“ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้ามาหาฉัน...มักจะยิ้ม พูดจาหวาน หรือทำท่าทีอ่อนโยนเพื่อให้ฉันจำชื่อได้” เขาหยุดนิดหนึ่ง มุมปากยกยิ้มจางๆ
“แต่เธอนั่งเงียบ ดื่มเหล้าขมๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ชอบเลย...นั่นมันไม่ง่ายเลยนะ”
เดือนสิบก้มหน้า “ดิฉันแค่...ไม่อยากขัดคำสั่งค่ะ”
“หรือบางที...” เขาเอนตัวเล็กน้อย จ้องลึกเข้าดวงตาเธอ “เธออาจแค่ใจดีเกินไป”
ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง เสียงฝนยังดังอยู่ข้างนอก และหัวใจของเดือนสิบเต้นแรงขึ้นอย่างไร้เหตุผล เธอพยายามเบือนหน้าหนี สายตาพร่ามัวเล็กน้อยเพราะความเมา
มือเธอเผลอแตะขอบโต๊ะเพื่อพยุงตัว “คุณธาม... ดิฉันว่าดื่มพอแล้วจริงๆ ค่ะ มัน... มึนหัว”
ธามมองเธอนิ่ง ดวงตาเรียบสงบ แต่แฝงด้วยอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก
“งั้นพักก่อนก็ได้” เขาเอ่ยเสียงเบา “เดี๋ยวน้ำแข็งละลายหมด เสียดายของดี”
เดือนสิบหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งที่ตายังพร่า เธอวางแก้วลงอย่างระวัง ก่อนจะยกมือขึ้นแตะขมับ
ความอุ่นของเหล้าในร่างเริ่มกลายเป็นความร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านขึ้นใบหน้า
ธามมองภาพนั้นเงียบๆ ไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่นั่งพิงพนัก โคลงแก้วในมือเบาๆ พร้อมสายตาที่ติดอยู่บนใบหน้าของเธอ เด็กเสิร์ฟธรรมดาที่ทำให้ค่ำคืนอันแสนเศร้าของเขาดู...ไม่ว่างเปล่าอย่างที่เคย
เดือนสิบเอนตัวพิงพนักโซฟา ใบหน้าแดงจัดจากฤทธิ์เหล้า เส้นผมบางส่วนหล่นลงมาปรกแก้ม เธอพึมพำเสียงเบาแทบไม่ได้สติ
ธามมองภาพนั้นนิ่ง ดวงตาเริ่มพร่า เขาไม่ได้แน่ใจนักว่าเป็นเพราะเหล้าหรือเพราะความเจ็บที่เก็บไว้ในใจมาหลายวัน
เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ในมุมเดียวกับที่ ลลิตา เคยนั่ง ในเสี้ยววินาทีนั้น ภาพสองคนทับซ้อนกันในหัวเขา
“ทำไม... ทำไมเธอต้องจากฉันไป” เสียงแผ่วออกมาจากริมฝีปากของเขา
เขาลุกขึ้น เดินช้าๆ เข้าไปหาเดือนสิบ ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและโกรธปนเจ็บ
“เธอรู้ไหมลลิตา...ฉันทุ่มเททุกอย่างให้เธอ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกจะทิ้งฉันเหมือนขยะ”
เดือนสิบขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังไม่ลืมตาเต็มที่ “คุณธาม... ดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น”
“เธอโกหกอีกแล้วใช่ไหม!” เสียงเขาสั่น เขาก้มลงมองหน้าเธออย่างคนที่ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ “ทำไมเธอต้องทำให้ฉันเจ็บอยู่แบบนี้...”
มือของธามกำแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น เขาก้มลงช้าๆ จนใบหน้าทั้งคู่ห่างกันเพียงคืบ
แต่แล้ว... เขาชะงัก