ภายในรถยนต์ส่วนบุคคลแสนหรูหราที่กำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วบนท้องถนน เพื่อเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ
ทุกคนบนรถต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ไปส่งบุตรสาวเจ้าสัวตระกูลพิพัฒน์พลกุล เพื่อเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เจ้าสัววันชัย อัญฑิกา ฟางข้าวและอีฟ คือผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยรถยนต์คันเดียวกันนี้
ทุกคนในรถอยู่ในอาการรื่นเริง รวมถึงท่านเจ้าสัวที่ร่วมสนทนากับลูกสาวและอีฟอย่างออกรส มีเพียงแต่ฟางข้าวเท่านั้นที่เอาแต่นั่งเหม่อลอย และจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างคนกำลังใช้ความคิด แต่อัญฑิกาก็ไม่ได้สังเกตุเห็นถึงความผิดปกติของเธอแต่อย่างใด
อัณฑิกาคิดว่าเพื่อนรักคงไม่มีอะไรผิดปกติ เนื่องจากเพื่อนของเธอก็เป็นคนที่ไม่คอยพูดอยู่แล้ว ทางด้านอีฟก็ยังคงชวนคุยเรื่อยๆ เสียงเจี้ยวแจ้วของอีฟทำให้อัญฑิกาไม่มีเวลาสังเกตุเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับฟางข้าว
ทางด้านของอิทธ์เขามัวแต่นั่งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จิตใจของเขาตอนนี้ถูกเกาะกุมไปด้วยความรู้สึกสับสนปนเสียใจ เขาใช้เวลาอยู่กับตนเองร่วมชั่วโมง ทำให้ไม่ทันได้โดยสารร่วมทางไปกับพ่อและน้อง เขาจึงจำเป็นต้องขับรถตามไปที่สนามบินด้วยตนเอง
รถยนต์หรูราคาแปดหลักเคลื่อนไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่มยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาจะต้องจบเรื่องราวนี้ด้วยตัวของเขาเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างสูงเดินเข้ามาภายในสนามบิน ก่อนเวลาที่จะส่งอัญฑิกาเข้าไปใน Gate เล็กน้อย อิทธ์มองหาอัญฑิกาและเจ้าสัววันชัย เขาพบว่าอัญฑิกากำลังมองหาเขาอยู่เช่นกัน เมื่ออัญฑิกามองเห็นร่างสูง เธอจึงรีบโบกมือเรียกเขา
" พี่อิทธ์ มาแล้วเหรอคะ แหมนึกว่าจะไม่มาส่งน้องแล้วซะอีก เจ้าชายสายเสมอ " อัญฑิกาค่อนขอดพี่ชายที่มาถึงเกือบไม่ทันเวลา
การสนทนานั้นทำให้ฟางข้าวต้องหันกลับไปมอง และมันทำให้เธอต้องตกใจสุดขีด จนใบหน้าของเธอซีดเผือด เมื่อเธอรู้คร่าวๆจากการสนทนาของอัญฑิกา กับชายแปลกหน้าคนนั้นว่า เขาคือใคร
" นึกว่าจะไม่มาแล้วไอ้เสือ " เจ้าสัววันชัยเย้าแหย่บุตรชาย พร้อมกับมือเหี่ยวย่นที่เอื้อมไปตบบ่าชายหนุ่ม สายตาที่ส่งมาที่อิทธ์ยังคงมีแต่ความภาคภูมิใจในตัวบุตรชาย
" ไม่มาได้ไงครับพ่อ จะไม่ได้เจอยัยอัญตั้งนาน ขืนผมมาไม่ทัน ยัยอัญโกรธผมแย่เลย " อิทธ์กล่าวพร้อมกับมองไปที่อัญฑิกาด้วยรอยยิ้ม
อัญฑิกาส่งค้อนวงใหญ่ไปให้พี่ชาย เพราะปกติพี่น้องคู่นี้จะคอยดักคอกันอยู่เรื่อย อัญฑิกาที่มัวแต่สนทนากับพี่ชาย จนลืมแนะนำเพื่อนของเธอกับอิทธ์
" อุ้ย !! อัญลืมแนะนำเพื่อนอัญไปเลย " อัญฑิกาหันมามองที่ชายหนุ่ม ก่อนจะกล่าวแนะนำเพื่อนของเธอ
" นี่เพื่อนอัญชื่อฟางข้าวค่ะ ส่วนอีฟเมื่อคืนพี่อิทธ์คงเจอแล้วนะคะ " อิทธ์มองไปที่ฟางข้าวพร้อมกับยิ้มอ่อนๆให้ฟางข้าว เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ
อาจจะด้วยความที่อิทธ์เป็นนักธุรกิจ เขาจึงต้องเก็บความรู้สึกเมื่อต้องเจรจาทางธุรกิจ เพื่อไม่ให้บริษัทคู่ค้าของเขาจับทางได้ จนทำให้เขากลายเป็นคนที่เก็บความรู้สึกทางสีหน้าและท่าทางเก่ง
ในขณะที่ฟางข้าวยืนหน้าซีดจนแทบจะเป็นลม เพราะคนที่ทำการพรากพรหมจรรย์ของเธอไป คือพี่ชายของเพื่อนรักของเธอ มันคือฝันร้ายที่สุดในชีวิตของฟางข้าว
" ฟางนี่พี่อิทธ์ พี่ชายสุดหล่อของอัญเอง " อัญฑิกาแนะนำด้วยความสดใส โดยไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของฟางข้าว ที่ตอนนี้แทบจะยืนไม่อยู่ เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นมาตามไรผม ทั้งที่จุดที่เธอและทุกคนยืนอยู่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั่วบริเวณ
" ยินดีที่ได้รู้จักครับ " อิทธ์กล่าวพร้อมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ที่ทำให้ฟางข้าวรู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้า พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่เธอเกลียดมันที่สุด