เมื่อจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของหญิงสาวออกเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาจัดการเรื่องอาภรณ์ของตนเอง นาทีนี้ไม่มีสิ่งใด ที่จะหยุดยั้งความปรารถนาที่เขามีต่อกายเธอได้อีกต่อไป เขายังคงจัดการกับหญิงสาว จนตอนนี้ร่างกายของเธอเปลือยเปล่าปราศจากอาภรณ์ขวางกั้น เขาจัดการผลักร่างบางของเธอลงไปที่โซฟาที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนหญิงสาวก็มัวแต่ตกใจยังไม่ได้ดิ้นรนหนี พอรู้ตัวอีกทีร่างสูงก็จัดการกับอาภรณ์ของเขา จนหลุดออกไปจากร่างหมดเรียบร้อยแล้ว กายหนาจึงลงไปทาบทับบนร่างบางของเธอ
ก่อนที่ใบหน้าคมสันของเขาจะเริ่มซอกไซร้ที่ซอกคอขาวของหญิงสาว ส่วนมือทั้งสองข้างของเขาก็กอบกุมที่ความตูมเต่ง
"ปล่อยนะคะฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น" เดือนสิบพยายามจะทัดทาน แต่ทว่าเสียงของเธอไม่ได้เข้าไปในหูของเขาเลยสักนิด เขายังคงเดินหน้าต่อโดยไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง
นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วเขายังรุกรานเธอเพิ่มมากกว่าเดิม มือหนาของเขาอีกข้างหนึ่งถูกส่งลงไปสำรวจปากทางรักสีสดที่ยังปิดสนิทอยู่
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองต้องรู้สึกไปกับสัมผัสของเขา ไม่ว่ามือหนาของเขาจะเคลื่อนไปที่ใดเธอก็รู้สึกร้อนวูบวาบ ส่วนฝ่ายชายก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าเธอจะพูดอะไร เขาต้องการที่จะย้ำแค้นกับเรือนร่างของลลิตาเท่านั้น เขาไม่มีสติมาคิดหรอกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ลลิตา
เมื่อได้ยินเสียงที่ทำให้รำคาญหู ไปหน้าคมสันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปปิดที่เรียวปากบาง ของหญิงสาวเพื่อที่จะไม่ให้เธอส่งเสียงรบกวนเขาอีก
ลิ้นอุ่นชื้นของเขาดูดกลืนความหอมหวานในโพรงปากบางของหญิงสาว นิดเดียวเล็ก พยายามหลบแต่ก็ไม่สามารถหลบพ้นได้ความช่ำชองของเขา ทำให้เขาสามารถใช้ลิ้นเกี่ยวกวัดกับเรียวลิ้นเล็กของเธอ จนหญิงสาวอ่อนระทวยไปทั่วทั้งร่าง
น้ำหวานเหนียวใสของเธอหลายเอ่อออกมาอย่างมากมายโดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัว แต่มือของชายหนุ่มที่เครื่องสำรวจอยู่บริเวณนั้นมันรับรู้เป็นอย่างดี เขายกยิ้มด้วยความพึงพอใจ ผู้หญิงร่านๆ แบบลลิตา มันปลุกง่ายเสมออยู่แล้ว ก็ไม่แปลกที่เธอจะมีสภาพเช่นนี้
เพื่อที่จะฝากฝังบทเรียนครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะปล่อยเธอไป เขาจะมอบความเจ็บปวดที่สุดไปให้เธอ
ทางด้านเดือนสิบก็ไม่ได้รู้เลยว่าตนเองกำลังจะเป็นเหยื่อของเขา เพราะตอนนี้เธอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้เขาได้อีกต่อไป ร่างกายของเธอมันยอมโอนอ่อนผ่อนตามไปกับเขา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร