Chapter 1 | เริ่มเลยไหมตอนเช้า ๆ มังกรของฉันกำลังตื่นได้ที่
“อ๊า! แรงอีก! แรงอีกค่ะคุณราชันย์ อ๊ะ!”
ป๊าบๆ ปึกๆ ป๊าบ ๆ
“เสียวจังเลยค่ะ อ๊ะ!”
กิจกรรมสุดเร่าร้อนของชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังบรรเลงไปอย่างออกรสออกชาติ ด้วยเพลิงโลกีย์หามีความรักใคร่ หญิงสาวตัวเล็กใต้ร่างของชายหนุ่มกำยำ หน้าท้องที่ประกอบด้วยลอนสวยน่าหลงใหล ร่างของเธอกำลังเคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่ชายหนุ่มนั้นส่งให้ ร่างกายนุ่มนิ่มเริ่มกระตุกเกร็งด้วยความเสียวกระสันที่จุดสยิวกลางลำตัว ยิ่งเมื่อชายหนุ่มด้านบนขยับเร่งจังหวะในสนามรบ ทำให้ดวงตาหวานของเธอหลับพริ้ม ปากรูปกระจับเผยอเชิดขึ้นหวังจะได้รับรสจูบสุดเร่าร้อนจากชายหนุ่มด้านบน แต่แล้วเธอกลับต้องกัดปากรูปกระจับสีแดงสดของเธอลงไปเป็นการระบายอารมณ์ที่พร้อมจะพวยพุ่งของเหลวจากตัวเธอแทนเท่านั้น เมื่อไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มด้านบนของเธอจะจุมพิตเธอเลย ไม่ว่าเธอจะบรรเลงเพลงรักกับเขามากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ป๊าบ ป๊าบ!
“อ๊ะ! จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้วคุณราชันย์ อื๊อ!!”
“อืม..”
น้ำกามสีขาวขุ่นได้พวยพุ่งออกมาจากแท่งเอ็นของเขา ที่มันกำลังกระตุกอยู่ในถ้ำสวาทของเธอสองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งอย่างสงบ ‘ราชันย์’ เหลือบมองหญิงสาวใต้ร่างเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ถอดถอนแท่งเอ็นออก เขาเอื้อมฝ่ามือผ่านหน้าของเธอไปหยิบทิชชูมาพันรอบแท่งเอ็นก่อนจะค่อย ๆ รูดถอดถุงยางออกอย่างช้า ๆ จัดการโยนมันทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี ชายหนุ่มก้าวขาลงจากเตียงหยิบกางเกงยีนที่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วมันถูกถอดกองไว้ที่พื้นขึ้นมาสวมอย่างไม่รีบร้อน เสื้อเชิ้ตตัวแพงถูกหยิบขึ้นมาสวมทับร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาติดกระดุมช้า ๆ
“คุณราชันย์ขา จะไปแล้วหรอคะ”
หญิงสาวโผเข้ามาสวมกอดเขาจากทางด้านหลังอย่างออดอ้อนคล้ายลูกแมว ถูไถแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยเนินอกคู่โตขนาดหกร้อยซีซีไปมาอย่างยั่วยวนและเซ๊กซี่ สายตาหวานช้อนขึ้นมองชายหนุ่มจากทางด้านหลังเล็กน้อย
“ทำอะไร”
แต่แทนที่เธอจะได้เสียเหงื่อบรรเลงเพลงโลกีย์อีกครั้งตามที่ใจปรารถนา กลับกลายเป็นว่าเขานั้นรีบผละออกจากเธอราวกับว่าร่างกายของเขานั้นโดนของร้อนก็ไม่ปาน เขาหันไปจ้องมองเธอที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มนั่งคอพับไร้ปราการใด ๆ ห่อหุ้มอยู่บนเตียงด้วยสายตาดุดันแทน
“อย่าโกรธมาหยาเลยนะคะ ก็มาหยาคิดถึงคุณมากแค่นั้นเอง”
เธอก้มหน้างุดตีหน้าเศร้าบีบน้ำตา ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมามองผู้ชายด้านหน้าอีกครั้ง ส่งสายตาปริบ ๆ ให้อย่างออดอ้อนออเซาะราวกับว่าแมงมุมตัวใหญ่ที่สร้างใยเพื่อหลอกล่อแมลงให้มาติดกับก็ไม่ปาน
แต่มันก็ไร้ซึ่งเสียงตอบใด ๆ จากชายหนุ่มเบื้องหน้า เขาไม่ได้เพิ่งรู้จักผู้หญิงคนนี้มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ราชันย์เอื้อมมือหนาไปหยิบกระเป๋าเงินก่อนจะเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบเงินปึกหนึ่งวางไว้ให้เธอบนโต๊ะ พร้อมกับหยิบกุญแจแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ไยดีว่าหญิงสาวในห้องนั้นจะรู้สึกอย่างไร
_________
ตึกสูงเสียดฟ้าตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหลวง มีผู้ชายวัยสามสิบสองปีเดินเข้ามาหาทันทีที่ราชันย์ก้าวเท้าเข้ามาที่บริษัท ราวกับว่ามีเรื่องใหญ่โตที่ต้องรีบแจ้งให้ผู้บริหารอย่างเขารับรู้ให้ได้
“ราชันย์ นายพลเบี้ยวนัดชำระหนี้อีกแล้ว คราวนี้แกจะให้กูจัดการเลยมั้ย”
“นายพล? เบี้ยวชำระหนี้มากี่รอบแล้ว”
“รอบนี้รอบที่สาม”
“งั้นมึงไปจัดการได้เลย กูฝากมึงด้วยแล้วกัน”
ธันวาเป็นเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้มากที่สุดของราชันย์ ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จนวันที่ราชันย์ขึ้นปี1 อยู่ ๆ ก็พูดกับธันวาว่าอยากเปิดกาสิโน และเรื่องกฎหมายไม่ต้องห่วงเพราะครอบครัวนั้นมีอิทธิพลระดับต้น ๆ ของประเทศอยู่แล้ว และธันวาก็เห็นดีเห็นงามด้วย ทั้งคู่จึงช่วยกันเริ่มก่อตั้งแรก ๆ ก็มีทุลักทุเลบ้างแต่อาจเพราะมีคนหนุนหลังเป็นพ่อที่เป็นมาเฟียอยู่แล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างดูง่ายดาย และทำให้ทั้งคู่รักกันเหมือนพี่น้องในครอบครัว
ธันวาเดินออกจากห้องทันทีที่ราชันย์พูดจบเพื่อไปจัดการตามล่าหาตัวนายพลซึ่งก่อนหน้านี้ลูกน้องแจ้งว่าหาตัวไม่พบคาดว่าไปกบดานที่อื่น ไม่มีลูกหนี้คนไหนที่เบี้ยวนัดแล้วมีชีวิตรอดกลับไปจากเงื้อมมือของผู้ชายที่ชื่อราชันย์ได้สักคนเพราะกฎก็คือกฎ คำพูดต้องเป็นคำพูด
โคร๊ม! ตุ๊บ! ตั๊บ! ปัง!!
“อ๊าก! อย่า ๆ อย่าทำผม ผมกลัวแล้ว อย่าทำผมเลย ผมขอร้อง”
เสียงร้องของผู้ชายวัยเกือบสิบห้าปีร้องของชีวิตทันทีที่เท้าทั้งห้าคู่ของลูกน้องที่มากับธันวาก็หยุดลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ธันวาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ตะแคงคอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและน่ากลัวสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกหนี้แน่นอน
“ห้าล้านที่ยืมไปวันนี้กูต้องได้!”
“คุณธันวา ผมขอเวลาอีกสองวัน ผมจะเอาเงินไปให้คุณแน่นอน ผมสัญญา”
“เห็นทีจะไม่ได้นะครับคุณพล เพราะเรื่องนี้ถึงหูราชันย์แล้ว ผมเองคงช่วยอะไรคุณไม่ได้นอกจากผมต้องได้เงิน!”
หลังจากสิ้นเสียงของธันวาแล้วนั้นลูกน้องทั้งห้าคนที่ยืนรออยู่แล้วก็พร้อมใจกันยกกระบอกปืนพกเล็งไปที่หัวของนายพลทันทีอย่างพร้อมเพรียงกัน ขอแค่ลูกพี่อย่างธันวาสั่งเท่านั้นลูกกระสุนจากปลายกระบอกก็พร้อมจะออกจากปากกระบอกทันทีโดยพร้อมเพรียงกันแน่นอน
“อย่า อย่ายิงผม ผมมีข้อเสนอ!”
นายพลที่พยายามยื้อชีวิตตัวเองสุดกำลังขอยื่นข้อเสนอ ทำให้ธันวายืนมองหน้านายพลนิ่ง ๆ รอฟังจนจบ ก็เกิดอาการตกใจกับข้อเสนอที่นายพลยื่นมานั้นค่อนข้างไม่คาดคิดว่าจะออกมาจากปากของนายพล และก็ไม่รู้ว่าข้อเสนอนี้จะถูกใจไอ้ราชันย์หรือเปล่าด้วย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ยิงทิ้งไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ธันวาพยักหน้าตอบรับข้อเสนอของนายพล ก่อนจะหันไปสั่งให้ลูกน้องของเขาหิ้วปีกนายพลขึ้นรถเพื่อกลับไปยังบ้านของนายพลตามที่นายพลได้ยื่นข้อเสนอไว้
เมื่อรถตู้สีบรอนซ์คันใหญ่จอดเทียบที่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง นายพลก็ถูกโยนออกมาจากรถตู้อย่างไม่ไยดี โดยมีธันวาเดินลงตามหลังมาหยุดยืนอยู่ที่ประตูบ้าน สั่งให้ลูกน้องกดกริ่งหนึ่งครั้งก็มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้ด้วยชุดนอนกระโปรงลายคิตตี้! เธอมีอาการตกใจเมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพ่อ ที่นอนจมกองเลือดอยู่ด้านหน้า ร่างเล็ก ๆ ของเธอก็ปรี่หวังจะเข้าไปหาผู้เป็นพ่อทันที แต่ก็ถูกขวางไว้ด้วยผู้ชายร่างกายกำยำสองคน ที่ยืนคั่นกลางระหว่างเธอและพ่อเอาไว้
ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ปากเรียวเล็กสีชมพูดั่งกรีบกุหลาบ จมูกเล็ก ๆ ที่โด่งรับกับใบหน้าหวาน บัดนี้ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาไหลลื้นขึ้นมาทันทีที่เห็นเหตุการณ์ด้านหน้า
“พวกคุณเป็นใคร พวกคุณทำอะไรพ่อฉัน!”
เสียงตวาดเล็ก ๆ เหมือนแมวของเธอถูกพ่นออกมาอยากสงสัย แต่เมื่อธันวาได้ฟังเสียงเล็ก ๆ ของเธอแล้วกลับทำให้ธันวาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก เธอจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรื่องหน้าตาสะสวยอย่างที่พ่อของเธอบอกไว้ไม่มีผิด แต่แววตาของเธอนั้นช่างไร้ประสีประสาและไม่รู้เรื่องรู้ราวเสียเหลือเกิน
“เธออายุเท่าไหร่?”
“คุณถามทำไม! ปล่อยพ่อฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“ปล่อย? งั้นเธอเอาเงินที่พ่อเธอยืมไปมาคืนฉันสิ”
“เท่าไหร่! พ่อฉันยืมไปเท่าไหร่ทำไมต้องมาทำรุนแรงกับพ่อฉันด้วยละ”
“ห้าล้าน”
ธันวาตอบคำถามเธอเบา ๆ แต่คำตอบที่ได้ทำให้สาวน้อยถึงกับอ้าปากค้าง อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เธอหันไปมองหน้าคนเป็นพ่อที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สลับกับหันไปมองหน้าธันวาไปมาอย่างไม่เข้าใจ และท่าทางที่แสดงออกมาว่าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าให้เดาพ่อของเธอนั้นคงเป็นคนที่ดีที่สุดในสายตาเธอ เธอถึงได้แสดงอาการไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินแบบนั้นออกมาอย่างชัดเจน แต่คราวนี้เธอคงต้องผิดหวังแล้วละนะ
“ไม่จริง! คุณโกหกพ่อฉันจะเอาไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ! ไม่จริงใช่ไหมคะพ่อ”
“มันคือเรื่องจริง”
“พ่อ!”
“ผมขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยละกัน ผมจะไว้ชีวิตพ่อคุณ ก็ต่อเมื่อคุณไปกับผม”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความอย่างที่คุณธันวาเขาพูดนั่นแหละ หรือแกอยากเห็นพ่อแกตายเหมือนหมาอยู่ตรงนี้ละ!”
“พ่อเอาเงินไปทำอะไรตั้งห้าล้าน! ทำไมพ่อไม่เคยบอกหญ้าเลยคะ”
“ถ้าไม่อยากเห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก็ไปกับคุณธันวาซะเถอะถือว่าทำเพื่อพ่อนะ”
“แล้วทำไมหญ้าต้องไป นี่มันเรื่องอะไรคะพ่อ หญ้าไม่เข้าใจ”
“แกไปอยู่กับคุณราชันย์ แกจะได้ช่วยพ่อไงกอหญ้าแค่ไปทำงานตามที่คุณราชันย์สั่งนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ต้องกลัวนะ”
กอหญ้าเงียบนิ่งทันทีที่ได้ยินคำพูดจากคนเป็นพ่อ ในสมองตีรวนวุ่นวายตั้งคำถามมากมายขึ้นมาแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบใด ๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่าทำไมพ่อของเธอถึงมีหนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอเห็นทุกวันนี้พ่อแทบไม่ใช้เงินเลยด้วยซ้ำ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนขัดสน มันยิ่งตอกย้ำให้เธอไม่เข้าใจเข้าไปอีก
“พ่อบอกกอหญ้าได้ไหม ว่าเงินตั้งห้าล้านพ่อเอาไปทำอะไรคะ ถ้าหญ้าต้องไปกับเขา หญ้าก็ควรรู้เหตุผลใช่ไหมคะ”
“พ่อขอโทษนะกอหญ้า พอเสียพนันแล้วไปกู้เงินคุณราชันย์ แต่สุดท้ายพ่อก็เสียหมดตัว”
“พ่อ..”
“คิดดี ๆ นะว่าอยากช่วยพ่อหรืออยากเห็นพ่อเธอตายที่นี่”
“ฉันไปก็ได้ .. แต่คุณต้องรับปากว่าจะไม่ทำอะไรพ่อฉัน”
“แน่นอนอยู่แล้ว ผมเป็นคนรักษาคำพูด .. งั้นก็ไปกันได้แล้ว ขึ้นรถเถอะ”
รถตู้สีดำสนิทเลี้ยวผ่านประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กินพื้นที่ไปกว่าสิบไร่ ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ พร้อมกันนั้นก็ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งรีบจ้ำอ้าวมาเปิดประตูรถให้ผู้เป็นเจ้านายทันทีที่รู้ว่าคนในรถนั้นเป็นใคร เผยให้เห็นผู้ชายร่างใหญ่ที่มีส่วนสูงกว่าร้อยแปดสิบห้า ใบหน้าคมเข้มขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ก้าวลงมาจากรถ ก่อนจะยื่นกระเป๋าใบโตให้ป้าจันทร์
“วันนี้มีอะไรกินบ้างครับป้าจันทร์ ผมหิวมากเลย”
“วันนี้ลมอะไรหอบคุณหนูของป้ากลับมาบ้านได้คะเนี่ย นึกว่าจะลืมป้าแก่ ๆ คนนี้ไปซะแล้ว”
“โอ๋ ไม่น้อยใจกันสิครับ ผมจะลืมป้าจันทร์ได้ยังไง ผมให้เทพาโทรมาบอกแตงไทยแล้วนะครับ ว่าวันนี้จะมาทานข้าวฝีมือป้าจันทร์แตงไทยลืมบอกหรือเปล่าเนี่ย”
ป้าจันทร์นั้นเป็นแม่นมของราชันย์เลี้ยงราชันย์มาตั้งแต่แบเบาะ ปีนี้ก็อายุก็ย่างเข้าหกสิบห้าปีแล้ว แต่สุขภาพร่างกายนั้นแข็งแรงราวกับสาว ๆ วัยยี่สิบสามสิบ ใบหน้าที่มีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใสทำให้ราชันย์นั้นติดป้าจันทร์มากมาตั้งแต่เล็ก ๆ และอาจเป็นเพราะป้าจันทร์เองเป็นคนเดียวที่อยู่กับราชันย์ตลอดเวลาด้วย เพราะพ่อและแม่ของราชันย์นั้นทำแต่งานและเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมากทำให้แทบไม่มีเวลาให้ราชันย์เลยก็ว่าได้ แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนในสายตาป้าจันทร์นั้นราชันย์ก็ยังเป็นเด็กน้อยของแม่นมคนนี้เสมอและราชันย์ก็รักป้าจันทร์มากเหมือนเป็นแม่แท้ ๆ คนหนึ่ง
“ป้าก็แซวคุณหนูเล่นไปงั้นแหละ วันนี้ป้าทำข้าวผัดทะเลของโปรดคุณหนู แล้วก็มี ไข่พะโล้ ผัดผักบุ้ง และก็ต้มยำกุ้งน้ำข้น เมนูโปรดคุณหนูทั้งนั้นเลย เดี๋ยวป้าให้แตงไทยไปตั้งโต๊ะรอเลยนะคะ คุณหนูไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะได้ลงมาทานข้าววันนี้คุณท่านกับคุณนายไม่อยู่บ้านนะคะ”
ราชันย์พยักหน้าสองสามที แล้วก้มลงไปหอมแก้มแม่นมฟอดใหญ่ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
ตื๊ด ตื๊ด
‘ว่าไงไอ้ธัน มึงเจอตัวมันมั้ย’
‘จะเรียกว่าเจอมั้ย .. ก็เจอนะ แต่ว่าที่ได้มาไม่ใช่เงินว่ะ เป็นของขัดดอกที่นายพลให้มาแทน’
‘แล้ว’
‘ไว้กูจะเข้าไปหาละกัน จะได้อธิบายทีเดียว’
‘วันนี้กูกลับบ้าน’
‘งั้นกูเอาไปฝากไว้ที่คอนโดมึงก่อนได้ปะ กูไม่สะดวกเอากลับ’
‘ของเหี้ยไรวะ’
‘รหัสเดิมใช่มั้ย เดี๋ยวกูไปไว้ก่อนนะมึงใช้งานกูเยอะกูง่วงนอนละ อ่อ! ราชันย์กูว่านะวันนี้มึงกลับมานอนคอนโดก็ดีนะ เพราะของที่กูทิ้งไว้มันคือแมวน้อยตัวหนึ่ง ค่อนข้างพยศง่ายด้วยถ้าไม่อยากห้องพังมึงควรกลับมา’
‘ไอ้ธัน..’
ตืด ตืด
“คุณหนู ป้าให้แตงไทยตั้งโต๊ะเรียบแล้วนะคะ”
“ครับป้าจันทร์ เดี๋ยวผมลงไปนะครับ”
หลังจากทานอาหารเสร็จ ราชันย์ก็รีบขึ้นมาจัดการงานที่ค้างไว้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไอ้ธันวาบอกว่าทิ้งแมวไว้ที่ห้อง ทั้ง ๆ ที่มันก็รู้ว่าราชันย์ไม่ค่อยชอบขนแมว สงสัยวันนี้ต้องรีบกลับไปจัดการลูกแมวที่ว่าก่อนที่ขนแมวจะปลิวไปทั่วห้องซะแล้ว แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปจัดการไอ้ธันวาต่ออีกที ราชันย์เก็บของอีกเล็กน้อยใส่กระเป๋าแต่งตัวแบบลวก ๆ ก่อนจะขับรถหรู Ferrari 296 GTB กลับคอนโด
กริ๊ก! ราชันย์เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุด หายใจเข้าก่อนจะหายใจออกเบา ๆ พยายามนึกภาพสภาพห้องที่มีแมวรื้อของจนมันกระจุยกระจายในหัว ก่อนจะทำใจค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ แต่เมื่อไฟถูกเปิดแล้วสภาพที่เห็นก็ยังปกติดีทุกอย่าง ยิ่งทำให้รู้สึกแปลก ๆ แบบบอกไม่ถูก หรือว่าแมวมันจะไม่รื้อของจนกระจุยกระจาย หรือว่าแมวไม่คุ้นที่อาจจะแค่เดินไปเดินมา?
‘เมี๊ยว เมี๊ยว’
ราชันย์ลองร้องเรียกแมวเบา ๆ เผื่อว่าจะอยู่แถว ๆ ในห้อง แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ ไม่มีเสียงร้องกลับ ราชันย์ค่อย ๆ เดินเอากรงแมวแบบพกพาที่แวะซื้อที่ร้านสัตว์เลี้ยงก่อนถึงคอนโดวางไว้ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาแมวที่ธันวาพูดถึง แต่แล้วสายตาจะปะทะกับมนุษย์แมวสีชมพูที่นอนขดตัวอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขก ราชันย์ขมวดคิ้วอย่างไม่ถูกใจกับสิ่งที่เห็นนัก ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปที่โซฟาช้า ๆ เพื่อยืนยันสิ่งที่เห็นว่าไม่ได้ตาฝาด แต่ภาพตรงหน้าก็ยังเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ที่สวมชุดนอนคิตตี้นอนขดตัวอยู่ที่โซฟา กรอบหน้ามีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดหลายเม็ด คาดว่าน่าจะเพราะอากาศอบอ้าว เพราะในห้องไม่มีร่องรอยการเปิดเครื่องปรับอากาศ ราชันย์ยืนมองสักพักอย่างพิจารณา ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกง เพื่อควานหาโทรศัพท์เพื่อต่อสายหาธันวาทันที
ตื๊ด ตื๊ด
‘ว่าไง’
‘นี่มันเรื่องอะไร ไหนมึงว่าทิ้งแมวไว้ แล้วทำไมกลายเป็นเอาคนมาไว้ที่คอนโดกู’
‘ก็นั่นไงแมว’
‘แมวห่าอะไร มึงจะบอกว่าที่นอนอยู่นี่กลายร่างมาจากแมวว่างั้น’
‘เออ ๆ ลูกสาวนายพล’
‘แล้วมึงเอาลูกสาวมันมาทำไม’
‘ขัดดอก’
‘ห๊ะ!’
‘มึงได้ยินไม่ผิดหรอก นายพลส่งมาขัดดอก’
‘เป็นพ่อประสาอะไรวะ ส่งลูกมาขัดดอก .. แล้วกูก็ไม่เคยบอกว่ากูรับมนุษย์เป็นของขัดดอก’
‘กูนอนละ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันวันนี้มึงก็คิดสะว่ามีแมวไปนอนเป็นเพื่อนก่อนละกัน’
ตู๊ด ตู๊ด
ราชันย์ยืนมองร่างบาง ๆ ของเธอก่อนจะยัดมือถือใส่ลงไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ค่อย ๆ ช้อนร่างของคนตัวเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพาไปวางในห้องนอนอย่างเบามือ ห่มผ้าให้อย่างลวก ๆ เปิดเครื่องปรับอากาศก่อนจะปิดไฟ แล้วย้ายร่างตัวเองไปนอนอีกฝั่ง ข้าง ๆ ข่มตาให้นอนหลับ
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากมาก ยิ่งปิดเปลือกตาลงมากเท่าไหร่ภาพของคนตัวเล็กที่แม้ว่าจะมองใบหน้าไม่ชัดก็ผุดขึ้นมาในหัวซ้ำ ๆ และราชันย์น้อยจะเริ่มจะออกอาการอยากจะคำรามขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ว่านะกฎของราชันย์ก็มีอยู่ และจะไม่ยอมทำอะไรคนที่ไม่ยินยอมเด็ดขาด
ถึงแม้จะถูกส่งมาขัดดอกแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราชันย์จะต้องรับข้อเสนอนี้ ไว้ค่อยไปถามรายละเอียดกับธันวาอีกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
รุ่งเช้าของวันถัดมาเปลือกตาหนัก ๆ ของกอหญ้าค่อย ๆ เปิดขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือหน้าอกของคน ใช่มันคือเนื้อหนังของคนที่กำลังนอน และเป็นภาพที่เธอเองนั้นกำลังนอนกอดกับบุคคลตรงหน้าอยู่ โดยที่คนคนนั้นไม่ได้สวมเสื้อด้วยซ้ำ ด้วยความตกใจเธอผละออกจากอกของเขาและลุกมานั่งอย่างอัตโนมัติ มองซ้ายมองขวา สำรวจร่างกายตัวเองก็เห็นว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติจากเมื่อคืน
นอกจากห้องที่นอนเพราะจำได้ว่าเมื่อวานผู้ชายคนนั้นพาเธอขึ้นมาแล้วบอกว่าให้อยู่ที่นี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีเจ้าหนี้ของพ่อมา เธอเลือกที่จะนั่งรอที่โซฟาแต่ลืมไปสนิทว่าเธอเป็นคนที่หัวถึงหมอนแล้วจะหลับได้ทันที และเป็นคนที่หลับลึกมากซะด้วย และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหน แต่การมาครั้งนี้เป็นสิ่งที่เธอเลือกไม่ได้จะให้เธอปฏิเสธก็กลัวว่าพ่อของเธอจะเป็นอันตราย เธอไม่มีทางเลือกอะไรเลยสักทางได้แต่จำใจยอมรับกับสิ่งที่จะต้องเจอ แต่เธอก็ไม่คิดว่าเจ้าหนี้ที่ว่าจะกลับมาไวขนาดนี้
“ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ”
ราชันย์บ่นพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันหลังให้เธอ เขาคว่ำหน้าลงกับหมอนสีขาวใบโต ทิ้งให้หญิงสาวที่กำลังตกใจปนงุนงงนั่งนิ่ง ๆ ราวกับถูกแช่แข็งอยู่บนเตียง พอได้สติ สกุณา หันซ้ายหันขวาก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงนอนขนาดคิงไซต์ ออกจากห้องมาสำรวจคอนโดชัด ๆ อีกครั้ง เธอเดินมานั่งนิ่ง ๆ บนโซฟาด้วยหน้าตาที่หมดอาลัยตายอยาก เธอเองก็ไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ประสีประสาการที่พ่อให้เธอมาอยู่กับเจ้าหนี้คงไม่ได้ให้มาปัดกวาดเช็ดถูหรอก แต่ชีวิตของเธอรันทดถึงขั้นต้องมาเผชิญหน้ากับเรื่องบัดซบแบบนี้จริง ๆ หรอ
“ชื่ออะไร?”
สกุณาสะดุ้งตัวโยนทันทีที่ได้ยินเสียงจากบุคคลด้านหน้า เมื่อเห็นใบหน้าชัด ๆ ของเขาแล้ว ใบหน้าคมคายของบุคคลตรงหน้า ความสูงประมาณร้อยแปดสิบห้าเห็นจะได้ เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ที่ถูกสวมลวก ๆ กางเกงนอนสีเทาตัวโต กับทรงผมที่มองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าเพิ่งตื่น แต่พอทุกอย่างประทับอยู่บนร่างกายของผู้ชายคนนี้ กลับทำให้ดูดีอย่างไร้ที่ติ มันยิ่งทำให้สกุณาละสายตาไม่ได้เลยจริง ๆ
“นี่! ได้ยินที่ฉันถามไหมเนี่ย”
พอได้สติเธอก็ลุกพรวดออกจากโซฟามายืนข้าง ๆ ทันที ก่อนจะก้มหน้าตอบเบา ๆ
“สกุณา”
“ก็ไม่ได้เป็นใบ้นี่นา นึกว่าพ่อของเธอจะส่งคนใบ้มาให้ฉันซะละ”
สกุณาได้แต่ยืนนิ่ง ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรจากตรงไหน เดิมทีจะออกมาทำความสะอาดห้อง แต่ทุกอย่างถูกทำความสะอาดจนเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้แต่ฝุ่นสักเม็ดยังไม่มี จะทำอาหารก็เห็นแต่ในตู้เย็นมีแต่อาหารสำเร็จรูป ที่เอาเข้าไมโครเวฟห้านาทีก็ทานได้ มันเลยทำให้เธอไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้แต่เดินมานั่งทำใจที่โซฟากลางห้อง
“รู้ใช่ไหมว่ามาที่นี่ทำไม?”
“ค่ะ”
“แล้วเธอจะเริ่มใช้หนี้แทนพ่อของเธอเมื่อไหร่”
“เอ่อ..”
“เริ่มเลยไหม ตอนเช้า ๆ มังกรของฉันกำลังตื่นได้ที่”
“คือ..”
“เธอจะ เอ่อ ๆ คือ ๆ อีกนานไหม! หรือพ่อเธอส่งเธอมากวนประสาทฉันเล่น ๆ ฉันจะได้ส่งคนไปเก็บกวาด ลีลามากมันรำคาญ!”
“เปล่านะคะ เอ่อ คุณชื่ออะไรคะ?”
“ราชันย์ จำชื่อฉันไว้ให้ดี เวลาครางใต้ร่างฉันอย่าให้มีชื่อคนอื่นเข้ามาเด็ดขาด ฉันไม่ชอบ!”
ราชันย์ที่เริ่มหมดความอดทนกับบุคคลตรงหน้า เพราะเธอเอาแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เขาจึงเลือกที่จะใช้น้ำเสียงดุดันกับสกุณาแทน สายตาที่มองเธออย่างเหยียดหยาม ผู้หญิงที่กล้าสวมชุดนอนออกมาจากบ้าน คงจะผ่านสนามรบมาอย่างนับไม่ถ้วน แสร้งทำสีหน้าท่าทางเหมือนหวาดกลัว นี่คงจะเป็นมารยาหญิงแบบที่ราชันย์เคยเจอมาแบบนับไม่ถ้วนสินะ
แต่ด้วยรูปร่าง หน้าตา ทรวดทรงองค์เอว เธอนั้นจัดอยู่ในประเภทที่สวยเลยทีเดียว และยิ่งตอกย้ำให้ราชันย์มั่นใจขึ้นเป็นไหน ๆ ว่าเธอไม่น่ารอดมาจนถึงทุกวันนี้แน่ ๆ มารยาดี ตีเนียน มาคอยดูกันว่าจะแสร้งทำไปได้อีกนานแค่ไหน
“รูปร่างแบบนี้คงผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชนแล้วสินะ งั้นเรามาคุยกันเรื่องเงื่อนไขดีกว่า เงื่อนไขฉันง่ายมาก ภายในสามเดือนนี้ เธอต้องทำให้ฉันพอใจในทุก ๆ ด้าน ฉันถึงจะยกหนี้ทั้งหมดให้พ่อเธอ และเธอคงรู้ใช่ไหมว่าจำนวนเงินไม่ไช่น้อย ๆ จะให้แค่มานอนเป็นนางบำเรอบนเตียงสามเดือนแล้วหมดหนี้ก็คงไม่ได้ เตรียมใจไว้ด้วยล่ะและถ้าถึงกำหนดฉันจะคืนอิสระให้เธอ แต่! ภายในสามเดือนนี้เธอห้ามไปมั่วสุมกับคนอื่นเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาชีวิตพ่อเธอแทน”
“งั้น .. ฉันขอทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรได้ไหมคะ”
“หึ! ฉลาดดีนี่ ได้สิ! ฉันไม่มีปัญหา”