นะนางแป้ง” “โอ๊ย ๆ เจ็บนะป้า หยิกหนูทำไม เจ็บนะ” แป้งร้องเสียงดัง พลางกระเถิบหนี “เจ็บละดี จะได้ไม่สอดรู้เรื่องเจ้านาย” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกัน ปิ่นฉัตรยกถาดผลไม้มาวางบนโต๊ะอาหาร เธอเดินไม่ค่อยถนัด เจ็บหัวเข่าและตึง ๆ เวลาเดินจะมีเลือดซึมจาง ๆ เธอกลับมาที่ครัวเดินไปยังตู้ยาที่ติดผนัง รื้อหายาทาแผล จากนั้นออกไปที่ด้านหลังครัว ลงมือล้างแผลและทายา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม