บทที่ 4 สตรีอุ่นเตียงของข้า 2/2

1217 คำ
กับเว่ยซือหลางคนนี้ นางจะเหลือให้ไว้เพียงความเกลียดชังอย่างเดียวเท่านั้น เขาจะไม่ได้รับความรักจากนางแม้เพียงนิดคอยดู! “เจ้าหึงข้าขนาดนั้นเชียว แค่พูดถึงสตรีอื่น” ใบหน้าง้ำงอของนาง ทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อยที่ทำให้สตรีแสนเย่อหยิ่งหวั่นไหวได้ “ใครว่าข้าหึง ข้ารังเกียจเจ้าต่างหาก” นางกัดริมฝีปากจนห้อเลือด คับแค้นใจนักมิอาจจะชนะคนเลวผู้นี้ได้ “จริงหรือ” “อ๊ะ!” เขาใช้มืออีกข้างลูบขึ้นไปตรงเนินกลีบดอกไม้ แล้วกรีดนิ้วลงตามรอยแยกสีหวานที่ไม่ว่ายามใดก็ทำให้เขาสุขใจ “เจ้า...เอามือสกปรกของเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ” “ข้าอาบน้ำแล้ว เหตุใดยังสกปรก” “เจ้าไม่มีส่วนใดสะอาดหรอก กระทั่งใจเจ้ายังดำทมิฬ” นางพูดอย่างเคืองแค้นเหลือแสน ‘หากมีทางใดที่จะฆ่าเขาทิ้งได้ นางจะไม่ลังเล’ ซือหลางกระตุกยิ้ม ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของนางแล้วขยี้แรง ๆ สั่งสอนคนปากดี “อื้อ...อื้อ...ฮึก” เซี่ยหมิงหลันกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้เขาสอดลิ้นลุกล้ำเข้ามาโดยง่าย แต่ทว่าก็ไม่อาจต้านทานคนประสบการณ์เยอะอย่างเขาได้ เรียวลิ้นสอดแทรกเข้าหาความหวานในโพรงปากอิ่ม รสจูบของเขาทำนางหายใจไม่ทันจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ยามนี้นางเหมือนตัวเองกำลังขาดอากาศหายใจ “ฮึก...ปล่อย...อื้อ” เสียงครางลั่นคำรามร้องในลำคอให้ปลดปล่อยนาง แต่ทว่าเขากลับยังไม่ละเสียทีเดียวแต่ค่อย ๆ เปลี่ยนความเร่าร้อนในตอนแรกเป็นรสจูบที่หวานฉ่ำจนนางเคลิบเคลิ้มในที่สุด ‘อ่อนหักนัก’ กว่าจะถอนริมฝีปากออกจากปากหวาน ๆ ของนางทำให้ร่างที่ระทดระทวยหอบหายใจอยู่นานจนเจ้าเนินเขาสองลูกที่เริ่มใหญ่ขึ้นนั้นไหวกระเพื่อม และเสามังกรของเขาตื่นอย่างบ้าคลั่ง มันขยับขึ้นลงด้วยความกระหายอยากเข้าไปทักทายบุตรในท้องมารดาแล้ว “เห็นเจ้ายามนี้ ข้ามิอาจจะรั้งรอได้อีกต่อไปแล้ว หากเจ้าเป็นผิงหลัวจะดีเช่นไรกันนะ” ยิ่งเขาพูดถึงน้องสาวของนาง นางก็ยิ่งเจ็บแค้นใจนัก ดวงตาที่ปรือฉ่ำยามนี้แดงก่ำทั้งกลั้นก้อนสะอื้นลงในคำคออย่างยากเย็น ‘ข้าจะไม่อ่อนแอให้ได้เจ้าเห็นเป็นแน่ เว่ยซือหลาง!’ “เสี่ยวหลัน...!” เสียงแหบพร่าเรียกนาง ทำให้นางตกตะลึงอีกครั้ง ยามร่วมรักกันตลอดมาหลังแต่งงานมา เขาชอบเรียกแต่ ‘เสี่ยวหลัว’มิใช่ เหตุใดวันนี้เรียกได้ถูกคนเล่า “อื้อ...” นางครางออกจากลำคอเมื่อปลายหยักถูไถไปตามรอยแยกสีหวาน “เจ้ารู้หรือไม่ เสามังกรนี้แหละที่ค้ำยันความสุขให้กับคู่รัก” ‘เขาเมาสุรามาใช่หรือไม่ ถ้อยคำหวานหูเช่นนี้เคยปรากฏที่ใดกัน หรือว่าเขาเดินชนเสาหน้าตำหนักเล่า’ แต่ทว่าเขาก็ไม่ให้นางสงสัยนาน จับสองขาเรียวแยกออกเผยให้เห็นกลีบกุหลาบที่งดงามอยู่เบื้องล่างโดยที่มีปลายเสามังกรถูไถไปมาตามรอยแยกจนน้ำหวานไหลซึมออกมา เว่ยซือหลางกระตุกยิ้มอย่างลำพองใจ “ข้าว่าเจ้าน่าจะคิดถึงข้ากระมัง น้ำหวานเจ้าออกมากเช่นนี้ หรือแท้ที่จริงเจ้าก็ ‘อยาก’ ใช่หรือไม่” “ขะ...ข้า...ไม่...อ๊า!” แค่นางจะปฏิเสธเขาก็กลั่นแกล้งนางทันที ปลายเสามังกรขยับเข้าออกจนกลีบกุหลาบอวบของนางปลิ้นไปตามแรงเสียดสี “ฉ่ำเยิ้มเช่นนี้ยังจะโป้ปดข้าอีกหรือ ภรรยาข้า” นางไม่ได้ต่อปากกับเขา เป็นเพราะเขาต่างหากนางถึงได้เป็นเช่นนี้ ร่างเล็กกัดริมฝีปากแน่นไม่ยอมให้เสียงน่าอายเล็ดรอดออกมาได้ แต่ว่า... “เจ้าทำไมมิร้องเล่า เสียงหวาน ๆ ของเจ้าทำให้ข้าสำราญใจยิ่ง” “ไม่...!” นางกัดฟันแน่นแม้จะเสียวซ่านสั่นไหวเพียงใดก็ตามที “เจ้ากล้าท้าทายข้า ฉะนั้นจงจำเอาไว้เถิด...ข้าจะทำให้เจ้าร้องขอข้าในทุกค่ำคืนมิได้ว่างเว้นแม้แต่ราตรีเดียว...” ต่อให้ยามนี้เขาจะเสพติดการร่วมรักกับนาง แต่เขาจะทำให้นางนอนคิดถึงเขายามต้องห่างไกลกันให้จงได้ คนใต้ร่างรู้สึกได้ถึงความฉ่ำเยิ้มที่กระทบกับแท่งเนื้อจนเกิดเสียง ความแข็งขืนแทรกเข้ามาอย่างล้ำลึกแต่มิได้หนักหน่วงเท่ายามปกติที่เคยขึ้นเตียง ถึงอย่างนั้นก็ทำให้นางร้องอย่างทรมานยิ่งนัก “ซี้ดดด...อื้อ...ท่านอ๋อง...อื้มม...อย่าทรมานข้า” ยิ่งเขาเคลื่อนไหวเชื่องช้าเท่าไหร่ นางก็ยิ่งทรมานจนสุดหัวใจ สองขาเรียวเหยียดเกร็งสะโพกยกขึ้นลงอย่างต้องการ แต่นางมิอยากจะร้องขอจากเขา ให้คนที่ตั้งใจทรมานนางได้อกได้ใจ “อืม...คับแน่นดีจริง...เสี่ยวหลันข้าชอบยิ่ง” เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่นางพูดเลยสักนิด และยังคงทรมานนางต่อไปเพื่อยืดเวลารักให้ยาวนานขึ้น ไม่ได้รักนางตั้งสามวันแล้ว มีหรือค่ำคืนนี้จะจบลงง่าย ๆ เสียงโยกตัวเคลื่อนเข้าหาจนเตียงไม้ลั่น แต่นางทำได้เพียงรั้งผ้าห่มขึ้นมากัดไม่ให้ครวญครางออกมา แต่คนอย่างเขาก็มีวิธีอื่นเช่นเดียวกัน “หากเจ้ามิร้องขอ ข้าจะหยุด” ไม่พูดเปล่าเขาหยุดจริง ๆ ‘อีอ๋องชั่ว!’ นางสบถก่นด่าในใจ แล้วสุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับคนกักขฬะอย่างเว่ยซือหลาง “ท่าน...ท่านอ๋อง...ได้โปรด” นางอยากหลุดพ้นความทรมานนี้ออกไปเสีย แต่เจ้าคนต้นเรื่องกลับหยุดนิ่งแล้วเอาแต่ดูดดึงสองเต้าของนางอย่างมูมมามราวกับหมาหิว เสียงลามกดังออกมาเป็นระยะยิ่งทำให้นางดิ้นรนอยากปลดปล่อยความทรมาน “เจ้าควรขอร้องข้าอย่างไพเราะใช่หรือไม่” นางกัดฟันแน่นรู้สึกอัปยศอดสูนัก ที่ต้องมาร้องขอให้ทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ “ท่านอ๋อง...โปรดช่วยภรรยาด้วยเถิด” เสียงหวานเปล่งออกมาแล้วคนที่แน่นิ่งไป ก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแต่ไม่ลงน้ำหนักไปที่ท้องของนาง เขาจับสองขาชันเข่าขึ้นแล้วนั่งระหว่างขาดันสะโพกสอบเข้าระรัว เขาใช้เวลาเพียงไม่นานนางก็รู้สึกได้ถึงโปร่งโล่งสบาย สมองพร่าราวกับตัวเองล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ ร่างใหญ่ทรุดลงนอนเคียงข้าง แล้วก็หลับไปส่วนเซี่ยหมิงหลันนั้นลืมตาโพรงในความมืด คิดถึงชะตาของตัวเองพลันน้ำตาเกลือกกลิ้งลงมาอย่างห้ามไม่ได้ หลังจากนางแต่งงานมา ไม่เคยมีสักครั้งที่จะให้น้ำตาหยดลงมา แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้นางถึงได้เศร้าสร้อยนัก ยิ่งเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นเพียงตัวแทนของใครบางคน ความเจ็บซ้ำกลับบาดลึกในหัวใจ มันเจ็บแสบเสียจนต้านทานไม่ไหว ‘ไม่ว่าสุดท้ายนี้จะจบเช่นไร นางจะขอมีเพียงลูกก็เพียงพอ ส่วนพ่อของลูกอย่างเว่ยซือหลาง’ ‘ตาย ๆ ไปได้ก็ดี!’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม