ทาสรับใช้เจ้านายมาเฟีย
ตอน ใจดีหรือใจร้ายกันแน่
ยามเย็น
สาวน้อยเข็นรถเข็นผู้ป่วยไปตามทางดินริมเกาะขณะชายตามองลงไปยังผืนน้ำสีเทาด้วยแววตาละห้อย
"อย่าเสียใจไปเลย อย่างน้อยพี่ชายของฉันก็ไม่ได้ลงมือลงไม้อะไรกับเธอไม่ใช่เหรอ"
"แค่เตะเนื้อต้องตัวเธอก็ยังไม่ทำ"
เสียงชายหนุ่มผอมโซเอ่ยขณะนั่งอยู่บนรถเข็น
เค้าคือหนุ่มวัยสิบเก้าปีที่เป็นน้องชายต่างแม่ของมาเฟียหนุ่ม มีชื่อว่าแซก เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่เกิด ต้องนั่งรถเข็นตลอด
"แต่เค้าด่าเรา" สาวใช้เอ่ยกับน้องชายมาเฟียอย่างสนิทสนมราวกับเพื่อน
ภาพตัวเองนั่งเปลือยเปล่าให้มาเฟียได้ยลโฉมเรือนร่างลอยแว๊บเข้ามาในหัว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ถูกลงโทษด้วยการสั่งให้แก้ผ้า
น้ำตาไหลพาดแก้มขาวเอ่อล้นปลายคางงอนสวยก่อนจะหยดลงบนหัวหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ติ๋ง! ๆ
"เค้าแค่ทำร้ายเธอด้วยวาจานี่นา ถ้าจิตใจเธอเข้มแข็งก็เท่ากับว่าพี่ชายไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย"
"ผิดกับลูกน้องคนอื่นๆที่โดนเค้าทั้งซ้อมและทุบตีตอนทำผิด"
แซกเอ่ยและเงยหน้ามองขึ้นฟ้า เห็นใบหน้าสดสวยเลอะน้ำตาประกอบกับฉากหลังเป็นเมฆขาว
"อือ เราจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้ ใช่แล้วแหละ เค้าไม่กล้าตบตีเราด้วยซ้ำไป ทำอะไรเกินเลยก็ไม่กล้า"
"จริงสิ ที่จริงเค้าไม่กล้าแตะเนื้อต้องตัวเราด้วยซ้ำ ชิ"
สาวน้อยเอ่ยและปาดน้ำตา ก่อนจะเข็นรถพาเจ้านายน้อยเดินไปให้อาหารปลาที่ริมน้ำ
"เราเองก็ต้องขอโทษที่เรียนกศน.ไม่จบม.6เสียทีนะ เธอน่ะอยากเรียนป.ตรีใช่ไหมล่ะ" หนุ่มผอมโซเอ่ยขณะฉีกขนมปังแผ่นโยนลงทะเลสาบ ผิวของเค้าขาวซีดราวกับแวมไพร์ที่ไม่เคยต้องแสงแดด ใบหน้าคมขาวผิดกับพี่ชายที่คมเข้ม
"ไม่เป็นไร ถ้านายเรียนจบม.หกแล้วเราค่อยไปต่อตรีด้วยกัน ถึงตอนนั้นคุณเอสต้องยอมให้เราเรียนแน่ๆ เพราะว่าเราต้องไปส่งนายที่มหาลัยไง"
นริศราเอ่ยขณะวางมือน้อยบนบ่าของเพื่อนต่างฐานะ เธอมองลงไปยังฝูงปลาที่กำลังกระโจนขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างเปี่ยมความหวัง
สายลมยามเย็นพัดพาความอึดอัดใจลอยหายไปเสียสิ้น ยามที่เจ้านายมาเฟียไม่อยู่บ้านช่างสบายใจเหลือคณา
สาวใช้ร่างบางเปิดหนังสือนิยายอ่านเป็นภาษาอังกฤษให้เจ้านายน้อยฟังขณะมองพระอาทิตย์ลับตาไปด้วยกัน จากนั้นทั้งคู่ก็เดินกลับมายังคฤหาสน์และรับประทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนที่สาวใช้จะส่งนายน้อยขึ้นไปนอนและป้อนยา
แป๊น! เสียงรถตู้สีดำบีบแตรดังลั่นเมื่อข้ามสะพานมาถึงยังเกาะกลางทะเลสาบ สาวใช้รีบวิ่งลงจากชั้นบนลงมาที่หน้าคฤหาสน์โบราณทรงโรมัน
ตุบ! ๆ ๆ หนุ่มวัยฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำหอบถุงเงินลงจากรถมายืนหน้าสาวใช้ที่กำลังยืนรอ
"มาแล้วครับ นี่เงินจากบ่อน สนามมวย แล้วก็ซ่อง"
"นี่ของสนามม้าครับ"
หนุ่มทั้งสองหอบยื่นถุงผ้าใส่เงินสดให้กับนริศรา พอเธอรับถุงทั้งสี่ใบก็ถึงกับทรุดลงมานั่งยองๆเพราะว่ามันหนักอึ้งเหลือเกิน มีทั้งเหรียญและแบงค์ทุกชนิดเต็มไปหมด
"โอ๊ะ! ๆ ให้พวกเราช่วยเอาขึ้นไปไหมครับ" หนุ่มทั้งสองรีบย่อตัวลงมาช่วยพยุงถุงเงิน
"ไม่เป็นไรค่ะ" สาวร่างบางเอ่ยตอบทันควันเมื่อนึกถึงคำสั่งเจ้านายว่าอย่าให้ใครเข้าห้องทำงานของเค้า
"งั้นลำบากหน่อยนะครับ"
"ต้องขอตัวแล้วหละครับ"
ลูกน้องแก๊งมาเฟียทั้งสองคนโค้งคำนับแล้ววิ่งขึ้นรถตู้ก่อนจะขับออกไปทางสะพานไม้ที่ยาวเกือบหนึ่งกิโล
อึ๊บ! อึบบบบ! สาวน้อยกอดถุงเงินสี่ใบและเดินโซซัดโซเซขึ้นบันได ใบหน้าเรียวเล็กแดงก่ำเมื่อออกแรงจนสุดกำลังกาย
จู่ๆเท้าก้าวพลาดขั้นบันไดชั้นที่หกทำให้ร่างน้อยหงายหลังลงมาฟาดกับพื้นบ้านดัง โครม!
ถุงผ้าแตกเงินเหรียญกระจัดกระจาย เงินแบงค์ก็ไหลออกมาผสมปนเปกันมั่วไปหมด
โอยยย! นริศราลุกนั่งและร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดไปทั้งแผ่นร่าง ทว่าพอมองเห็นเงินจากบ่อนผสมกับเงินที่อื่นมั่วไปหมดก็ทำให้เธอตกใจกลัวจนลืมเจ็บ
"ตายแล้ว จะทำยังไงดี" เด็กสาววัยสะพรั่งพึมพำขณะคลานก้มเก็บเงินมากำไว้โดยไม่รู้ว่าจะเอายัดใส่ถุงไหน เพราะปกติแล้วเธอต้องคอยนับเงินจากที่ต่างๆและทำบัญชีแยกกันเพื่อไม่ให้ยอดมันผิดเพียน
แปะ! ๆ ๆ จู่ๆน้ำตาก็ไหลเอ่อล้นดวงตาแป๋วก่อนจะหยดลงบนแบงค์หลากสี ภาพเจ้านายหน้าหล่อลอยแว๊บเข้ามาในหัว
เอี๊ยดด! ๆ ๆ เสียงรถเก๋งกันกระสุนเบรคอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ขณะที่สาวใช้กำลังก้มเก็บเงินพลางร้องไห้
จู่ๆหนุ่มร่างใหญ่ในสูทสีดำก็กอดคอสาวสวยสองคนเดินเข้ามาในบ้าน พวกหล่อนเดินโซเซเหมือนจะเมามาก
นริศรา! จู่ๆเสียงดุดันก็ตวาดดัง
ฮือ! ๆ ๆ สาวรับใช้เงยหน้าพนมมือไหว้ทัังน้ำตาเมื่อเธอรู้ว่าต้องโดนทำโทษเป็นแน่แท้
"พวกเธอกลับไปก่อน" มาเฟียหนุ่มคลายท่อนแขนล่ำกล้ามที่พาดคอสาวสวยสองคนและสั่งพวกหล่อนกลับทันใด
"อ้าว อะไรกันคะ" สาวคนนึงทำหน้างง
หนุ่มใหญ่ล้วงเงินในกระเป๋าเสื้อสูทยัดใส่มือสองสาวแล้วตวาดดัง "กลับๆไปซะ"
ร่างใหญ่ก้าวเข้ามาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเด็กสาวที่กำลังคุกเข่าเอาสองมือปิดหน้า
"เจ็บตรงไหนบ้าง บอกฉันสิ จะร้องไห้ทำไม" หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะแกะมือน้อยออกจากใบหน้าที่เล็กเรียว เค้าหายใจรดผมหน้าม้าปลิวไหวขณะก้มมองดวงตากลมแป๋วที่โชกน้ำตา
"หัวเข่าแตกนี่" เสียงดุๆที่คุ้นเคยดังขึ้น จู่ๆท่อนแขนก็สอดทาบแผ่นหลังและข้อพับก่อนจะยกร่างเล็กบางอุ้มขึ้นอย่างง่ายดาย
ตุบ! ๆ ๆ มาเฟียหนุ่มอุ้มสาวรับใช้ขึ้นบันไดไปยังชั้นบนสุดของบ้านอย่างง่ายดายราวกับอุ้มตุ๊กตา
ตึ่ก! ตั่ก! ๆ ๆ หัวใจดวงน้อยของสาวสวยเต้นระรัวไปกับจังหวะฝีเท้าของเจ้านายใหญ่ ช่างน่าฉงนใจเมื่อนอนหงายอยู่บนท่อนแขนอันทรงพลังที่ควรจะทำร้ายเธอเพื่อเป็นการลงโทษ
ฟุ่บ! จู่ๆร่างบางก็ถูกวางลงนั่งห้อยขาบนโต๊ะทำงาน หนุ่มใหญ่ลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าแล้วใช้มือบีบข้อเท้าเล็กๆแดงเป็นวงก่อนจะยกเท้าเล็กๆขึ้นมาย่ำบนขาของเค้าเอง
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายก้มลงขณะที่ปากเป่าลมร้อนพวยพ่นใส่หัวเข่าของสาวใช้ มือใหญ่ปาดเลือดที่ซึมซิกๆออกมาทางแผลถลอก
"เจ็บไหม" ใบหน้าคมดุเงยขึ้นสบตา แววตาของเจ้านายช่างผิดเพี้ยนไปจากแต่ก่อน
"ไม่ค่ะ ฉันขอโทษนะคะที่ทำเงินปนกัน" เด็กสาวตอบหนุ่มใหญ่รุ่นเกือบจะพ่อ
"ไม่เป็นไร ต่อไปนี้เธออย่าทำให้ตัวเองเจ็บอีกนะ" มาเฟียหนุ่มตอบแล้วก้มลงจูบปากแผลเบาๆ
จุ๊บ! ๆ อื้อ! อืออ! เด็กสาวถึงกับตัวสั่นเมื่อริมฝีปากร้อนนุ่มกำลังดูดเลือดของเธอจนเหือดแห้งไปจากปากแผล
"หยิบขวดนั้นมาซิ" หน้าดุๆเงยขึ้นและชี้นิ้วสั่งให้สาวรับใช้หยิบเหล้าบนชั้นวางใกล้ๆกับโต๊ะทำงานลายมังกร
"นี่ค่ะ" เด็กสาวหยิบขวดเหล้าทั้งคราบน้ำตาที่เลอะหน้า เจ้านายรับมันมาเปิดแล้วยกดื่มอึกๆ จากนั้นก็พ่นเหล้าราดลงบนบาดแผลที่หัวเข่าของเธอต่อ
"พรุ่งนี้แซกไปหาหมอนี่ เธอก็ให้หมอทำแผลเสียนะ" หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะล้วงผ้าเช็ดหน้าในเสื้อสูทมาซับแผลบนหัวเข่าแดง
"ค๊ะ ค่ะ" สาวน้อยตอบและถามกลับ
"คุณ คุณเอสจะไม่ลงโทษฉันจริงๆหรือคะ"
"ใครบอก"
"พรุ่งนี้เธอต้องกลับมานั่งแก้ผ้าตอนที่ฉันทานมื้อเย็น" เจ้านายเอ่ยแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงาน
ฮือ! ๆ ๆ ๆ สาวน้อยร้องโฮอีกชุดใหญ่