จุดกลับใจ
10
PUIFAI - จุดใต้ตำตอ
ตอนแรกฉันจะชวนพ่อกับแม่ไปด้วยจะได้ช่วยตัดสินใจเรื่องโรงเรียนหลาน แต่พอออกมาจากห้องก็เห็นทั้งสองคนนั่งหน้าเครียดและบอกต้องรีบกลับ เพราะงานที่บ้านมีปัญหา
สินค้าที่เราส่งไปติดอยู่ที่ศุลกากรลาว อาจจะมีอะไรผิดพลาด หรือมีกฎหมายใหม่ขึ้นมา เรื่องนี้พ่อต้องไปจัดการเองและแม่ก็ต้องไปด้วย เพราะแม่จะเป็นคนเก่งเรื่องเอกสารบัญชีต่างๆ
ฉันเลยออกจากคอนโดสาย จองตั๋วให้แม่กับพ่อกลับบ้านและไปส่งท่านที่สนามบิน พอส่งแล้วก็ขับรถอ้อมเมืองกรุงเทพหาโรงเรียนให้ลูกต่อ
ไล่จากไกลไปใกล้ ใกล้ที่ว่าไม่ใช่คอนโด แต่เป็นร้านใหม่ ฉันตั้งใจประหยัดค่าเช่ารีโนเวทเสร็จจะย้ายไปอยู่ที่ร้านเลย เพราะร้านมีตั้งสามชั้น
“โรงเรียนนี้ปุยปุยชอบไหมลูก” ฉันถามลูกหลังจากที่จอดรถหน้าโรงเรียนหนึ่ง เธอกอดอกทำหน้าครุ่นคิด คิ้วขมวดทำปากจิ๊ๆราวกับผู้ใหญ่
“หนูว่ามันมีผีค่ะแมแม่”
จบ แบบนี้คือไม่ชอบ
ฉันไม่รู้ว่าลูกสาวเลือกจากอะไร บางโรงเรียนไฮโซหรูหราก็ไม่ชอบ เอกชนกลางๆก็ไม่เอา ส่วนรัฐบาลเห็นรั้วก็ส่ายหัวแล้ว ฉันก็เลยขับรถไปแถวๆร้านที่เช่าอยู่วนอยู่สองสามรอบหาโรงเรียน จนมีโรงเรียนหนึ่ง ไม่ใหญ่มาก แต่ไฮโซใช้ได้ คล้ายจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ
ฉันชะลอรถและจอดหน้าโรงเรียนเหมือนเดิม หันมองปุยนุ่นที่นั่งคาดเบลท์ที่เบาะข้างคนขับ ลูกชะเง้อมองดูสนใจมาก อิแม่อย่างฉันเลยรีบเสิร์ชชื่อโรงเรียนและเรตค่าเทอมทันที
ทะ เทอมละหกแสน...
เหม่อเลยกู -_-^
ฉันค่อยๆหันไปมองปุยนุ่นอีกครั้ง พอดิบพอดีกับที่เธอหันมายิ้มหวานและชี้นิ้วเข้าไปในโรงเรียน
“หนูจะเรียนที่นี่ค่ะแมแม่ จะตั้งใจเรียนให้เก่งๆ จะเป็นมิสยูนิเวิร์สเลยค่ะ^[]^!”
เหมือนสิ่งที่ฉันทำกับพ่อแม่หวนกลับมาเอาคืน ฉันเป็นแบบปุยนุ่นเป๊ะ เลือกแต่สิ่งดีๆสิ่งสบายใจให้ตัวเอง แพงแค่ไหนถ้าฉันอยากได้ พ่อกับแม่ก็ต้องหาเงินมาซื้อให้
ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะยกมือลูบหัวปุยนุ่น
“โอเคค่ะ งั้นเรียนที่นี่ วันจันทร์แม่จะมาติดต่อนะ”
“เย้~ แมแม่ของปุยปุยน่ารักที่สุดในโลกเล้ย รักนะคะ”
หนึ่งเทอม มีราวๆหกเดือน กรี๊ด เดือนละเป็นแสน อิปุยฝ้ายมึงทำอะไรลงไปเนี่ย! ฉันเหมือนจะหัวเสียตอนคำนวณเดือน แต่พอหันไปเห็นลูกที่นั่งติดคอนโซลรถชะเง้อมองโรงเรียนก็ต้องทำใจให้ได้
ลูกดูชอบโรงเรียนนี้จริงๆ ไม่หุบยิ้มเลย แถมตาเป็นประกายวิบวับ
โอเค ฉันจะพยายามหาเงินให้ได้แล้วกัน
ผ่านร้านที่เช่าพอดี เวลามีน้อยและเพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว ฉันเลยจอดรถกดโทรหาวิศวกรโครงสร้างที่เอวาถ่ายนามบัตรส่งมาให้ เผื่อทางนั้นอยากได้รูป อยากเห็นตึกฉันจะได้ส่งให้ทันที
(สวัสดีครับ)
“สวัสดีค่ะ สนใจตรวจโครงสร้างอาคารค่ะ ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนยังไงคะ และค่าใช้จ่ายยังไง”
(ยินดีครับ ผมภัคพล อรุณรัตน์ จาก APN ENGINEERING ขออนุญาตสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอาคารครับ)
พอถามข้อมูลเบื้องต้น จำนวนชั้น อายุตึก และสถานที่ ทางนั้นก็สรุปให้ทันทีว่าสามารถตรวจได้ภายในวันนี้ เพราะตึกแถวของฉันไม่ใช่ตึกใหญ่อะไร และบริษัทก็ไม่ได้อยู่ไกลมาก
ฉันมีเวลาเหลือ ไม่อยากขับรถไปมาเสียเที่ยว เลยหันไปมองปุยนุ่นและถามลูก
“ปุยปุยเดี๋ยวแม่ทำธุระอีกนิดนะคะ อาจจะร้อนหน่อยนะหนูโอเคไหม”
“ได้ค่ะ จิ๊บๆ”
ฉันอมยิ้มพลางส่งมือไปลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะนัดแนะกับฝั่งนั้นที่หน้างาน โชคดีที่แดดร่มพอดีฉันเลยจูงมือลูกลงไปด้วยแทนการนั่งรอในรถ ทางนั้นมากันสี่คน แต่งตัวชุดพนักงานสวมหมวกเซฟตี้วิศวกรมือถือเอกสาร และเครื่องมือ
“สวัสดีครับคุณปุยฝ้าย”
“สวัสดีค่ะ คุณภัคพลใช่ไหมคะ”
“ครับ อาคารสามสิบปียังไม่เก่าเท่าไหร่ภายนอกยังดูดีนะครับ”
“อ๋อค่ะ เจ้าของเก่ารีโนเวททุกเจ้าเลยค่ะ โครงสร้างต่างๆยังไม่รู้ รบกวนคุณภัคพลด้วยนะคะ”
“ยินดีครับ เดี๋ยวผมดูเบื้องต้นเก็บข้อมูลให้แล้วมาแจกแจงกันว่าจุดไหนมีปัญหา”
แล้วคุณภัคพลก็ส่งยิ้มให้ปุยนุ่น
“ลูกสาวคุณปุยฝ้ายเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ปุยปุยสวัสดีคุณลุงสิคะ”
“สวัสดีค่ะ”
ลูกสาวฉันยกมือไหว้และย่อเข่าเล็กน้อยจนคุณภัคพลเผยยิ้มกว้าง คนที่เป็นวิศวกรโครงสร้างคือคุณภัคพลหรือคุณภัค(เขาให้ฉันเรียกชื่อเล่น) ส่วนที่มาด้วยคือลูกน้อง
แต่ทุกคนทำงานกันมืออาชีพมาก ฉันกับลูกเดินไปซื้อไอติมกลับมาก็เสร็จแล้ว พวกเราจึงย้ายกันไปคุยที่คาเฟ่ใกล้ๆ คุณภัคบอกว่าโครงสร้างยังดีถ้าจะรีโนเวทก็ทำได้เลย
ฉันจึงถามเรื่องอินทีเรียกับต่อเติม
“ได้ยินมาว่า APN มีอินทีเรียรับเหมาครบวงจร ถ้าจะใช้บริการมีส่วนลดไหมคะ”
“ใช่ครับ มีครบวงจรเลยครับ ตามจริงเรามีแพ็กเกจตรวจโครงสร้าง ออกแบบและรับเหมาอยู่ครับ ดูแลจนจบงาน ถ้าคุณปุยฝ้ายสนใจเราจะเตรียมทีมงานด้านรับเหมาให้ จะได้คุยแบบต่อได้เลย”
คุณภัควางเอกสารและโบรชัวร์ให้ฉันดู หน้าโบรชัวร์มีรูปตึกบริษัทและแจกแจงว่ามีบริการด้านไหนบ้าง ฉันหยิบมาดูและอ่านคร่าวๆดูความน่าเชื่อถือก่อนอันดับแรก ตึกไม่ได้สูงลิบฟ้ามีราวๆสิบห้าชั้นแต่ใหญ่ใช้ได้ แถมพนักงานเยอะ มีครบทุกสาย และสโลแกนคือทำงานเร็ว
ฉันจึงดูสารบัญเปิดไปที่ทีมรับเหมาออกแบบ มีตัวอย่างให้ดูเยอะแยะไปหมด และทีมอินทีเรียก็ออกแบบดีทันสมัยมาก
“คุณปุยฝ้ายยังมีเวลาตัดสินใจนะครับ ค่อยๆศึกษารับโบรชัวร์ไปดูก่อนได้” พอฉันวางลงปุยนุ่นก็หยิบขึ้นไปดูต่อ
“ฉันมั่นใจในบริษัทคุณค่ะ คุณออสตินไลออนคอนทรัคชั่นแนะนำมา”
คุณภัคตาโตเล็กน้อย ไงล่ะ อย่ามาโกงฉันนะ คนที่แนะนำบริษัทนี้ให้เป็นมาเฟียนะ
“อ้อครับๆ รับรองคุณปุยฝ้ายไม่ผิดหวัง สะดวกวันไหน อยากได้แบบไหนบอกได้เลยครับ ผมจะให้ทีมมาวัดหน้างานให้ จากนั้นออกแบบ และยกทีมช่างลงทีเดียว เรามีโรงงานไม่เละเทะหน้างานแน่นอนครับ”
ฉันพยักหน้า ดีจัง แบบนั้นจะเร็วมากๆ ฉันอยากให้เร็วที่สุดเพราะไม่อยากเสียเวลาเช่าไปเปล่าๆ ฉันจึงตกลงแพ็กเกจนั้น ราคาออกแบบลดราคาลงจากปกติตั้งสามร้อยบาทต่อตารางเมตร จากที่ดูพื้นที่ชั้นหนึ่งชั้นสองฉันประหยัดได้เป็นหลายแสนเลย
การคุยงานจบไปด้วยดี บริษัทนี้ถูกใจและเข้าใจลูกค้ามาก ฉันรู้สึกสบายใจที่เรื่องนี้มีคนช่วยจัดการ เพราะฉันก็บอกคุณภัคไปตรงๆว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อยากคุมงบ อยากหาคนช่วยดูแลจนจบงาน ไม่สะดวกวิ่งไปนู่นมานี่
•••xxx•••
[Special Part]
APN ENGINEERING
“อิ๊งค์ๆ สรุปงบคุณปุยฝ้ายด้วยนะ ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในเมลแล้ว”
“ได้ๆพี่ภัค ทำไมงานนี้ดีลเร็วจัง ทั้งอินทีเรียทั้งต่อเติม”
“คุณปุยฝ้ายอยากจบงานเร็ว เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ค่อยมีเวลา แต่สวยมากนะ ลูกก็น่ารักมาก พี่จะดูแลให้ดีเลย กิ๊วๆ”
“เบาๆหน่อยพี่อย่าเมาท์ลูกค้า”
“เมาท์ไม่ได้จีบได้ไหม คุณปุยฝ้ายสวยจริงๆ”
ปุยฝ้าย?
คนตัวสูงที่เดินผ่านแผนกวิศวกรโครงสร้างชะงัก ตั้งแต่เธอหายไป ต่อให้ใครพูดชื่อปุยฝ้ายมันก็ชวนให้เขาเอะใจและใจสั่นทุกครั้ง
จนสุดท้ายเอิงหันไปมองภัคพลที่หย่อนก้นนั่งที่เก้าอี้ที่ทำงานแล้วเดินไปหาทันที คนกำลังนั่งพรวดพราดยืนขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน และก้มหัวให้เจ้านายที่มุ่งตรงมาหา
“สวัสดีครับบอส มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”
“เมื่อกี้พูดชื่อใคร”
พนักงานมองหน้ากัน มีหนึ่งคนขยิบตาส่งสัญญาณ ภัคพลถึงกับตาโต เชี่ยชื่อต้องห้าม ห้ามพูดให้บอสได้ยินนี่หว่า!
“เอ่อ...”
“ตอบผม”
“คะ คือชื่อลูกค้าครับ ชื่อปุยฝ้าย... ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร อินทีเรีย ต่อเติมครับ”
“ผมได้ยินว่าคุณพูดถึงลูกค้ามากกว่านี้”
ภัคพลก้มหน้าทันที
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับบอส ผมแค่อยากดูแลคุณปุยฝ้ายให้ดีจนจบงานครับ เพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่มีเวลาเข้าไปดูหน้างานบ่อยครับ”
และสายตาเอิงก็กดมองไปที่โต๊ะทำงานของวิศวกรหนุุ่ม ตรงหน้า ก่อนจะหยิบเอกสารสัญญาขึ้นมาดู พนักงานทุกคนนั่งตัวแข็ง ประธานบริษัทไม่เคยเยือนโต๊ะใครแบบนี้มาก่อน นี่คือครั้งแรก... จุดจบของภัคพลจะเป็นยังไง?
แต่ทว่าคิ้วเขาขมวดเข้าหากัน
ชื่อจริง และนามสกุล... รวมถึงลายมือทำให้หัวใจหล่นวูบตกที่พื้น
“ประภาภร... ทิพยกิตสกุล”
เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ และเงยหน้าขึ้นมองเหม่อออกไปนอกกระจก ภัคพลมองด้วยสายตาหวาดหวั่นไม่รู้ว่าในหัวเจ้านายมีอะไร
จนสุดท้ายเอิงวางเอกสารสัญญาลงบนโต๊ะ และมองกลับด้วยสายตาจริงจัง
“ลูกค้าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว?”
“คะ ครับบอส”
“ลูกโตรึยัง?”
“น่าจะอายุห้าหกขวบได้ครับ”
“ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย?”
“ผู้หญิงครับ”