“เธอหวานไปทั้งตัว”
ชายหนุ่มกล่าวชมชิดกับทรวงอกของเธอ ทำให้หญิงสาวหายใจสะท้านและใบหน้าแดงก่ำ ทั้งขัดเขินและเร่าร้อน ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกได้ถึงทรวงอกที่เครียดครัดของตนเอง ขณะที่ความรู้สึกเสียววาบคล้ายกับบิดเป็นเกลียวเขม็งในช่องท้องของเธอ หญิงสาวหายใจหอบสะท้านไม่เป็นจังหวะดวงตาหรี่ปรือและเต็มไปด้วยไฟพิศวาสที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ฝ่ามือใหญ่ของเขาปลดปล่อยการครอบครองจากทรวงอกอวบนุ่ม เปลี่ยนเป็นริมฝีปากของเขาที่เข้าครอบครองอีกครั้ง หญิงสาวถึงกับร้องครางเสียงหวานอีกหนเมื่อรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วกายในยามที่เขาขบฟันลงกับยอดอกของเธอ ขณะเดียวกันฝ่ามือใหญ่เลื่อนไล้ไปตามสีข้างของเธอ แตะต้องปลายนิ้วกับขอบกางเกงยีนที่แนบชิดไปกับสะโพกผาย เธอสั่นสะท้านในตอนที่เขาปลดกระดุมกางเกงของเธอและดึงรั้งมันออกจากท่อนขาเรียวเล็กของเธอออกอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาไม่ทำให้เธอคุ้นชิน หญิงสาวหน้าแดงซ่าน สองมือยกขึ้นปิดป้องตัวเองด้วยความอายแม้จะรู้ว่ามันสายเกินไปแล้วก็ตามที่ทำอย่างนี้
เธอได้ยินเสียงหัวเราะของเขาดังข้างหู ใบหน้าของหญิงสาวรู้สึกเห่อร้อนและซาบซ่าน ก่อนจะต้องร้องอุทานอย่างตกใจเมื่อชายหนุ่มดึงมือของเธอออกจากทรวงอก แทรกตัวเองเข้าระหว่างร่างของเธอ ขณะที่ออกแรงกดข้อมือเล็กลงกับเตียงนอนด้วยลักษณะรุนแรงนิดๆ จนเธอทำอะไรไม่ถูก
“คุณมาเรียส...”
หญิงสาวได้แต่ครางเรียกชื่อเขา เนื้อตัวร้อนวูบวาบไปหมดในยามที่ร่างกายใหญ่โตนั้นจงใจทิ้งตัวเองเสียดสีกับร่างของเธอ ความเสียวซ่านไหลเวียนไปทั่วตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“เธอสวยมากจริงๆ กระต่ายน้อยของฉัน”
ชายหนุ่มพึมพำชิดยอดอกของเธอ ก่อนจะครอบครองยอดอกเธออีกครั้งแล้วขบเม้มดึงดูดอย่างรุนแรงจนทำให้เธอครางเรียกชื่อเขาอีกหน ฝ่ามือใหญ่ปล่อยข้อมือเธอให้เป็นอิสระขณะที่เขาฟอนเฟ้นฝ่ามือไปทั่วร่างงามของเธออย่างหลงใหลจนหมดหัวใจ ความใหญ่โตของเขาดุนดันเบียดแนบชิดกับร่างน้อยของเธอจนหญิงสาวสัมผัสได้
เจลกาได้แต่ครางเสียงหวานและมิอาจต้านทานสัมผัสร้อนแรงและเต็มไปด้วยความปรารถนาของเขาได้อีกต่อไป เธอหลงใหลมัวเมาไปกับความรู้สึกใหม่ที่เขากำลังสอนและปรนเปรอให้จนเธอไม่เป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อรับรู้ได้ถึงปลายนิ้วแข็งแรงของเขาที่แตะต้องบนกลีบกุหลาบงามที่กำลังผลิบานของเธอ
“อ๊ะ!”
หญิงสาวกระถดตัวหนีด้วยความตกใจ ทว่าชายหนุ่มไม่ยอมให้เธอทำอย่างนั้น เขาทิ้งน้ำหนักตัวลงบนตัวเธอไม่ให้เธอหนีไปได้ ขณะที่แทรกลึกเข้ามาในร่างของเธออีกครั้ง แม้จะแผ่วเบาแต่กลับทำให้หญิงสาวสั่นสะท้านจนยากที่จะระงับได้
“ฉันต้องการเธอ”
ชายหนุ่มกล่าวอย่างตรงไปตรงมาขณะที่ยอมถอนปลายนิ้วออกไปพร้อมกับที่เขาผละไปจากร่างของเธอ ยามเมื่อไม่มีร่างสูงใหญ่อยู่เหนือกายเจลกาพลันรู้สึกหนาวเยือกสั่นสะท้าน และเกือบจะยกมือขึ้นไขว่คว้าร่างสูงใหญ่นั้นไม่ให้จากเธอไป
“เจ...”
ระหว่างนั้นเธอไม่รู้จะตอบคำถามของเขาอย่างไร ในลำคอรู้สึกแห้งผากและไม่อาจเอ่ยอะไรตอบออกมาได้ว่าเธอก็ต้องการเขาไม่ต่างกัน
ไม่นานชายหนุ่มก็กลับมาหาเธออีกครั้ง ร่างกายสูงใหญ่ของเขาเปลือยเปล่าและเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นตึงไปทุกส่วน ดูงดงามราวกับนักรบหรือรูปปั้นที่พระเจ้าบรรจงสร้าง ก่อนหญิงสาวจะต้องหลบสายตา ใบหน้าพลันแดงซ่านและร้อนวาบเมื่อเหลือบมองกลางร่างของเขา ส่วนนั้นที่เหยียดขยายทำให้ใจของเธอเต้นไม่เป็นส่ำ เขาดูใหญ่โตจนเธอหวาดหวั่น
มาเรียสมีผิวสีแทนสวยไปทั้งตัว ทว่ายามเมื่อเขาทาบทับเหนือร่างเธอนั้นเห็นได้ชัดเจนว่ามันดูตัดกับสีผิวของเธอจนดูคล้ายกับไม่มีทางเข้ากันได้ ทว่าในความรู้สึกของเธอในยามที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาเช่นนี้ต่างหากกลับพบว่านี่คือที่ที่เธอต้องการและปรารถนามากที่สุด
ด้วยความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจ เธอยื่นมือแตะบ่ากว้างที่เรียบตึงและผิวสัมผัสของเขานั้นเรียบลื่นราวกับผ้าไหม เธออยากจะกอดเขาให้แน่นสมกับที่ใจอยาก ทว่าที่ทำได้มีเพียงวางมือบนนั้น ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างที่เธอไม่สามารถโอบกอดเขาได้มิด และพยายามข่มกลั้นเสียงครางออกมาในยามที่เขาพรมจูบไปทั่วเรือนร่างของเธออีกครั้งอย่างชอบใจ ขณะพึมพำพูดให้เธอได้ยินเพียงสองคนว่าเขาอยากจะทำอะไรกับเธอบ้างในทุกๆ ตารางนิ้วบนเนื้อตัวของเธอ
คำพูดเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกซ่านซ่าและเสียวซ่านไปทั้งตัว ก่อนจะแทบกลั้นหายใจในยามที่รับรู้ได้ว่าเขากำลังแตะต้องใจกลางร่างของเธออีกหน สัมผัสกลีบกุหลาบงามที่ไม่เคยมีใครสัมผัสอย่างใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อนนอกจากเขาในยามนี้
“คุณมาเรียส...”
เธอได้แต่ครางเรียกชื่อเขาในยามที่เขาผลักดันท่อนขาเรียวของเธอให้เปิดรับเขา อกใจสั่นระรัวก่อนจะร้องครางออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในยามที่เขาแทรกตัวตนใหญ่โตนั้นเข้าครอบครองเธอ
“ฮื่อ...เจเจ็บ”
เธอได้แต่ร้องครางประท้วง ขณะที่พยายามจะถดร่างหนีแต่ไม่อาจทำได้เพราะฝ่ามือใหญ่ยังคงยึดจับสะโพกผายของเธอเอาไว้แน่น เขานิ่งอยู่อย่างนั้นและมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดคับแน่นจนแทบจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“เจ...อย่าเกร็ง เชื่อฉัน ปล่อยตัวตามสบายแล้วหลังจากนี้มันจะไม่เจ็บ”
เขาปลอบประโลมเธอเสียงทุ้มนุ่มทว่าสั่นพร่า เห็นได้ชัดว่า ชายหนุ่มเองก็ต้องข่มกลั้นไม่น้อยที่จะไม่โจนจ้วงเข้าสู่ความคับแน่นที่แสนอ่อนนุ่มที่ตอนนี้โอบรัดเขาแน่น มาเรียสก้มหน้าลงแล้วจงใจแทรกปลายลิ้นร้อนกับปากนุ่มอีกหน ปลุกให้เธอเกิดอารมณ์ปรารถนาอีกครั้งและไม่ถอยหนี แม้ใจจะสงสารเธอเพราะเห็นว่าเธอเจ็บเสียจนน้ำตาเอ่อคลอ แต่เขามาถึงขั้นนี้แล้วและจะไม่มีวันปล่อยเธอไปอย่างเด็ดขาด
สองมือของเขาฟอนเฟ้นไปทั่วร่างงาม หยอกเย้าจนเธอตัวอ่อนลงและเลิกต่อต้านเขาแล้ว ชายหนุ่มเลื่อนมือไปยึดจับข้อมือเล็กของเธอแล้วชักนำให้เธอวางมันลงบนไหล่ของเขาอีกครั้ง ให้เธอโอบกอดแนบชิดกับเขา ในขณะที่เขาเลื่อนมือเข้าหาสะโพกผายงดงามของเธออีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนไปจูบริมฝีปากเล็กแสนหวานของเธออีกหน ปิดกลั้นเสียงร้องของเธอแล้วผลักดันตัวตนกร้าวแกร่งของเขาเข้าสู่ร่างเล็กที่แสนคับแน่นเพราะไม่เคยมีใครได้ครอบครองเธออย่างนี้นอกจากเขามาก่อน
หญิงสาวตัวสั่นเทา เธอครางในลำคอขณะที่ปลายเล็บจิกข่วนไปทั่วแผ่นหลังของเขาจนมาเฟียหนุ่มรู้สึกแสบยิบ ทว่าอารมณ์ปรารถนาของเขามีมากกว่า เขาตัวสั่น แทบจะร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงจิตวิญญาณในยามที่กอดรัดร่างเล็กบางเอาไว้แน่น และซึมซับทุกๆ สัมผัสยามเมื่อเขาอยู่ภายในร่างกายของเธอ ความอ่อนนุ่มที่โอบรัดเขาแน่นนั้นทำให้เขาแทบจะขาดใจตายเสียให้ได้ในเวลานั้น
มาเรียสนิ่งแช่ตัวเองอย่างนั้นเพื่อให้หญิงสาวคุ้นชินกับเขา เธอตัวเล็กมากเหลือเกินเสียจนเขาแทบกลัวว่าตนเองจะทำให้เธอแตกสลายได้ เขาลูบไล้ฝ่ามือกับใบหน้าเล็ก สัมผัสได้ถึงน้ำตาที่ไหลซึมจากหน่วยตาเรียวโตของเธอ ด้วยความรู้สึกเอ็นดูปนสงสาร เขาอดจูบลงบนเปลือกตาบางใสเพื่อปลอบประโลมเธอไม่ได้ ขณะที่เธอกอดรัดเขาแน่นและร้องครางในลำคอด้วยความรู้สึกเจ็บ
ทว่าเจลกานั้นเป็นนักสู้ไม่ต่างจากตอนที่เธอเป็นเด็กและได้ทำเรื่องกล้าหาญอย่างการช่วยเหลือเขาในตอนที่ถูกไล่ฆ่า ไม่นานหญิงสาวก็ปรับตัวได้ เธอขยับตัวยุกยิกเคลื่อนไหวใต้ร่างของเขา และนั่นทำให้เขาหมดสิ้นความอดทน