ทาสรับใช้เจ้านายมาเฟีย
ตอน เหตุผลที่ไม่โดนล่วงเกิน
กลางดึกสงัด
สาวน้อยวัยแรกแย้มกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในห้องนอนชั้นบนสุดของบ้าน ซึ่งห้องของเธออยู่ตรงข้ามกับห้องของเจ้านายมาเฟียนั่นเอง
เรือนร่างเพรียวขาวกำลังนอนหงายอ้าซ่าหลับตาพริ้ม มุมปากสีชมพูมีรอยยิ้มจางๆ แก้มของข้างป่องโตแม้ใบหน้าจะเล็กเรียวราวกับเด็ก
ลมหนาวโบกโชยเข้าทางหน้าต่างห้องนอนที่เปิดไว้ ผ้าม่านสีขาวปลิวไหวขณะที่มือน้อยเริ่มกำแน่น
จู่ๆเหงื่อก็ไหลซึมออกทางลำคอขาวที่ยาวระหงส์ ผิวกายเนียนลื่นชุ่มน้ำไปเสียหมดเมื่อเจ้าตัวกำลังฝันร้าย
ภาพพ่อกับแม่จูงลากแขนเด็กหญิงปรากฏอยู่ในห้วงนิทรา ใบหน้าเรียวสวยบิดเกร็งขณะที่เห็นชายแก่กับลูกชายวัยรุ่นกำลังยืนตรงหน้า จู่ๆพ่อกับแม่ก็ผลักเด็กหญิงตัวน้อยให้ลงก้มกราบมาเฟียแก่ๆ
"ต่อจากนี้ลูกต้องอยู่กับคุณท่านนะ นริศรา พ่อกับแม่คงอยู่ดูแลหนูไม่ได้แล้ว"
เสียงจากพ่อที่ไม่คุ้นเคยดังก้องอยู่ในความฝัน
ฮือ! ๆ ๆ เด็กหญิงในฝันกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ขณะเดียวกันสาวสวยบนเตียงมีน้ำใสไหลเอ่อออกทางดวงตาที่ปิดสนิท
"แม่คงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว" เสียงจากผู้ให้กำเนิดยังดังแว่วอยู่ในหัว ตามด้วยเสียงชายแก่มาเฟียที่ดูสุขุมใจดี
"เอาเงินนี่ไปรักษาตัวเถอะ เด็กคนนี้ฉันจะดูแลให้เอง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ถ้าพวกเธอทั้งสองหายดีค่อยกลับมารับ"
"น้องชื่ออะไรหรือฮะ" เสียงหนุ่มวัยรุ่นในชุดสูทสีขาวดังอยู่ตรงใบหน้าที่เล็กเรียว เค้าคุกเข่าลงเสยผมเหน็บหูให้เด็กหญิงก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามพ่อแม่บังเกิดเกล้าของเธอ
ใบหน้าที่คมเข้มกับดวงตาที่แน่วแน่คู่นั้นยังจำได้ดีมาจนถึงวันนี้ ทว่าปัจจุบันเค้ากลับดูดุดันและแข็งกร้าวผิดกับตอนเป็นเด็กมัธยมราวกับคนละคน
แอ๊ดดด! จู่ๆประตูห้องนอนก็โดนเปิดออกกว้างเพราะว่ามันไม่เคยถูกลงกลอน
เงาร่างใหญ่สูงสง่าค่อยๆเลื่อนเข้ามาถึงข้างเตียง แสงจันทร์ที่ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างเผยให้เห็นร่างอันกำยำที่กำลังนั่งลงข้างเอวเด็กสาว
"ฝันร้ายอีกแล้วหรือ" เสียงเข้มขรึมดังอยู่บนหัว มือใหญ่ลงลูบน้ำตาที่เลอะหางตาลงมาถึงแก้มสองข้าง
อึก! ๆ ๆ มือซ้ายของมาเฟียหนุ่มยังคงยกกระดกขวดเหล้าดื่มแทนน้ำ ใบหน้าคมหล่อแดงฉ่ำ
"ทำไมเธอไม่ดูแลตัวเองเอาเสียเลยนะนริศรา"
ชายหนุ่มรุ่นเกือบพ่อบ่นขณะลูบมือกับขาอ่อนขาวๆลงมายังหัวเข่าที่มีบาดแผลถลอกปอกเปิก เค้าก้มมองช่วงขาเด็กสาวและถอนหายใจแรงเมื่อเห็นแผลเป็น
ลมหายใจร้อนผ่าวที่พ่นรดขาอ่อนด้านในทำให้เจ้าของร่างบางรู้สึกตัวตื่นขึ้นจากความฝัน ทว่าการอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้ ราวกับกำลังโดนผีอำ
คุณ! คุณเอส!
"แผลนี้มันจะหายไปหมดไหม" ชายหนุ่มกำลังใช้มือลูบหัวเข่าและพูดกับตัวเอง
เค้าค่อยๆดึงผ้าห่มผืนบางขึ้นมาปิดช่วงล่างของสาวน้อยถึงช่วงเอวก่อนจะกลับขึ้นมานั่งมองใบหน้าสวย
"หึ! ๆ ยังดีที่หน้าไม่เป็นอะไร"
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างพอใจขณะมองหน้าเด็กสาวที่กำลังแกล้งหลับ เค้าใช้หลังมือซ้ายลูบแก้มขาวนุ่มที่เย็นฉ่ำเบาๆราวกับว่าเธอเป็นของเล่นที่มีค่า ไม่ต้องการให้แตกหักเสียหาย
อืออ! จู่ๆนริศรากลับร้องครางเมื่อรู้สึกว่าหน้าของหนุ่มหล่อกำลังลงมาซบบนหน้าท้องอันแบนราบของเธอ แขนท่อนใหญ่โอบทับบนอกและหน้าขาในสภาพสวมกอด
"อยู่กับฉันไปนานๆนะ" เสียงเข้มขรึมค่อยคลายความดุดันออกไปขณะที่มือใหญ่ค่อยๆคลายออกจากร่างบาง
ฟุ่บบบ! ผ้าห่มผืนน้อยถูกชักร่นขึ้นมาปิดคลุมถึงลำคอขาว
ตุบ! ๆ ๆ เสียงฝีเท้าค่อยๆหายออกไปทางนอกห้อง
แฮ่ก! ๆ ๆ สาวใช้ลุกนั่งและหอบหายใจแรง หัวใจสั่นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าร้อนฉ่าราวกับเพิ่งโดนตบ
รู้สึกสับสนไปหมด ทำไมเค้าถึงดูเป็นห่วงเรามากขนาดนี้?
เมื่อนึกถึงภาพในฝันน้ำตาก็หลั่งไหลพรั่งพรูออกมาอีก รู้สึกน้อยอกน้อยใจที่โดนพ่อกับแม่ลากมาขายเป็นเด็กรับใช้ บัดนี้พวกเค้าเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่มีทางรู้เลย สิ่งที่ทำให้หยุดร้องไม่ได้ก็คือคิดถึงคุณท่านเหลือเกิน
ชายชราคนนั้น มาเฟียแก่ๆในฝันก็คือพ่อของคุณเอสนั่นเอง เค้าใจดีมาก แถมยังเป็นสุภาพบุรุษในทุกกระเบียดนิ้ว
ยามเช้า
วืดดด! ๆ ๆ เสียงรถเข็นไฟฟ้าวิ่งออกมายังห้องโถง วันนี้คุณแซกตื่นแต่เช้าและแต่งตัวหล่อเหลา เค้าดูตื่นเต้นมากๆที่จะได้ออกไปข้างนอก
"นริศรา ๆ" นายน้อยตะโกนเรียกสาวใช้วัยเดียวกันอย่างอารมณ์ดี
"มาแล้วค่ะ" เด็กสาวในชุดเดรสสีครีมกับผ้ากันเปื้อนวิ่งออกจากห้องครัว มือถือถาดผลไม้
"ป่ะไปกัน" หนุ่มน้อยตัวขาวซีดเงยหน้าเอ่ย มือเอื้อมหยิบแอปเปิลในถาดลงมากัดดังกร๊อบ! ๆ
"ไม่กินข้าวก่อนหรือ" นริศราเอ่ยอย่างสนิทสนมกับแซกเพราะเป็นเพื่อนเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
"ไม่หละ ฉันอยากไปไหว้คุณแม่เร็วๆ อีกอย่างนะ เราจะได้มีเวลาเหลือไปนั่งคาเฟ่เปิดใหม่ด้วย" คุณแซกเอ่ยขณะยิ้มกว้างจนหน้าบานแฉ่ง
"ฮิ! ๆ งั้นรอแปบนึงนะ เราจะไปห่อของกินก่อน เผื่อนายจะหิวกลางทาง" สาวน้อยเอ่ยก่อนจะพาร่างสะโอดสะโองวิ่งกลับเข้าห้องครัว
สิบนาทีต่อมา
บรืน! ๆ ๆ รถตู้สีขาวกำลังแล่นบนถนนริมทะเลสาบ คุณลุงอาจกำลังตั้งหน้าตั้งตาคุมพวงมาลัยมุ่งหมายไปยังสุสานบนยอดเขา
"เป็นไง วันนี้อากาศดีนะ ว่าไหม" คุณแซกเอ่ยขณะเลื่อนกระจกรถตู้เปิดและยื่นมือออกไปข้างนอก
"นั่นสิ ฮิ! ๆ"
"ว่าแต่ทำไมคุณเอสไม่ไปไหว้คุณแม่ด้วยล่ะ"
สาวรับใช้เอ่ยถามน้องชายมาเฟีย
"ไม่รู้สิ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมพี่ก็ไม่เคยไปไหว้แม่เลยมั้ง" แซกตอบอย่างเหม่อลอย
"อือ ช่างเหอะ วันนี้เราจัดสุสานของคุณนายให้สวยไปเลย แล้วอยู่กินข้าวเที่ยงกับหล่อนที่นั่นแหละ" นริศราเอ่ยและก้มหยิบพวงมาลัยดอกไม้สดจากตระกร้ามาวางบนตัก
"โห เธอร้อยเองเหรอ" แซกตื่นเต้นเมื่อเห็นพวงมาลัย เค้าแย่งมาคล้องคอตัวเองและถ่ายรูปเซลฟี่อย่างสนุกสนาน
เหอะ! ๆ ๆ คุณลุงคนขับรถก็หัวเราะตามไปด้วย
ราวๆสามสิบนาทีรถตู้ก็แล่นขึ้นมาจอดบนยอดเขา ทั้งสามเดินมาจุดธูปไหว้หลุมศพคุณนายและช่วยกันทำความสะอาดป้ายหลุมคนละไม้คนละมือ
แซกใช้ไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่นขณะที่เค้านั่งบนรถเข็นไฟฟ้า คุณลุงใช้กรรไกรตัดหญ้าเล็มหญ้าเขียวๆโดยรอบหลุมศพให้เรียบเตียน
นริศรากวาดและเช็ดหลุมศพด้วยผ้าขาวชุบน้ำ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนเอี่ยม จากนั้นทั้งสามคนก็ปูเสื่อที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับหลุมศพแล้วล้อมวงทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อถึงช่วงเที่ยงวันแซกก็ให้คุณลุงพาไปที่ร้านคาเฟ่และสั่งกาแฟกับสเต็กมากินด้วยกัน พอยามบ่ายคล้อยรถตู้ก็แล่นผ่านสะพานไม้กลับสู่เกาะกลางทะเลสาบ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ทรงโรมันแซกก็พานริศราขึ้นไปยังห้องเก็บอัฐิของตระกูลที่อยู่ในห้องปิดตายชั้นบนสุดของบ้าน
เท่าที่สาวใช้ตัวน้อยจำความได้นั้นห้องนี้แทบไม่เคยเปิดออกเลย แต่วันนี้นายน้อยต้องการทำความสะอาดให้กับคุณแม่เป็นพิเศษเค้าจึงเปิดประตูแล้วพาเข้าไปในห้องอับและฝุ่นเขรอะ
ฮัดชิ้ววว! นริศราจามเสียงดังขณะยืนปัดฝุ่นตามผนังห้อง คุณแซกลุกยืนพิงอกกับชั้นวางอัฐิและหยิบโถหินอ่อนสีขาวอันนึงออกมาเช็ดด้วยผ้า พอเงยมองด้านบนก็เจอกับรูปชายแก่สีขาวดำที่ดูน่ากลัวๆ
"ในห้องนี้มีเถ้ากระดูกคนในตระกูลตั้งแต่สมัยสงครามโลกเลยนะ คุณทวดของทวดฉันเป็นวีรบุรุษสงครามด้วย ดูสิ" แซกเอ่ยอย่างภูมิใจขณะวางโถอันนึงกลับเข้าที่แล้วหยิบอีกอันมาเช็ดต่อ
"หืมม! โหวว" สาวใช้เงยหน้าสูงเพื่อมองรูปเจ้าของอัฐิแต่ละคนโดยกวาดสายตาไปมา
"อันนี้ของแม่ฉัน เธอเช็ดให้เอี่ยมกว่าใครๆเลยนะ" แซกยื่นโถหนักๆสีชมพูยื่นใส่มือน้อย วันนี้เค้าดูจะแข็งแรงเป็นพิเศษ
อือ! นริศราพยักหน้าแล้วใช้มือเปล่าปัดฝุ่นที่เกาะโถรูปร่างคล้ายๆเจกัน
"แล้วไหนล่ะรูปแม่" สาวน้อยเอ่ยถามขณะเงยมองและกวาดสายตาไปรอบๆ
จู่ๆเธอก็ตัวแข็งทื่อ ดวงตาจ้องเขม็งไปยังรูปสาวสวยที่ใบหน้าดูคุ้นๆ
ภาพหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงลายมังกรทำให้ลืมหายใจไปชั่วขณะ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเหมือนกับหน้าที่นริศราเห็นในกระจกแทบทุกเช้า
จะต่างกันก็แค่หญิงในรูปดูแก่และเป็นสาวมากกว่าเธอในตอนนี้
"ก็นี่ไงแม่ฉัน" แซกชี้นิ้วไปยังรูปที่นริศรากำลังจ้องมองอยู่
เพล๊งงง! จู่ๆโถเถ้ากระดูกในมือของเธอก็หลุดร่วงลงมาแตกเกลื่อนพื้น
"เห้ย! นั่นกระดูกแม่ฉันนะยัยนริศรา" คุณแซกตะโกนลั่น
"ทะ แล้วทำไมแม่นายหน้าเหมือนฉันเป๊ะเลยล่ะ"
สาวน้อยยืนปากสั่นขาแข็งในสภาพก้าวเท้าไม่ออก