Ep.8

1857 คำ
Ep.8 Pair talk. "โอ๊ยย!! อีบ้า! ปล่อยกูนะ!!" ปากดีนัก! บอกให้หยุดแล้วไม่ยอมหยุดเอง มันต้องเจอแบบนี้แหละ ฉันไม่สนใจสิ่งที่ยัยนุ่นอะไรนี่พูด แต่กระชากหัวเธอแล้วเดินมาหยุดที่ประตูทางออกของเครื่องบิน ก่อนจะหันไปบอกแอร์โฮสเตจที่วิ่งตามมา "รบกวนเปิดประตูเครื่องให้ด้วยค่ะ" "ผู้โดยสารอย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ ดิชั้นว่าคุยกันดีๆ เถอะค่ะ" คงกลัวตัวเองจะเดือดร้อนสินะ ที่แก้ปัญหาไม่ได้และปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น "เปิด! ก่อนที่ความอดทนฉันจะไม่เหลือเลย" ฉันสั่งเธอเสียงเข้มอีกครั้ง ขืนปล่อยให้แอร์ฯ กับกัปตันจัดการกันเอง ฉันนี่แหละจะปรี๊ดแตกใส่ทุกคนแทน "แต่ว่า..." เธอหยุดพูดลงทันทีเมื่อเห็นสายตาเย็นเยียบของฉันที่มองเธออย่างกดดัน เธอหันไปมองหน้ากัปตันที่ยืนอยู่ข้างหลังเธออย่างขอคำปรึกษา จนกัปตันพยักให้เธอเล็กน้อย เธอถึงยอมเปิดประตูเครื่องให้ฉัน "กรี๊ดดด ปล่อย! กูบอกให้ปล่อย! โอ๊ยยย!!" ฉันกระชากหัวยัยปากดีนี่ออกมาจากเครื่อง ก่อนจะเหวี่ยงเธอลงพื้นทางเดิน "อยากมีเรื่องมากนักไม่ใช่เหรอ ก็มาดิจะจัดให้!" เธอลุกขึ้นยืนและมองหน้าฉันอย่างโกรธจัด ก่อนที่เธอจะพุ่งเข้ามาหาฉัน เพี้ยะ!! ฉันไม่ปล่อยให้เธอเข้ามาถึงตัว รีบตวัดมือออกไปตบหน้ายัยนั่นทันที จากนั้นฉันก็ไม่ปล่อยให้ยัยนั่นเว้นช่วงหายใจ รีบพุ่งเข้าไปกระชากผมและตบไปอีกสามสี่ฉาด "แพรหยุด! พอได้แล้ว!" วินเซนต์ที่เพิ่งวางสายหลังจากที่คุยกับใครสักคน เขารีบเข้ามาดึงตัวฉันที่กำลังเมามันกับการตบออกไปจากยั่ยนั่น และมันก็เป็นช่องว่างที่ทำให้ยัยนั่นพุ่งเข้ามาตบฉันคืนได้ เพี้ยะ!! "วินเซนต์ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้" ฉันหันหน้ากลับมามองยัยนั่นด้วยอย่างเดือดดาล และรีบแกะแขนวินเซนต์ที่กอดเอวฉันเอาไว้ออก "หยุดมีเรื่องกันได้แล้ว แพร!!" เขาตะคอกเสียงดัง ตอนนี้ฉันหงุดหงิดเขามากๆ ทั้งโกรธทั้งโมโหยัยนั่น แล้วก็ยังมาหงุดหงิดให้กับความไม่ฉลาดของอีตานี่อีก! "ปล่อยฉัน! ไปจับยัยนั่นนู่น!!" ฉันตวัดสายตาขึ้นไปมองวินเซนต์อย่างโกรธเคือง พร้อมกับยัยนุ่นที่พุ่งเข้ามาตบฉันได้อีกครั้ง เพี้ยะ!! "โอ๊ยย!!" เจ็บฉิบ! "นุ่นหยุด!" เขาสั่งเสียงเข้ม พร้อมกอดและเบี่ยงตัวฉันไปอีกทางก่อนที่ยัยนุ่นจะพุ่งเข้ามาตบอีก นี่เขาโง่จนไม่รู้เลยเหรอ ว่าการที่เขากอดฉันไว้แบบนี้มันทำให้ฉันเสียเปรียบ "ไม่! อีนี่มันตบนุ่นไปตั้งหลายครั้ง นุ่นไม่ยอม วันนี้นุ่นต้องได้เอาคืน!" พูดจบเธอก็พุ่งเข้ามาหาฉันทันที ส่วนวินเซนต์เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยฉัน และเอาแต่เบี่ยงตัวฉันหนีจากยัยนุ่น "วินเซนต์! ปล่อยฉัน!" ฉันตะโกนบอกเขาเสียงดัง แม่งไม่ไหวแล้ว "ไม่เอาแพร อย่ามีเรื่อง!" ยังมีหน้ามาทำเสียงดุอีก "ถ้าไม่ปล่อย นายจะเป็นรายต่อไป!" ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขาอย่างเคืองๆ แต่เมื่อฉันหันกลับไปมองยัยนุ่น ก็คือ... เพี้ยะ!! สาม! ใช่ค่ะ! ฉันโดนยัยนั่นตบเป็นครั้งที่สามแล้ว แถมยังซ้ำรอยเดิมอีกต่างหาก มา! วันนี้ถ้าฉันเอาเลือดออกหัวยัยนุ่นอะไรนี่ไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกฉันว่าอีแพร! พอยัยนุ่นได้ตบฉันไปถึงสามครั้ง ก็เหมือนจะได้ใจรีบยกมือขึ้นหมายจะตบฉันอีกครั้ง แต่ฝันไปเถอะ! ตุ้บ! "โอ๊ยยยย!!" ยัยนุ่นล้มลงไปที่พื้นเมื่อฉันยกตัวขึ้นแล้วใช้เท้าถีบเข้ากลางลำตัวไปเต็มแรง ส่วนวินเซนต์ก็เหมือนจะอึ้งฉันทำแบบนี้ ฉันก็เลยรีบสะบัดตัวออกจากเขาก่อนจะกันไปฟาดมือใส่แก้มเขาเต็มแรง เพี้ยะ!! ถือว่าทดแทนที่เขาทำให้ฉันโดนยัยนุ่นตบไปตั้งสามฉาดละกัน จากนั้นฉันก็หันไปจัดการยัยนุ่นต่อ ทั้งตบ ทั้งทุบ ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาจับฉันแยกออกไป พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่มาปฐมพยาบาลให้ยัยนุ่นที่นอนขดตัวอยู่ที่พื้น หึ! รู้จักอีแพรน้อยไป จากนั้นฉันก็ไม่สนใจอะไร แล้วหมุนตัวเดินกลับขึ้นเครื่องอย่างไม่แคร์สายตาใครทั้งนั้น และไม่ลืมที่จะเอานามบัตรตัวเองให้พนักงานเพื่อที่จะได้เคลียร์ค่าเสียหาย และเคลียร์กับตำรวจที่ต้องเรียกตัวฉันไปสอบสวนหลังจากนี้ ก็แน่ล่ะ...มีเรื่องกันบนเครื่อง แถมยังในสนามบินขนาดนี้ เรื่องคงไม่จบไปง่ายๆ @เชียงใหม่ พอเครื่องจอดสนิท ฉันก็รีบเดินออกจากเครื่องทันทีโดยไม่สนใจที่จะรอผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้ฉันโดนเจ็บตัว บอกเลยฉันหงุดหงิดมาก ดูท่าทางก็ไม่ใช่คนโง่ แต่ทำไมถึงโง่ก็ไม่รู้ "แพร เดี๋ยวก่อน" วินเซนต์วิ่งตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ "อะไร" ฉันหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเหวี่ยงๆ "จะรีบไปไหน" เหอะ! คำถามโง่ๆ "โรงแรม ฉันเหนื่อย" พูดจบฉันก็ดึงมือตัวเองกลับมา และเริ่มเดินอีกครั้ง "..." เขาไม่พูดอะไร และเดินตามฉันมาเงียบๆ จนกระทั้งนั่งรถมาถึงโรงแรมที่เราต้องเข้าพัก พอมาถึงห้องพักฉันก็หยิบผ้าขนหนูและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที โดยไม่สนใจที่จะคุยกับใครทั้งสิ้น อ้อ! ฉันกับวินเซนต์เราพักห้องเดียวกัน ตอนแรกฉันก็จองห้องของฉันแล้วล่ะ แต่อยู่อีกที่โรงแรมนึง เพราะมันเต็ม และด้วยความที่ฉันอยากจะพักที่โรงแรมนี้อยู่แล้ว พอเขาบอกว่าพักที่ไหนและชวนฉันมาพักด้วย ฉันก็ตกลงมากับเขาทันที ก็ตามนั้นแหละ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ตอนนี้ฉันหงุดหงิดมาก Pair talk end. Vincent talk. ทันทีที่เข้ามาในห้องพัก แพรก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปเลย โดยตลอดเวลาที่นั่งรถจากสนามบินมาจนถึงโรงแรม แพรไม่ยอมมองหน้าและปริปากคุยกับผมเลยสักคำ แต่ก็ช่างเถอะ ปล่อยให้เธอเข้าไปสงบสติอารมณ์ตัวเองในนั้นนั่นแหละ ...เฮ้อ ผมรู้นะว่าทำไมแพรถึงไม่ยอมคุยกับผม แพรโกรธที่ผมไปห้ามเธอและทำให้เธอโดนนุ่นตบ แต่จะให้ผมทำยังไงวะ ก็ตอนนั้นเป็นแพรที่ตบนุ่นอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมไปดึงนุ่นก็กลายเป็นว่าผมไปจับนุ่นเพื่อให้แพรตบได้ถนัดๆ น่ะสิ ผมเลยไม่มีทางเลือก เลยเข้าไปจับแพรแยกออกมา และผมก็พยายามที่จะดึงแพรออก ไม่ให้นุ่นได้เข้ามาทำร้าย แต่ก็พลาดอยู่ดี แล้วคนที่ยืนดูอยู่บริเวณนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามสักคน มีแค่ผมคนเดียวก็จับได้แค่คนเดียวปะวะ! แม่งเอ๊ย! ผมขยี้หัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด แล้วเดินออกมาสูบบุหรี่ที่นอกระเบียงเพื่อหวังให้มันช่วยดับความหงุดหงิดลงไปได้บ้าง ผมยืนสูบบุหรี่ไปได้สักพักเสียงสมาร์ตโฟนของผมก็ดังขึ้นมา Rrrrrrrrrrrr~ Rrrrrrrrr~ -ซิกซ์เซ้นส์- [มึงอยู่ไหนวะ] มันถามทันทีที่ผมกดรับสายมัน "กูอยู่เชียงใหม่ มีไร" [ไอ้เชี่ยย! ไปตั้งแต่ตอนไหนวะ กูอยู่หน้าห้องมึงเนี่ย] "กูมาเมื่อเช้า มึงมีไร" [ไม่มีไร กูแค่แวะมาหาเฉยๆ] "เออกูมาทำงานที่เชียงใหม่แล้วว่าจะอยู่เที่ยวด้วย อีกหลายวันกว่าจะกลับ" [เออๆ แค่นี้แหละ] ผมดึงสมาร์ตโฟนออกมาดูอย่างงงๆ อะไรของมัน แต่ช่างเถอะ ผมไม่เก็บมันมาใส่ใจหรอก ไอ้นี่มันก็ไร้สาระไปวันๆ พอไอ้ซิกซ์เซ้นส์วางสายจากผมไปได้ไม่นาน โทรศัพท์ผมมันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง Rrrrrrrrrrr~ Rrrrrrrrrrrr~ -Putter- เฮียเตอร์เหรอ ? ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะโทรหาผมเลยสักครั้ง แต่ที่โทรมาวันนี้ก็ไม่ต้องเดาเลย คงจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้แหละ ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ ก่อนที่จะกดรับสายไป "ครับเฮีย..." [นี่เจ้าขาเองค่ะพี่วินเซนต์ ได้ข่าวมาแว่วๆ ว่าเกิดเรื่องตบตีแย่งผู้ชายกันบนเครื่องบินของแฟนเจ้าขาด้วยแหละ ผู้ชายคนนั้นใครน้า] เจ้าขาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงร่าเริง ไม่ได้มีวี่แววของความเครียดเลย 'เจ้าขา' เธอเป็นแฟนของเฮียพัตเตอร์เจ้าของสายการบินที่ผมเพิ่งนั่งมา จริงๆ เธอก็อายุไล่เลี่ยกับผมนะ ห่างกันแค่ไม่กี่เดือนเอง แต่เธอก็เรียกผมว่าพี่ "ไม่ได้แย่งผู้ชาย" ผมรีบแย้งไปทันที เพราะไม่รู้ว่าเล่ากันไปกี่ปากต่อกี่ปาก กว่าจะถึงไปถึงผู้บริหารขนาดนั้น ข้อมูลคงผิดเพี้ยนไปเยอะ [อ้าว!? ไม่ได้แย่งผู้ชายแล้วแย่งอะไรล่ะ] "แย่งที่นั่ง" [แค่ที่นั่งเนี่ยนะ!?] จริงๆ ก็มีปัจจัยที่เรียกว่าผู้ชายเข้ามาเกี่ยวด้วยสำหรับนุ่นนะ แต่สำหรับแพรเธอคงมีเรื่องเพราะเธอรำคาญนุ่นมากกว่า ไม่ได้มีเรื่องเพื่อแย่งอะไรทั้งนั้น "รอดูที่กล้องวงจรปิดเองละกัน" [ที่กล้องมันเห็นแค่ภาพนี่คะ ไม่มีเสียง] เธอทำเสียงเหมือนเสียดาย “...แล้วเฮียเตอร์อยู่ไหน" ผมถามเจ้าขา [อยู่นี่แหละค่ะ นั่งทำงานอยู่] "ขอคุยด้วยหน่อย" [ได้ๆ] "..." จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเจ้าขาคุยกับเฮียเตอร์อยู่สักพัก และไม่นานเฮียก็มาคุยกับผม [อืม ว่า ?] นิ่งๆ ตามสไตล์นั่นแหละ "ผมขอโทษนะเฮีย ที่วันนี้ผมสร้างความวุ่นวายให้" ถึงจะไม่ใช่ความผิดผม แต่เรื่องมันก็เกิดจากผม ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายและเสียหาย จะวุ่นวายและเสียหายแค่ไหนรอดูข่าวกับหุ้นพรุ่งนี้ได้เลย เรื่องธุรกิจมันไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ บอกเลย [อืม มึงไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่เหรอ ?] "ครับ แต่เรื่องมันก็มาจากผมอยู่ดี" ผมพูดไปอย่างไม่สบายใจ [ไม่เป็นไรหรอก] "เดี๋ยวผมรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นเอง เฮียจะเอาไงว่ามาได้เลยนะครับ เดี๋ยวกลับจากเชียงใหม่ ผมไปจัดการ" [อืม เอาไว้ค่อยคุยทีหลัง] และจากนั้นเฮียเตอร์ก็วางสายไป ส่วนผมก็เดินเข้ามาในห้อง แพรยังไม่ออกมาจากห้องน้ำอีกเหรอวะ ผมว่าผมอยู่นอกระเบียงนานมากแล้วนะ เฮ้อออ ช่างเถอะ! สงสัยเธอคงจะหงุดหงิดผมมาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม