Chapter 4
เติมความหวาน...
17.00 น.
เมื่อนาฬิกาบ่งบอกว่าเป็นเวลาห้าโมงเย็นหญิงสาวก็รีบปิดคอมพิวเตอร์ แล้วรีบลุกเดินออกไปจากโต๊ะทำงานทันที โดยที่เธอไม่ได้บอกกล่าวคนในห้องที่ตอนนี้มีสถานะเป็นเจ้านายของเธอเลยแม้แต่น้อย
ติ่ง!
เมื่อลิฟต์เปิดออกชั้นล่างของตึก ขาเรียวเล็กก็ก้าวเดินฉับๆ ด้วยความเร่งรีบ
“ยัยมัด! แกจะรีบไปไหน?” เสียงเอ่ยถามที่คุ้นหูดังขึ้น จนทำให้เท้าเล็กชะงักเท้าหยุดเดินลง กึก!
“อ้าว...ยัยปาย ฉันก็นึกว่าแกกลับไปแล้ว”
“จะกลับไปไหนล่ะ ในเมื่อตอนเช้าฉันมาพร้อมแกนะ อีกอย่างวันนี้พี่แจ๊สซี่ให้ฉันเลิกงานตั้งแต่สี่โมงเย็นแล้ว ฉันก็เลยมานั่งรอแกที่ชั้นล่าง...” สปายเพื่อนสาวคนสนิทของมัดหมี่ที่มาฝึกงานด้วยกันเอ่ยบอกมัดหมี่
“รอฉันหรือรอหลัวท่านรอง อื้อ!” มัดหมี่ยังไม่ทันพูดจบประโยค สปายก็พุ่งเข้ามาปิดปากมัดหมี่เอาไว้ทันที
“พูดอะไรของแก เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก” สปายเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมดุมัดหมี่ไปด้วย
“ได้ยินก็เปิดตัวไปเลยสิจ๊ะเพื่อนรัก แกจะปิดบังสถานะไปเพื่ออะไรในเมื่อพี่บิ๊กบอสอยากเปิดตัวขนาดนั้น”
“นี่...ยังไม่หยุดพูดถึงพี่บิ๊กบอสอีกใช่ไหม?” สปายดึงมัดหมี่ไปที่ลานจอดรถ เมื่อเห็นพนักงานประจำของบริษัทกำลังพากันทยอยเดินออกมาจากตึกเพื่อกลับที่พัก
“โห่! ได้หลัวเป็นถึงรองประธาน มีอะไรที่แกต้องอายด้วยเหรอยะ ถึงไม่กล้าเปิดตัว”
“ฉันไม่ได้อาย แต่ฉันไม่อยากใช้เส้นสายมาฝึกงานที่นี่”
“ฉันก็ไม่ได้อยากใช้เส้นสายฝึกงานเหมือนกัน” มัดหมี่เอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อน เพราะเมื่อตอนกลางวันที่โรงอาหารพนักงานบางคนแอบมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ จนเธอเองก็รู้สึกได้ อีกทั้งเช้าวันนี้ฝ่ายบุคคลก็ดูเกรงใจเธอเหลือเกิน
“เฮ้ย! แก ฉันขอโทษนะ อย่าเข้าใจฉันผิดนะยัยมัด ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดกระทบแกนะ” สปายรีบอธิบายให้มัดหมี่เข้าใจ เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดให้มัดหมี่รู้สึกไม่ดี แต่ที่เธอพูดออกมาแบบนั้นเพราะเธอต้องการพูดในมุมของตัวเอง จนลืมไปว่าที่มัดหมี่ต้องมาฝึกงานที่นี่เพราะทางบ้านของเธอบังคับ จนทำให้พนักงานประจำต่างพากันพูดถึงเพื่อนของเธอไม่น้อย
“ฉันไม่ได้ว่าอะไร ก็ฉันเป็นเด็กเส้นจริงๆ หนิ”
“ฉันขอโทษนะแก ที่ฉันพูดให้แกรู้สึกไม่ดี” สปายเอ่ยพูดอย่างสำนึกผิด
“ซีเรียสไปได้นะแกยัยปาย ฉันไม่ได้นอยด์แกสักหน่อย” มัดหมี่ตบไหล่สปายเบาๆ เพื่อไม่ให้สปายคิดมากกับคำพูดตัวเอง
“แกมีปัญหาอะไรกับพี่ใหญ่เหรอ? แล้วเมื่อเช้าทำไมปากแกบวมเจ่อเลย โดนพี่ใหญ่ทำอะไรหรือเปล่า?” สปายเอ่ยถามมัดหมี่ตามตรง เพราะตอนที่บิ๊กบอสพาเธอไปแนะนำตัวกับพี่ชายของเขาซึ่งเป็นประธานบริษัท BZ เธอเห็นมัดหมี่เอามือถูปากตัวเอง และดูเหมือนว่ามัดหมี่จะไม่ค่อยชอบประธานบริษัท BZ เท่าไรนัก
“ถามอะไรของแกเนี่ยยัยปาย ฉันก็แค่คันปากน่ะสิ...อยากด่าเขาแต่ด่าไม่ได้แกเข้าใจไหม” มัดหมี่เอ่ยบอกปัดไป ก่อนที่เธอจะยกมือลูบปากตัวเอง
“แล้วทำไมแกถึงอยากด่าเขาล่ะ เขาทำอะไรให้แกไม่พอใจงั้นเหรอ?”
“ฉันก็แค่ไม่ชอบเวลาเขาสอนงาน พี่ใหญ่เขาดุ ฉันไม่ชอบ”
“ก็ดีแล้วไงที่พี่ใหญ่เขาจริงจัง แกจะได้เรียนรู้ได้เร็วๆ...”
“ก็เขาไม่ได้สอนงานอย่างเดียวไง”
“ฮะ! ไม่ได้สอนงานเดียว แล้วเขาทำอะไรแก” สปายรีบเอ่ยถามทันที
“คิดบ้าอะไรของแกยัยปาย เขาด่าฉันย่ะ” มัดหมี่รีบเอ่ยพูดทันที เมื่อสปายมองเธออย่างจับผิด
“อ๋ออออ...” สปายลากเสียงยาว ก่อนที่จะมองมัดหมี่ด้วยรอยยิ้มมีเลศนัยราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจกับสิ่งที่เธอเห็นมา
“กลับกันเถอะ “ มัดหมี่รีบเปิดประตูและผลักสปายขึ้นรถ เมื่อเห็นท่านประธานและรองประธานกำลังเดินมาที่ลานจอดรถ
“ดูเหมือนรีบนะ เหมือนหนีใครอะ” สปายเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน เมื่อมัดหมี่รีบขึ้นรถและรีบขับออกมาจากบริษัท
“รีบไปพักผ่อน หรือแกอยากกลับกับหลัวเหรอ ฉันจะได้จอดให้แกลงตรงนี้เลย” มัดหมี่เอ่ยพูดแซวไปตามประสาเพื่อนสนิท
“จะกลับกับใครก็เหมือนกันนั่นแหละ เพราะยังไงฉันก็ต้องเจอเขาอยู่ดี” สปายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“จ้ะ” มัดหมี่ขานรับในลำคออย่างมันเขี้ยวเพื่อนสาวคนสนิท แล้วทำปากยู่ใส่สปายอย่างหมั่นไส้ และเมื่อมัดหมี่ขับรถไปส่งสปายที่คอนโดเรียบร้อยแล้ว มัดหมี่ก็ขับรถไปห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อเสื้อและกระโปรงนักศึกษาตัวใหม่ เพราะเสื้อผ้าที่มีอยู่ตอนนี้แต่ละตัวของเธอมีแต่เสื้อนักศึกษาที่รัดติ้วและกระโปรงตัวสั้นจิ๋ว...
วันต่อมา…
9.00 น.
“สวัสดีค่ะพี่ใหญ่” เมื่อไอศูรย์เดินมาถึงหน้าห้องทำงาน มัดหมี่ก็ยกมือไหว้เขาด้วยความนอบน้อม เพราะเดี๋ยวเขาจะว่าเธอได้ว่าไม่รู้จักไหว้ผู้ใหญ่หรือคนที่อายุมากกว่า เขายิ่งเป็นพวกประเภทที่ชอบสั่งสอนเธอเก่งอยู่ด้วย
“...” ไอศูรย์พยักหน้าตอบรับคำทักทาย ดวงตาคมกริบไล่มองเด็กฝึกงานของเขา ที่ในวันนี้เธอสวมเสื้อนักศึกษาพอดีตัวและกระโปรงพลีตความยาวเลยเข่า พอเธอแต่งตัวแบบนี้มันเหมาะกับเธอเป็นอย่างมาก
“รับกาแฟเลยไหมคะ”
“อืม...หวานน้อยนะ”
“รับทราบค่ะ” มัดหมี่ตอบรับด้วยรอยยิ้มสดใส
“...” คนตัวสูงเลิกคิ้วขึ้นกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องทำงานไป
‘หวานน้อยไม่รู้จัก รู้จักแต่หวานเป็นลม ขมเป็นยา หึๆ’ เมื่อร่างสูงเดินเข้าห้องทำงานไปแล้ว ใบหน้าสวยหวานก็ยิ้มกริ่มอยู่ภายในใจ จากนั้นคนตัวเล็กก็รีบวิ่งเข้าไปชงกาแฟให้เขา มือเล็กจัดการเทกาแฟลงบนถ้วยกาแฟครึ่งแก้ว และกดน้ำร้อนใส่แก้วนิดหน่อย
“หวานน้อยนะ หึ! หวานน้อยสมใจเลยค่ะเจ้านายขา~” ปากเล็กเอ่ยพูดพึมพำด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องแคนทีนของผู้บริหารอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ก๊อก! ก๊อก!
“ขออนุญาตค่ะ” มือเล็กผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของไอศูรย์
“กาแฟได้แล้วค่ะ” มัดหมี่เอ่ยบอกไอศูรย์ด้วยรอยยิ้มหวาน
“วันนี้ทำตัวแปลกๆ นะ” ไอศูรย์เอ่ยพูดด้วยความสงสัยกับท่าทีของหญิงสาวที่เปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน
“หนูอยากเป็นเด็กดี เชื่อฟังผู้ใหญ่ที่อายุแก่กว่าหนูมากๆ ค่ะ” ปากเล็กเอ่ยพูดออกมาด้วยรอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษ
“ปากอีกแล้วนะปาก” ไอศูรย์ที่กำลังจะยกกาแฟขึ้นดื่มต้องชะงักนิ่งไปกับคำพูดของหญิงสาว แล้วหันไปปรามเด็กฝึกงานของเขาทันทีที่ทำตัวน่ารักได้ไม่กี่นาทีก็ปากดีแอบด่าว่าเขาแก่จนได้
“หนูไม่ได้จะว่าพี่ใหญ่แก่นะคะ แต่พี่ใหญ่ก็แก่กว่าหนูตั้งเจ็ดปี” พูดจบ เธอก็ยกมือทำท่านับนิ้วความห่างอายุของเธอและเขาราวกับต้องการกวนประสาท
“อยากโดนแต่เช้าเหรอ?”
“งื้อ...ไม่ได้อยากโดน แต่แค่บอกว่าพี่ใหญ่แก่กว่าตั้งเจ็ดปี งั้น...หนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะเจ้านายขา~” พูดจบ เธอก็หมุนตัวจะเดินออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แต่แล้วฝีเท้าเล็กก็หยุดชะงักอยู่กับที่ เมื่อเสียงเข้มเอ่ยเรียกเธอไว้ก่อน
“เดี๋ยว!”
“คะๆ...” มัดหมี่ขานรับด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
“ไม่เอาคุกกี้มาด้วยล่ะ” พูดจบเขาก็ยกกาแฟขึ้นจิบ ใบหน้าหล่อเหลาปิดตาข้างหนึ่ง เมื่อกาแฟมันขมจนขึ้นคอ ปากหยักครางออกมาด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “อืม~ ไม่ต้องไปเอาคุกกี้แล้ว แต่เธอเดินมานี่ซิ” ไอศูรย์เอ่ยบอกมัดหมี่ ก่อนที่เขาจะหยัดตัวลุกขึ้นเต็มความสูง
“มีอะไรเหรอคะ...” มัดหมี่เดินเข้าไปหาเขาด้วยความสงสัยอยู่ภายในใจว่าเขาไม่รู้สึกขมเลยหรือไง เพราะเขาไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเลยสักนิด
“อ๊ะ! อื้อ” แขนแกร่งตวัดโอบกอดร่างบางไว้แน่น ส่วนอีกมือหนึ่งจับล็อกใบหน้าสวยหวาน แล้วฉกจูบปากเล็กอย่างดูดดื่ม
“อื้อ! ขม” ใบหน้าสวยหวานเบ้หน้าบิดเบี้ยวกับความขมของรสชาติกาแฟที่ได้รับรสเต็มปากจากปลายลิ้นสาก
“เธอลืมเติมน้ำตาลในกาแฟตามที่ฉันบอก”
“และถ้าครั้งหน้าเธอยังชงกาแฟมาแบบนี้อีก เธอก็เตรียมตัวเป็นน้ำตาลให้ฉันเติมความหวานได้เลย”
“...”
“เข้าใจไหมที่ฉันพูด...”
“เข้าใจค่ะ” มัดหมี่ตอบรับไปแบบนั้นเอง เพราะเธอคงไม่ยอมให้เขาจูบปากเธอบ่อยๆ แน่ และครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะขโมยจูบเธอได้ เพราะครั้งต่อไปเธอคงไม่ยอมอีกแล้ว...
“จ๊วบ!...”
“ว้ายยยย...พี่ใหญ่จูบหนูทำไมเนี่ย”
“แล้วเธอยืนเหม่ออะไรอยู่ ฉันก็นึกว่าเธออยากได้จูบเรียกสติ...” คนตัวสูงเอ่ยพูดอย่างเจ้าเล่ห์
“พี่ใหญ่จูบหนูมาห้าครั้งแล้วนะคะ”
“แล้วยังไง...”
“นะ...หนูจะฟ้องคุณน้าดารา”
“ตัวเตี้ยแค่เนี้ย ขู่ได้น่ากลัวจังว่ะ” ปากหยักแอบยิ้มมุมปาก มือสากวางทาบลงบนศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบาๆ ราวกับกำลังหยอกล้อคำพูดขู่ของเธอ
“อื้อ~ อย่ามาจับ” มัดหมี่ปัดมือสากออก แล้วเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าร้อนผ่าวและใจเต้นแรงแปลกๆ เธอก็ขู่เขาไปแบบนั้นเอง เพราะเอาเข้าจริงเธอคงไม่กล้าพูดเรื่องแบบนี้กับใคร โดยเฉพาะคุณแม่ของเขาและคุณแม่ของเธอ...