บทที่๙ ทนไม่ได้ก็ไป

1183 คำ
“งั้นเอ็งก็จำไว้ว่าพี่ไม่คิดจะรักเอ็งที่เคยปฏิเสธพี่ ไม่เคยมองเอ็งเป็นเมียเพราะเอ็งเคยไม่อยากเป็น” ย้ำเสียงเย็น “ถ้าทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไปบอกพ่อกับแม่ขอถอนหมั้น” “...” ประโยคบอกเล่าจากปากเขาทำเอาใจของเธอกระตุกแล้วบีบรัดจนเจ็บ ไร้ซึ่งคำโต้ตอบเพราะไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าต้องพูดอะไรอีก มันน้อยใจและเสียใจมากจริง ๆ “อีกเรื่อง เอ็งกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิม ที่นี่ไม่ได้ใหญ่พอให้อยู่กันสองคน” บอกเธอผ่าน ๆ ก่อนจะเดินหนีเข้าห้องนอนปิดประตูเสียงค่อนเข้าดังบอกให้รู้ว่าไม่ให้เข้า “...” น้ำหวานยืนมองประตูห้องนอนที่เธอเคยเข้าออกได้ตามใจทุกครั้ง แต่พอเปลี่ยนสถานะที่ควรจะใกล้ชิดกันมากกว่าเดิมกลับไม่มีสิทธิ์เข้าไปเหยียบหากเจ้าของไม่อนุญาต แต่เธอก็ไม่อยากทำอะไรขัดใจเขาไปมากกว่านี้ แค่ที่เป็นอยู่ตั้งแต่อะไรเปลี่ยนไปเขาก็ทิ้งระยะห่างกับเธอไว้มากเหมือนคนแปลกหน้า ไม่พูดคุยถามไถ่เธอเหมือนเดิม สายตาเอ็นดูที่เคยมีก็ไม่เหลือ น้ำเสียงเรียบห้วนบางทีก็แสดงความหงุดหงิดทางสีหน้าออกมาให้เห็น เธอคงโลภเกินไปเองที่ไม่เลือกปฏิเสธการหมั้นหมาย และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผู้ใหญ่อยากให้เป็น และเป็นไปอย่างที่ใจลึก ๆ ของเธอก็หวังเหมือนกัน คงเห็นแก่ตัวเองตอนเขามีใจก็ผลักไส แต่พอตัวเองรู้สึกบ้างกลับใช้โอกาสดึงรั้งเขาไว้ทั้งที่เขาไม่ได้เต็มใจจะอยู่แล้ว “เห้อ!” ถอนหายใจระบายความอึดอัดในใจออกมาก่อนจะพาตัวเองออกจากบ้านน็อคดาวน์ของเขากลับไปยังบ้านใหญ่ที่เธออาศัยหลับนอนมาตลอดหลายปีเหมือนเดิม ปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านแล้วหยิบจับไม้กวาดมาทำความสะอาดพื้นบ้านที่ทำพิธีช่วงเช้า ส่วนพวกเต็นท์ที่กางด้านนอกก็มีเหล่าชาวบ้านมาช่วยกันยกกลับไปตั้งแต่พิธีเสร็จสิ้นแล้ว “ทำไมไม่พักผ่อนล่ะลูก” แม่นงถามลูกสะใภ้ตัวเองที่ขยันขันแข็งขึ้น “ไม่ได้เหนื่อยอะไรนี่จ๊ะ” ตอบรับด้วยรอยยิ้มอย่างที่เธอทำประจำ หยิบนั่นยกนี่เก็บเข้าที่ ส่วนพวกขนมไทยที่ทำเข้าพิธีก็เก็บไว้ในตู้กับข้าว “เจ้านายมันไม่มาช่วยเลยนะ” บ่นให้ลูกชายที่พอเสร็จงานก็สบายตัวหนีไปนอนคนเดียว “...” เธอไม่มีข้อคิดเห็นจึงทำเพียงยิ้มบาง ๆ แล้วทำหน้าที่ตัวเองต่อ แม้ว่านายจะไม่เต็มใจหมั้นหมายกับเธอ แสดงความไม่พอใจและไม่ชอบใจต่าง ๆ ใส่เธอ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่ทำและรู้ว่าหากทำคงไม่วายถูกบ่นก็คือการแสดงพฤติกรรมเหล่านั้นต่อหน้าพ่อแม่ตัวเอง เพราะแบบนั้นแม่นงจึงไม่รู้ว่าความรู้สึกที่นายค่อย ๆ หล่อหลอมให้เธอทีละนิดมันคืออะไร และเธอก็ไม่คิดจะบอกหรือฟ้องอะไรให้พ่อแม่ต้องหนักใจจนไปต่อว่าเขาเช่นกัน หลายเดือนต่อมา ฤดูแห่งการเริ่มทำนากลับมาอีกครั้ง ชาวไร่ชาวนาก็เริ่มจับจองคิวไถยาวไปหลายเดือน ซึ่งบ้านนายที่ทำอาชีพนี้ก็มีงานรัดตัวจนแทบไม่ได้พักเหมือนทุก ๆ ปี วันนี้เป็นคิวไม่ไกลบ้านมากนัก นั่นเลยทำให้คนออกไปทำงานไม่มีข้าวห่อให้จากคนที่บ้าน เพราะเดิมทีหากออกนาไม่ไกลแม่นงก็เตรียมแค่ข้าวเช้า ส่วนข้าวเที่ยงจะทำสดใหม่หรือไปหาซื้อพวกอาหารตามสั่งหรือก๋วยเตี๋ยวแทน และแน่นอนว่าหน้าที่ส่งข้าวให้นายตอนนี้ก็ไม่ใช่ของใครที่ไหนนอกจากน้ำหวานที่ยังไม่ได้งานทำ มื้อเช้าที่เธอยกกับข้าวไปให้นายได้ถามเขาไว้แล้วว่าตอนกลางวันอยากกินอะไร แต่คำตอบก็เป็นเมนูที่หายากที่สุด “อะไรก็ซื้อไป” อะไรที่ว่าไม่รู้หรอกว่าอะไร แต่เธอก็เลือกก๋วยเตี๋ยวพิเศษไปให้เขา แล้วก็เกาเหลาหนึ่งถุงสำหรับลูกมือที่ไปช่วยงานโดยปกติจะรับผิดชอบหาข้าวหาปลากินเองอยู่แล้ว พร้อมกับน้ำชงที่แม่นงสอนเธอมาว่าแบ่งปันเผื่อแผ่พวกเขาแม้จะมีค่าจ้างเต็มแล้วก็ตาม รถมอเตอร์ไซต์ออโต้ถูกขี่มาตามถนนคอนกรีตหลังหมู่บ้านก่อนจะเจอกับถนนดินแดงอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็มองเห็นรถไถสองคันอยู่กลางทุ่งนาพร้อมฝุ่นดินคลุ้ง เธอจอดรถไว้ข้างทางก่อนจะเดินเท้าตามคันนาลงไปยังปลายทาง ยืนรอใต้ร่มเงาของต้นไม้เพื่อส่งอาหารให้ถึงมือเขา รับลมเย็น ๆ แม้แดดจะแรงแต่ก็ไม่ได้ร้อนจัดอะไร ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงรถไถก็จอดสนิทดับเครื่องยนต์พร้อมกับคนขับที่ลงจากรถเดินตรงมายังที่ที่เธอยืนอยู่ แม้ว่าเขาจะคลุมตัวเองจนมิดชิดไม่ต่างกัน แต่เธอแยกออกได้อย่างง่ายดายว่าคนที่กำลังเดินมาคือนาย “หวานซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้แล้วก็เกาเหลาอีกถุงจ้ะ” บอกเขาทันทีที่เดินมาถึง “แล้วโอเลี้ยงสองแก้ว ส่วนน้ำอัดลมเอาไว้ดื่มบนรถ” “ซื้อมาถมที่เหมือนผลิตเงินเอง” บ่นให้เธอลอย ๆ ทั้งที่ปกติตอนแม่ทำก็ไม่ต่างกันแบบนี้ “เสร็จแล้วก็กลับไปสิ” รับถุงหลายใบจากมือเธอพร้อมกับไล่ ไม่มีคำขอบคุณเพราะมันคือหน้าที่ของเธออยู่แล้ว “จ้ะ” คนเสียงใสก่อนหน้านี้เหลือเพียงเสียงเบา ๆ ตอบกลับ แต่ก็ยังดีที่เขาพูดตอนที่อยู่กันสองคนไม่ให้เธออายใครคนอื่น หมุนตัวเดินออกกลับไปที่ถนนเพื่อกลับบ้านเมื่อหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นพร้อมกับความน้อยใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอส่งกับข้าวให้เขาสักหน่อย แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อกับข้าวและน้ำอัดลม แต่เขาก็บ่นเหมือนเธอทำผิด “น้ำขวดแค่นี้กระดกรวดเดียวก็หมดแล้ว ระหว่างทำงานไม่คิดให้กินน้ำกินท่าเลยหรือไง เงินก็มีให้เสียดายเหมือนให้ใช้เงินตัวเองซื้อ” แล้วตอนนี้เธอที่เธอซื้อมาสองอย่างล่ะ น้ำหวานระหว่างพักกับน้ำอัดลมระหว่างทำงาน สุดท้ายก็ยังไม่ถูกใจเขาอีกเหมือนเดิม มันไม่ได้มีอะไรที่ผิดหรอกนอกจากเธอ ส่วนคนปากเสียที่หาเรื่องหงุดหงิดใส่เธอก็มองตามหลังร่างเล็กไปด้วยสายตายากอ่านเหมือนทุกครั้ง พอเห็นเธอถึงมอเตอร์ไซต์ก็ดึงสายตากลับแล้วทิ้งตัวนั่งลงรอไอ้ไม้มาลงจากรถมานั่งกินข้าวพักกลางวันด้วยกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม