“ไม่ล่ะ ผมวางไว้ตรงนี้ มากินก่อนที่มันจะอืด ผมจะไปอาบน้ำแล้ว” อติรุจกล่าวเสียงเข้ม ก่อนที่เขาจะตัดใจเดินไปอาบน้ำ เขาทำได้ดีที่สุดเท่านี้ ส่วนเธอจะรับประทานมันหรือไม่นั่นมันก็แล้วแต่เธอ
“ถ้าไม่เททิ้ง เดี๋ยวฉันจะเป็นคนไปเททิ้งเอง” หญิงสาวยังคงพยศเมื่อเธอไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากชายหนุ่ม นี่เขาคงไปอาบน้ำแล้วอย่างที่เขาบอกเธอ เสียงท้องของหญิงสาวก็ร้องขึ้นเป็นระยะ แต่ด้วยทิฐิของเธอ มันทำให้เธอไม่ยอมรับประทานมาม่า หญิงสาวหยิบน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับความหิว เธอยังคงนั่งอยู่ที่ระเบียง เพื่อรอให้บอดี้การ์ดของเธอมาง้อ แต่เขากลับไปไม่ทำเช่นนั้น เพราะเมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ ด้วยความปวดแผลที่หัวไหล่ ทำให้ชายหนุ่มเข้านอนทันที แต่เขาก็ยังไม่วายที่จะวางปืนไว้ข้างตัว เผื่อว่าพวกคนร้ายจะบุกเข้ามา
หญิงสาวนั่งอยู่จนพระอาทิตย์ตกดิน เธอจึงเดินเข้ามาสำรวจในบ้าน เธอพบว่าชายหนุ่มเข้าไปยังห้องนอนของเขาเรียบร้อยแล้ว แสดงว่าหนทางปลอดโปร่ง เพราะตอนนี้เธอหิวเสียจนลืมศักดิ์ศรีที่เธอพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอจะไม่ทานมาม่า
หญิงสาวกำลังเดินไปที่ชามมาม่า ซึ่งตอนนี้มันอืดหมดแล้ว หญิงสาวจำใจหยิบมันขึ้นมารับประทานด้วยความหิวโหย ถ้าหากว่าอติรุจเปิดประตูออกมาเห็นเธอตอนนี้ หญิงสาวคงรู้สึกว่าตนเองเสียฟอร์มมาก หญิงสาวรีบรับประทานจนแทบจะสำลัก
น่าแปลกเหลือเกินที่ตอนนี้มาม่ากลายเป็นอาหารที่อร่อยมากสำหรับเธอ อาจจะเป็นเพราะว่าทั้งวันไม่มีอะไรตกถึงท้องเธอเลย มาม่าที่เธอดูถูกเมื่อหัวค่ำจึงกลายเป็นอาหารชั้นเลิสขึ้นมาทันที ดานิการับประทานมาม่าอืดที่อยู่ในชามจนหมดเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็จัดการเก็บกวาดหลักฐานเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าแทบแอบมารับประทานมาม่า เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอจึงไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ หญิงสาวมองไปรอบๆ ด้วยความระแวงด้วยกลัวว่าจะมีสัตว์เลื้อยคลานเข้ามา จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรเข้ามา หญิงสาวรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
ดานิกาจึงรีบเข้าห้องที่อยู่ข้างห้องของชายหนุ่ม จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย ก่อนที่เธอจะหลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้า แม้เพิ่งจะลงจากเครื่องแต่เธอก็ไม่มีอาการเจ็ตแล็คแต่อย่างใด เธอหลับสนิทและก็ตื่นขึ้นมาเกือบแปดโมงเช้า ดานิกาเดินออกไปสูดอากาศข้างนอก ซึ่งเธอพบว่าที่นี่อากาศดีมาก หญิงสาวยังชื่นชมบรรยากาศของเขาใหญ่ด้วยความสุขใจ บางทีมันก็ไม่ได้แย่นักหรอกกับการที่ต้องหลบศัตรูของบิดามาอยู่ที่นี่ ดานิกาพยายามมองในแง่บวก