เจลการู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน...
เป็นความฝันร้อนแรงที่ยากจะหยุดยั้ง
เจลกาไม่รู้ว่าตนเองขึ้นมาอยู่บนห้องนอนของมาเรียสได้อย่างไร ไม่รู้ว่าเดินตามเขามาตอนไหน หรือเขาพาเธอมาได้อย่างไร เธอรู้สึกมึนเมา ไม่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เพราะไฟพิศวาสที่กำลังแผดเผาตัวเธอในยามนี้
ริมฝีปากของเธอยังคงถูกครอบครองอย่างร้อนแรง หญิงสาวรู้สึกได้ถึงเรียวลิ้นของเขาที่รุกเร้าพัวพันกับลิ้นของเธอ หญิงสาวหอบหายใจสะท้าน ร่างกายซาบซ่านไปทุกส่วนยามเมื่อฝ่ามือใหญ่ไล้ผ่านไปตามร่างกายของเธอ ฝ่ามือเล็กของเธอลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อแน่นเรียบตึงของชายหนุ่ม เธอสัมผัสมันได้ผ่านเนื้อผ้า
อารมณ์พิศวาสนั้นไม่ต่างจากไฟที่กำลังเผาไหม้ตัวเธออย่างรุนแรง โหมกระหน่ำ และยากที่จะหยุดยั้งได้ เจลกาสะท้านเฮือกด้วย ความซ่านซ่าที่แล่นปราดไปทั่วกาย ความรู้สึกเสียวซ่านกำลังเล่นงานเธอ ปลายเท้าและนิ้วมือของเธอจิกเข้าหากันในยามที่ยากจะอธิบายได้ว่าตนเองควรทำเช่นไร
มาเรียสถอนริมฝีปากออกไป เขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด ดวงตาสีฟ้าอมเทาคู่นั้นกระจ่างชัดแม้ในความมืด สองมือใหญ่เลื่อนขึ้นมาประคองดวงหน้าของเธอเอาไว้ ขณะที่เขาบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ว่า
“อย่าเกร็ง ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว”
ชายหนุ่มกล่าวขึ้น ถึงอย่างนั้นเธอก็อดหวาดหวั่นไม่ได้เพราะเธอยังไม่เคยอยู่ในอ้อมกอดของใครมาก่อน เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เธอไม่เคยทนสัมผัสกับใครได้นาน แม้ว่าเธอจะเคยพยายามคบใครสักคนสุดท้ายก็ไม่อาจหลอกตัวเองได้ว่าคนที่เธอต้องการที่สุดก็ยังเป็นมาเรียส วาคอนซีเลสอยู่ดี
“คุณมาเรียส...”
เธอเรียกชื่อเขาเสียงหวาน ร้องแผ่วเบาราวกับเป็นเสียงคราง ความรู้สึกในกายเธอปั่นป่วน เสียวซ่านไปทั่วร่างจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
“เธอรักฉันไม่ใช่เหรอเจ”
“...”
“แสดงออกให้ฉันเห็นสิว่าเธอรู้สึกอย่างนั้น”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม เขาดันร่างเธอออกมาขณะที่เลื่อนปลายนิ้วหยุดที่ริมฝีปากที่รู้สึกเห่อร้อนและบวมช้ำของเธอเพราะฤทธิ์จูบของเขา
“เจรักคุณจริงๆ แต่ว่าเจ...”
เธอยังไม่เคย เธอไม่เคยอยู่ในอ้อมกอดของใครมาก่อน เธอไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงต่อไป
หญิงสาวได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเขา บอกผ่านสิ่งที่รู้สึกเหล่านั้นผ่านแววตาและความรู้สึกกระวนกระวายใจ ขณะที่ชายหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปาก เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้องการเยาะหยันที่เธอทำเป็นใจกล้ากระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของเขาแต่สุดท้ายกลับเป็นเพียงกระต่ายซื่อๆ ที่ทำอะไรไม่เป็นหรือเปล่า
“เธอไม่เคย”
เขาพูดขึ้นมาจนได้ น้ำเสียงนั้นเจือแววหัวเราะน้อยๆ
เธอพยักหน้าหงึกหงัก ก้มหน้างุด รู้สึกได้ถึงเส้นผมยาวบางส่วนที่กำลังละดวงหน้ายามเมื่อเธอก้มหน้าลง ปลายนิ้วของเขาเลื่อนจากริมฝีปากของเธอแล้วและมือใหญ่ของวางอยู่บนไหล่เล็กของเธอแทน
“เงยหน้าขึ้นมา”
เขาออกคำสั่งและหญิงสาวก็ทำตามนั้นด้วยความรู้สึกสั่นไหว เธอรู้สึกราวกับถูกไฟร้อนลวกบนผิวกายในยามที่ฝ่ามือใหญ่นั้นกางแนบชิดอยู่กับต้นคอเล็กของเธอ
“อย่าหลบหน้าฉัน”
“เจไม่ได้...” หญิงสาวคิดจะปฏิเสธแต่เขาส่ายหน้าขึงตาดุใส่เธอ
“เธอทำ ถ้าอยากเป็นผู้หญิงของฉัน เธอก็ต้องรับให้ได้เจลกา ฉันไม่ใช่พ่อพระที่จะทำแค่จับมือกับเธอนอนบนเตียงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
“...”
“ความหมายของมันก็คือเธอจะอยู่ในอ้อมกอดของฉันและอยู่บนเตียงของฉัน”
เขาประกาศิตอย่างยโสโอหังและเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองซึ่งข่มให้เจลการู้สึกตัวเล็กจ้อยกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นช่างตรงไปตรงมาจนเธอไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้ว่าเธอไม่รู้
เพราะเธอรู้แก่ใจอยู่แล้ว...
“เจไม่ได้ปฏิเสธ เจแค่กลัว...”
เธอกลัวมากกว่านั้น กลัวว่าผ่านคืนนี้ไปเขาอาจจะทิ้งเธอไปได้ทุกเมื่อ และตอนนั้นเธอจะทำอะไรได้ เธอให้ทุกอย่างเขาไปจนหมด แต่เธอไม่กล้าเสี่ยงเพราะกลัวว่ามันจะล้มเหลว อย่างน้อยมันก็ไม่ควรล้มเหลวเร็วเกินไป
“เธอไม่ต้องกลัว แค่อยู่กับฉันตรงนี้ ไม่มีอะไรน่ากลัว”
เขาปลอบเธอเสียงนุ่ม ขณะที่ฝ่ามือใหญ่นั้นเลื่อนไปแตะตรงกระดุมคอเสื้อที่เธอสวมอยู่ เขาค่อยๆ แกะมันออกทีละเม็ดช้าๆ ขณะที่ดวงตาสีฟ้าอมเทาราวกับอัญมณีที่งดงามและล่อลวงผู้คน
หญิงสาวกลั้นหายใจ ตัวสั่นเทาขณะที่ปล่อยให้เขาเล้าโลมเธอต่อไป
“เธอแค่จะเป็นผู้หญิงของฉัน ก้าวเข้ามาในอ้อมกอดฉัน เธอถอยหลังกลับไปไม่ได้เพราะฉันจะไม่ปล่อยเธอไปนะเจ”
“...”
“มาถึงขั้นนี้แล้วฉันไม่คิดจะปล่อยมือเด็ดขาด!”
ชายหนุ่มกล่าวเสียงกร้าวดุดันก่อนจะก้มหน้าลงมาหาเธออีกครั้ง แล้วแนบริมฝีปากจูบเธออีกหน เจลกาไม่อาจต้านทานและไม่คิดจะต้านทานในยามที่เขารุกล้ำเรียวลิ้นเข้าสู่โพรงปากของเธออีกครั้ง ขบเม้มดึงดูดหยอกเย้าให้เธอคล้อยตามเขา ซึ่งมันเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเพราะเธอยินยอมอยู่แล้ว
หญิงสาวตัวสั่น ผิวกายเย็นยะเยือกในตอนที่รู้สึกได้ว่าในตอนนี้เสื้อของเธอถูกชายหนุ่มถอดออกไปแล้ว บนทรวงอกมีเพียงบราเซียแบบเรียบปกปิดทรวงอกอวบคู่งามเอาไว้เท่านั้น แล้ววินาทีต่อมาเธอก็รู้สึก ขนลุกซู่และคล้ายกับถูกแผดเผาด้วยไฟพิศวาส เมื่อฝ่ามือใหญ่ของ มาเรียสเลื่อนมาเกาะกุมทรวงอกของเธอ เขาปลดบราเซียของเธอออกอย่างรวดเร็วและนั่นทำให้เธอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนแทบจะล้ม
วินาทีต่อมาเธอรู้สึกว่าร่างลอยกลางอากาศจึงได้เห็นว่าชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้นก่อนจะก้าวตรงไปยังเตียงนอนใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ชายหนุ่มวางเธอลงบนเตียงอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ของเขาทาบทับตามมา
ดวงตาของเขาแวววาวทำให้เธอสั่นสะท้าน ไออุ่นจากร่างของเขาทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก เธอร้อนวาบแม้ยามนี้จะรู้ว่ารอบกายนั้นกำลังเยือกเย็นขนาดไหน ทรวงอกอวบนุ่มของเธอแนบชิดกับอกแกร่งของเขา
เธอเบิกตา หอบหายใจสะท้านกับความใกล้ชิดนี้ และยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรชายหนุ่มก็จูบเธออีกครั้ง ขบเม้มดึงดูดกลีบปากนุ่มของเธออย่างเร่าร้อนและเรียกร้อง พร้อมกับที่ฝ่ามือใหญ่แนบชิดกับทรวงอกของเธอ กอบกุมฟอนเฟ้นเสียจนเธอได้แต่ครางเสียงหวานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกเสียวซ่านแล่นไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เธอสะดุ้งทุกครั้งที่เขาปัดป่ายนิ้วมือผ่านยอดอกของเธอ การกระทำเช่นนั้นแทบจะกระชากลมหายใจจากเธอได้เลย
“คุณมาเรียส...”
เธอได้แต่ครางเรียกชื่อเขา ฝ่ามือเล็กจิกลงบนผ้าปูที่นอนแน่นแล้วบิดไปมาระบายความรู้สึกในตอนที่ชายหนุ่มเข้าครอบครองยอดอกของเธอด้วยริมฝีปากของเขา ทิ้งสัมผัสร้อนลวกเหล่านั้นบนผิวกายเธอ ทำให้เธอลุกไหม้ด้วยไฟปรารถนาที่เริ่มจะโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง เธอได้แต่ร้องครางอย่างเสียวซ่าน ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากปล่อยตัวไปตามที่เขากำลังชักนำ
“เธอหวานไปทั้งตัว”